อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 8 วันที่ 16 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 8 วันที่ 16 ม.ค. 56

หากมองจากมุมบนลงมา จะเห็นตึกสูงเทียมฟ้า และอาคารบ้านช่องสูงต่ำไล่เรียงกันไป รถไฟฟ้าแล่นทะยานไปเบื้องหน้าเพื่อนำพาผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทาง ส่วนตรงบริเวณทางเท้าริมถนนนั้นเล่า ผู้คนขวักไขว่วุ่นวายเดินสวนกันไปมาด้วยท่าทีรีบร้อน

ขณะที่รถยนต์หลากหลายสไตล์แล่นอยู่บนท้องถนน ด้วยสภาพการจราจรแออัดไปหมด ยินเสียงบีบแตรรถขอทางดังอื้ออึง
นี่คือฉากชีวิตอันชินตาของกรุงเทพมหานครในปี พุทธศักราช ๒๕๕๖

เช้าวันนี้ภายในห้องครัวที่บ้านพิมพิลาส ป้าทิพย์กำลังเตรียมส่วนผสมสำหรับทำเค้กอยู่ เช่น แป้ง ไข่ น้ำตาล เนย โดยมีนิ่ม สาวใช้กำลังเอาอุปกรณ์ทำเค้กและแต่งหน้าเค้กออกมาเตรียมไว้บนโต๊ะ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น มี ‘ก้านร่ม’ สำหรับทำดอกกุหลาบวางอยู่ด้วย ป้าทิพย์เห็นเข้าก็ชะงักนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ



“นิ่ม” ป้าทิพย์หยิบก้านร่มขึ้นมา พลางพูดเสียงดัง “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามเอา ‘ของมีคม’ มาวางไว้ใกล้ๆ คุณหนู” หญิงสูงวัยเน้นคำตรงคำว่า...ของมีคม ตอนท้ายประโยค
“แต่อันนี้มันไม่มีคมนะคะ” นิ่มท้วง
ป้าทิพย์พูดสวนคำอย่างเร็ว “แต่มันแหลม” หญิงชราชี้ให้ดูตรงปลายก้าน “ถ้ามันจิ้มมือคุณหนูเข้าจะทำยังไง เอาไปเก็บ
นิ่มลนลานเอาก้านร่มใส่เข้าตู้แบบลวก ๆ แล้วปิดตู้
ทันใดนั้น ก็มีเสียงแก้วแตกดังเพล้ง!! ป้าทิพย์ร้อง “ว้าย” ด้วยความตกใจขณะหันไปดูตามเสียง
เห็นว่าที่อีกมุมของครัว หวาน สาวใช้อีกคนจัดแก้วแชมเปญใส่ถาดเตรียมจะยกออกไป แต่พลาด ทำแก้วตกแตกกระจายทั่วพื้น หวานตกใจ หน้าเหวอ!
ป้าทิพย์ เสียงดัง “หวาน! ทำไมซุ่มซ่ามอย่างนี้” หวานลนลาน “เก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ เก็บให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว!”
หวานลนลานอยู่อย่างนั้น แล้วรีบไปเอาไม้กวาดมากวาดเศษแก้ว ป้าทิพย์พร่ำบ่นไป
“รู้ก็รู้ว่าคุณหนูเป็นโรคลูคีเมีย เลือดออกไม่ได้ ถ้าเกิดคุณหนูเหยียบโดน แล้วเลือดไหลไม่หยุดขึ้นมาจะทำยังไง”
หวานเก็บเศษแก้วอย่างรีบร้อน เพราะป้าทิพย์คอยเร่ง
“เร็ว ๆ ซีคุณหนูจะลงมาแล้ว นิ่มมาช่วยกันดูเศษแก้วก่อน”
นิ่มกับหวาน รีบเก็บเศษแก้วอย่างถี่ถ้วน ถึงขนาดมุดตามใต้โต๊ะ หาทุกซอกทุกมุมเลยทีเดียว!

ระหว่างนั้นหญิงสาวผู้ที่ป้าทิพย์ห่วงใยหนักหนา พิมพิลาสแต่งตัวสวยงามกว่าทุกวันกำลังก้าวจากชั้นบน เดินลงบันไดเวียนปูพรมสวยมาอย่างช้าๆ และเลยผ่านไปยังห้องโถงในบ้าน
บริเวณห้องโถงใหญ่ภายในบ้านพิมพิลาส ทุกตารางนิ้วเป็นระเบียบเรียบร้อย เฟอร์นิเจอร์จัดวางไว้ตามมุมต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ โดยไม่มีส่วนใดยื่นออกมาให้เป็นสิ่งกีดขวางทางเดิน นอกจากนี้ยังไม่มีของตกแต่งชิ้นไหนที่เป็นของแหลมคมหรือแตกหักได้ แม้กระทั่งแจกันดอกไม้ กรอบรูป หรือเครื่องแก้วต่าง ๆ ก็ไม่มีวางให้เห็น

ส่วนภายในครัว ป้าทิพย์ตรวจดูความเรียบร้อยอยู่ โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่าที่หน้าประตูห้องครัว มีเศษแก้วแตกชิ้นใหญ่กระเด็นไปอยู่ตรงประตูนั้นพอดิบพอดี
จังหวะนั้นพิมพิลาสกำลังเดินตรงมาที่หน้าประตูห้องครัว หญิงสาวส่งเสียงทักทายอย่างอ่อนหวานมาก่อนตัว
“ทำอะไรกันอยู่คะ ป้าทิพย์”
ป้าทิพย์หันไปตามเสียง จึงเห็นว่าเท้าของพิมพิลาสกำลังจะเหยียบเศษแก้วแตกชิ้นนั้น ป้าทิพย์ร้องเสียงหลง
“คุณหนู หยุดค่ะ!”
พิมพิลาสตกใจกลัว หยุดชะงักทันที
“เศษแก้วค่ะ”
ป้าทิพย์วิ่งไปเก็บเศษแก้วแตกขึ้นมา พิมพิลาสถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เกือบไปแล้วไหมล่ะ คุณหนู”
ป้าทิพย์ว่าพลางหันไปทิ้งเศษแก้วแตกลงถังขยะที่หวานเดินมารับไป พร้อมกับค้อนสาวใช้ตาเขียว
“ซุ่มซ่ามกันเหลือเกิน ดีนะที่คุณหนูไม่เป็นอะไร”
นิ่มกับหวานหน้าจ๋อย พิมพิลาสยิ้มเยื้อนพูดอย่างใจดี
“อย่าไปว่านิ่มกับหวานเลยจ้ะ พิมผิดเอง โดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่ได้ เบื่อตัวเองจะตายอยู่แล้ว” หญิงสาวว่า

ไม่นานนัก พิมพิลาสเริ่มลงมือทำเค้ก โดยมีป้าทิพย์ นิ่ม และหวานคอยช่วย
“ที่จริงคุณหนูไม่เห็นต้องลงมาทำเองก็ได้นะคะ ป้าทำให้ก็ได้”
“ไม่ได้หรอกจ้ะ พิมอยากทำเค้กให้เขาด้วยตัวของพิมเอง” ซาบซึ้ง “ภูมิทำอะไรให้พิมมาตั้งเยอะแยะ วันนี้วันเกิดของเค้า พิมอยากทำอะไรดีๆ ให้ภูมิเค้าบ้าง”

พิมพิลาสยิ้มละไม เมื่อประหวัดถึงชายหนุ่มแสนดีที่เธอรัก เขาคนนั้น “ภูมิ” หรือ “ภีร์ภูมิ”
ช่วงเวลาตอนกลางวัน ที่ห้องทำงาน ภายในสำนักงานโครงการหมู่บ้าน เค้กชิ้นเล็กๆ ราคาถูก ซึ่งมีเทียนปักไว้ 1 เล่มพอเป็นพิธี อยู่ในมือของไก่เลขาหนุ่มของภีร์ภูมิแล้ว ก่อนจะมีเสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังมาจากกลุ่มคนงานหลายคนที่ยืนล้อมวงกันอยู่ พอเพลงจบ คนงานต่างร้องเฮดังลั่น

เจ้าของวันเกิดและเจ้านายของทุกคน ภีร์ภูมิ เขาแต่งตัวดูภูมิฐาน เท่ห์ ในมาดวิศวกร ยืนอยู่ต่อหน้าเค้กในมือเลขาหนุ่ม สีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเป่าเทียน
พอเทียนดับลง คนงานร้อง “เฮ!” อีกครั้ง
“ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ ลูกพี่” ไก่อวยพรหน้าตาเปื้อนยิ้ม
ภีร์ภูมิยิ้มแย้ม “ขอบใจมากนะทุกคน”
“นิดหน่อยครับ เค้กก้อนเดียว เค้าเรียกกุ้งฝอยตกปลากระพง” ไก่ว่ายิ้มๆ
ลูกน้องคนหนึ่งบอก “ใช่ เพราะวันนี้ ลูกพี่ต้องเลี้ยงใหญ่!
ลูกน้องที่เหลือส่งเสียงร้องเป็นเสียงเดียวกัน
“เลี้ยง ๆ ๆ”
ภีร์ภูมิทำหน้ายิ้มรู้ทันลูกน้อง แต่เสียงโทรศัพท์มือถือของภีร์ภูมิก็ดังเข้ามาขัดจังหวะ เสียงดังของคนงานเงียบลงทันที
ภีร์ภูมิยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นเป็นเบอร์ของพิมพิลาส ก็รับสาย
“ครับ...พิม”
ไก่ และคนงานเงี่ยหูฟัง ภีร์ภูมิแกล้งทำหน้าดุ

พิมพิลาสกำลังคุยโทรศัพท์กับภีร์ภูมิอยู่ในครัว ป้าทิพย์กำลังเอาเค้กเข้าเตาอบ
“วันนี้วันเกิดภูมิ อย่าลืมนัดของเรานะคะ”
“ผมไม่ลืมหรอกครับ เดี๋ยวผมเคลียร์งานทางนี้เสร็จแล้วจะรีบไป” ภีร์ภูมิบอก
“พิมจะรอค่ะ” พิมพิลาสวางสาย ยิ้มมีความสุข
ภีร์ภูมิวางสาย ลูกน้องร้องเสียงโอดโอย
โดยมีไก่เป็นต้นเสียง “มาอีรูปนี้ ท่าทางจะอดอีกแล้ว!” แล้วหันมาตัดพ้อกับพวกคนงาน “กลับไปกินข้าวฝีมือเมียอีกแล้วพวกเรา”
ภีร์ภูมิบอกกับเหล่าคนงาน “เอาไว้วันหน้าแล้วกัน เลี้ยงแน่ จัดเต็ม! ไม่อั้น”
“สัญญาแล้วนะเจ้านาย” ลูกน้องคนหนึ่งว่า

ภีร์ภูมิพยักหน้า ลูกน้องเฮ

เวลาต่อมาภีร์ภูมิเดินตรวจงานก่อสร้างหมู่บ้านอยู่ มีไก่เดินตาม
“อย่าหาว่าผมเสือกเลยนะครับ ไหน ๆ วันนี้ก็ฤกษ์งามยามดี ทำไมลูกพี่ไม่ขอคุณพิมแต่งงานไปเลยล่ะครับ” ไก่เอ่ยถามขึ้น ท่าทีเกรงใจ
“ฉันยังไม่พร้อม” ภีร์ภูมิตอบ
“แล้วจะพร้อมเมื่อไหร่ล่ะครับ ผมเห็นคบกันมาตั้งหลายปีแล้ว แต่งช้าระวังมีลูกไม่ทันใช้นะครับ”
“ฉันไม่อยากเหมือนแกไง ไอ้ไก่ เมียสองลูกสาม ทำงานแทบตายเงินยังไม่พอใช้ เท่ตายละ”
ภีร์ภูมิพูดล้อไก่ขำๆ ทำเหมือนไม่แคร์ แต่แววตาแอบกังวล เพราะรู้ว่าพิมพิลาสเองก็อยากแต่งงาน

บ่ายวันเดียวกัน ยินเสียงเตาอบดังขึ้นภายในครัวบ้านพิมพิลาส ป้าทิพย์เปิดเตาอบเอาเค้กออกมา นิ่มกับหวานตาโต
“โอ้โห หอมจัง” หวานบอก
“สวยด้วย คุณหนูเก่งจังเลยค่ะ” หวานเป็นปลื้ม
พิมพิลาสยืนยิ้มดูผลงาน ป้าทิพย์เอาเค้กมาวางที่โต๊ะ บนโต๊ะมีของตกแต่ง เช่น เม็ดน้ำตาลสี ๆ ช็อคโกแลต ตุ๊กตาน้ำตาล ผลไม้หันเป็นชิ้น ใส่กล่องพลาสติกวางไว้
พิมพิลาสเริ่มลงมือตกแต่งเค้ก ป้าทิพย์หยิบของตกแต่งส่งให้พิมพิลาส พิมพิลาสแต่งหน้าเค้กอย่างมีความสุข
พริบตานั้นหน้าเค้กเริ่มมีสีสัน มีของตกแต่งอย่างสวยงาม
ป้าทิพย์ ชมไม่ขาดปาก “สวยมากค่ะคุณหนู คุณภูมิเห็นต้องปลื้มแน่ๆ”
พิมพิลาสนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ขณะที่พูดมือก็แต่งหน้าเค้กไปด้วย
“ป้าอย่าลืมเตรียมเทียนมาไว้ให้พิมด้วยนะ”
“ว้าย! ตายจริง ป้าลืมซื้อเทียน” หญิงชราร้องเสียงดัง
“เดี๋ยวหวานออกไปซื้อให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” หวานอาสา และกำลังจะก้าวออกไป
ป้าทิพย์รีบบอก “ไม่ต้องหรอก หวาน ฉันไปเอง จะต้องไปซื้อของใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว”
ป้าทิพย์หันไปทางพิมพิลาส
“เดี๋ยวป้าออกไปซื้อเทียนให้นะคะ” แล้วหันมาพูดกับสาวใช้ “พวกเธออยู่ดูคุณหนูที่นี่ อย่าออกไปไหนจนกว่าฉันจะกลับมา เข้าใจไหม!”
นิ่ม กับหวานรับ “ค่ะ” พร้อมกัน
ป้าทิพย์เดินออกจากครัวไปแล้ว พิมพิลาสตกแต่งหน้าเค้กต่ออย่างตั้งใจ ครู่หนึ่ง พิมพิลาสคิดอะไรบางอย่างได้ พูดขึ้นอย่างนึกสนุก
“จริงสิ วันนี้วันเกิดภูมิทั้งที ฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศหน่อย นิ่มกับหวานเธอช่วยไปจัดโต๊ะกินข้าวที่ริมสระน้ำให้หน่อยนะจ๊ะ”
นิ่มรับคำสั่งด้วยความยินดี
“ได้ค่ะ นิ่มไปย้ายให้เดี๋ยวนี้เลยนะคะ”
นิ่มจะเดินออกไป
พิมพิลาสบอก “ไปช่วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ จะได้เสร็จเร็วๆ”
หวานทักท้วง “แต่ป้าทิพย์บอกให้หนูอยู่ดูคุณหนู”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ฉันอยู่คนเดียวได้ เหลือแค่แต่งหน้าเค้กเอง ไปเถอะ ช่วยกันจะได้เสร็จเร็ว ๆ เดี๋ยวภูมิก็จะมาแล้ว”
หวานรับคำ “ค่ะ”
จากนั้นหวานกับนิ่ม ก็พากันเดินออกไป พิมพิลาสหยิบขวดน้ำตาลไอซิ่ง
“เอ้า! หมด”
พิมพิลาสเดินไปหาตามตู้ต่าง ๆ ก็ไม่มี
“ป้าทิพย์เก็บไว้ไหนนะ”
พิมพิลาสพึมพำ ก่อนจะเดินไปเปิดที่ตู้แขวนติดผนังด้านบน ที่เก็บสต๊อกเครื่องปรุงต่างๆ พิมพิลาสหยิบถุงน้ำตาลไอซิ่งถุงใหม่มา
“กรรไกรอยู่ไหนนะ”
พิมพิลาสยกถาดใส่มีดวางแอบอยู่ในตู้ออกมาหา เห็นกรรไกรวางแอบอยู่ในนั้น พิมพิลาสวางถาดใส่มีดที่มีมีดใหญ่เล็กหลายขนาดลงบนโต๊ะ ข้างๆ ถุงไอซิ่ง พิมพิลาสหยิบกรรไกรออกมาจัดตัดปากถุง แต่มือดันปัดไปโดนกล่องใส่เครื่องตกแต่งอย่างอื่นตก ของกระจายเลอะพื้น
พิมพิลาสขัดใจ วางกรรไกร ก้มลงใช้กระดาษทิชชูเก็บของที่พื้น
ระหว่างนั้นที่บนโต๊ะ ถุงไอซิ่งที่ตั้งไว้เอียงล้มไปชนถุงแป้ง ถุงแป้งไปชนกล่องใส่มีด น้ำหนักของสองถุงดันให้ถาดใส่มีดไหลลงมา มีดเล่มใหญ่เล่มเล็กตกลงมาที่ตัวพิมพิลาสพอดี
พิมพิลาสร้อง “ว้าย”
มีดเล่มใหญ่สุดปักฉึกเข้าที่ข้อมือพิมพิลาสเป็นแผลลึก! เลือดเริ่มไหลออกมา พิมพิลาสตกใจ หน้าซีด พยายามใช้มือปิดห้ามเลือดที่แขนแต่ก็ไม่เป็นผล เลือดยังไหลไม่หยุดเป็นทางนองพื้น!
พิมพิลาสเห็นเลือดตัวเองแล้วตกใจจะเป็นลม พยายามกระเสือกกระสนตัวเองเพื่อที่จะมาหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่ก็ไม่สำเร็จ พิมพิลาสมองเลือดที่ไหลออกมาเยอะมากแลดูน่ากลัว

พิมพิลาสเริ่มหมดแรง หายใจหอบสายตาพร่ามัว มองอะไรไม่ชัด ก่อนจะหมดสติไป เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด!
เวลาผ่านไป จากบ่ายคล้อยเป็นเย็นย่ำ ขณะที่ป้าทิพย์เดินถือถุงใส่เทียนวันเกิดเข้ามาหน้าบ้าน เป็นเวลาเดียวกับที่ภีร์ภูมิขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเช่นกัน ชายหนุ่มเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ

ป้าทิพย์เดินเข้ามาพอดี เห็นภีร์ภูมิก็ตกใจ กลัวว่าจะไปเห็นพิมพิลาสกำลังทำเค้กแล้วไม่เซอร์ไพรส์
“คุณภูมิมาเหนื่อย ๆ ไปนั่งพักที่ห้องนั่งเล่นก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวป้าเอาน้ำเย็น ๆ ไปให้”
ภีร์ภูมิถาม “พิมอยู่ห้องนั่งเล่นเหรอครับ”
“คุณหนูอยู่ในครัวค่ะ” ป้าทิพย์ยิ้ม “แต่คุณภูมิห้ามเข้าไปนะคะ เดี๋ยวจะอดเซอร์ไพรส์”
ภีร์ภูมิยิ้มแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ป้าทิพย์เดินตาม แล้วหันไปเห็นนิ่มกับหวานกำลังช่วยกันจัดโต๊ะอยู่ริมสระน้ำ ป้าทิพย์นึกสงสัย
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้กัน”

ป้าทิพย์เดินเข้ามาหานิ่มกับหวานที่ริมสระน้ำ
“เธอสองคนมาทำอะไรอยู่ตรงนี้”
“คุณหนูอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ให้ย้ายโต๊ะมาที่ริมสระน้ำค่ะ”
ป้าทิพย์นึกขึ้นได้ ตกใจ!
“แล้วพวกเธอทิ้งคุณหนูไว้คนเดียวเรอะ!”
“ค่ะ คุณหนูให้มาช่วยกัน” หวานบอก
“อ้าว ตายจริง” นึกห่วง “คุณหนูคะ คุณหนู”
ป้าทิพย์หน้าตาร้อนใจ รีบเดินไวๆ เข้าไปในครัว
พอป้าทิพย์วิ่งเข้ามาถึงในครัว ก็ตกใจร้องเสียงดัง
“คุณหนู! คุณหนู”
ภีร์ภูมิได้ยินเสียงก็วิ่งตามเข้ามา เห็นเลือดนองเต็มพื้นครัว พิมพิลาสนอนจมกองเลือดหมดสติอยู่
ภีร์ภูมิตกใจ ตั้งสติแล้วรีบเข้าไปช้อนร่างอุ้มพิมพิลาสขึ้นมาทันที
“พิม! พิมอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ พิม”
ภีร์ภูมิอุ้มพิมพิลาสออกไปที่รถ ป้าทิพย์วิ่งตามไปติดๆ

ไม่นานหลังจากนั้นภีร์ภูมิอุ้มพิมพิลาสมาที่ห้องฉุกเฉิน พยาบาลออกมารับ
“ช่วยด้วยครับ คนไข้เป็นลูคีเมีย ตอนนี้เลือดออกไม่หยุดเลยครับ”
ภีร์ภูมิอุ้มพิมพิลาสนอนบนเตียง พยาบาลเข็นเตียงพิมพิลาสเข้าห้องฉุกเฉินไป ภีร์ภูมิ ป้าทิพย์ นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน สีหน้าไม่ดี เป็นห่วงพิมพิลาส
ป้าทิพย์บ่นโทษตัวเอง “เป็นความผิดของป้าเอง ป้าไม่น่าทิ้งคุณหนูไว้คนเดียวเลย”
ภีร์ภูมิแลกใจ “ปกติพิมไม่เข้าครัว วันนี้นึกยังไง”
“เธออยากทำเค้กวันเกิดให้คุณน่ะค่ะ ป้าบอกให้ซื้อเค้าเธอก็ไม่ยอมบอกว่าอยากทำให้ด้วยมือของตัวเอง”
คำพูดหญิงชรา ทำเอาภีร์ภูมิถึงกับอึ้งไป
ระหว่างนั้นหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพอดี
“หมอครับคนไข้เป็นยังไงบ้างครับ”
“โชคดีนะครับที่ยังมาโรงพยาบาลได้ทัน มีดโดนเส้นเลือดใหญ่พอดีคนไข้เสียเลือดมาก ถ้ามาช้ากว่านี้คนไข้อาจจะช็อก หรือถึงแก่ชีวิตได้”
“แต่ตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ”
“โรคลูคีเมียมันอันตรายตรงที่ ถ้าเลือดออก มันจะไหลไม่หยุด พวกคุณต้องคอยระวังให้มากกว่านี้นะครับ อะไรที่มันเสี่ยงกับการบาดเจ็บ ทำให้เลือดออกให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด” หมอกำชับ
ภีร์ภูมิรับคำ “ครับ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ”
หมอเดินกลับเข้าไปในห้องตามเดิม ภีร์ภูมิเดินไปยืนมองผ่านประตูห้องฉุกเฉิน
“โรคบ้าโรคบออะไร เลือดออกแล้วไหลไม่หยุด ทำไมคุณหนูถึงต้องเป็นโรคนี้ด้วยนะ ชาติที่แล้วทำเวรทำกรรมอะไรไว้ มันถึงได้เป็นแบบนี้”

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 8 วันที่ 16 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ที่มา manager