อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 7/2 วันที่ 13 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 7/2 วันที่ 13 ม.ค. 56

บัวร้องไห้สะอึกสะอื้น “น้าพุ่มจะมาช่วยข้าไว้ทำไม ข้าไม่อยากอยู่แล้ว ข้าไม่อยากให้คุณฉัตรแต่งงานกับคุณพิศ ไม่อยากให้คุณฉัตรไม่มีความสุขเพราะข้า”
“แต่เอ็งต้องอยู่” นางพุ่มพูดเสียงแข็ง
“ข้าอยู่ไม่ได้ ข้าทนเห็นคุณฉัตรไม่มีความสุขเพราะข้าไม่ได้ ข้ารู้สึกเหมือนเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้คนรักของข้าตกนรกทั้งเป็น” บัวครวญคร่ำ
“เอ็งต้องอยู่ให้ถึงพรุ่งนี้! เอ็งฟังข้านะนังบัว ข้ามีข่าวดีจะมาบอกเอ็ง พรุ่งนี้คุณฉัตรจะพาเอ็งหนีไปจากที่นี่”

บัวชะงัก ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกดีขึ้น
เวลาผ่านไป นางพุ่มหันไปหยิบสำรับข้าวมาให้บัว ซึ่งใส่ใบตองมา



“เอ้า กินซะ เอ็งไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน คืนนี้กินให้อิ่มพรุ่งนี้เอ็งจะได้มีแรงหนี”
“จ้ะ”
บัวยิ้มรับคำ แล้วรับสำรับมากินข้าวหน้าตาสดใสเปี่ยมความหวัง
“กินเยอะๆ นะ” นางพุ่มบอก

ไม่นานต่อมานางด้วงนั่งพับเพียบอยู่ต่อหน้าพิศ
“นังบัวมันกินข้าวได้ แล้วยังไง”
“ไม่ใช่แค่กินข้าวได้เจ้าค่ะ คุณพิศเจ้าขา แต่สีหน้ามันดูสดใส วันอื่นบ่าวเห็นมันเอาแต่ร้องไห้กระซิกกระซี้ แต่วันนี้ มันดูอย่างไรพิกล”
ฟังที่นางด้วงรายงาน พิศมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพึมพำออกมา “มันต้องมีอะไรแน่ๆ” แล้วหันมาสั่งนางด้วง “เอ็งไปตามไอ้แนบมาพบข้า”
“เจ้าค่ะ”
นางด้วงเดินออกไปเลย ส่วนพิศมีสีหน้าเหี้ยมเกรียมน่ากลัวมาก

วันต่อมาไอ้เพียรตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่บนเรือ และพอรู้สึกตัวว่าโดนมัดไว้ก็ตกใจไอ้เพียรโวยวายลั่น
“นังน้อยเอ็งจะมัดข้าทำไม?”
“เอ็งอยู่นี่แหละ” น้อยกลั้นใจพูด “ข้ารอดมาได้ ข้าจะมาปล่อยเอ็ง”
น้อยใจแข็ง เก็บข้าวของเตรียมตัว ไม่สนใจไอ้เพียรเพราะไม่อยากให้เพียรต้องไปเดือนร้อนเพราะตนอีก
“เอ็งไปบ้านนั้นคนเดียว ก็เหมือนไปตาย เอ็งจะกลับมาได้ยังไง” ไอ้เพียรดิ้นรน “นังน้อยปล่อยข้าเถอะ ให้ข้าไปด้วย ให้ข้าไปกับเอ็ง!”
ไอ้เพียรพยายามดิ้นรนแต่ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุด น้อยรู้สึกสะเทือนและสงสารจนน้ำตาคลอๆ
“ถ้าจะตาย ก็ขอให้ข้าตายคนเดียวเถอะ อย่าลืมสิ เอ็งยังมีแม่ที่ต้องดูแล สักวันเอ็งต้องพาน้าพุ่มออกมาจากที่นั่นให้ได้ เอ็งไม่ได้เป็นอะไรกับข้า เอ็งจะมาตายเพื่อข้า” น้อยว่า
“แต่ข้ารักเอ็ง นังน้อย”
“ข้ารู้ แต่ข้าไม่ได้รักเอ็ง” น้อยน้ำตาไหล มองหน้าไอ้เพียรอย่างตื้นตันใจ “ข้ารู้ว่าเอ็งดีกับข้าแค่ไหน ถ้าข้าสั่งใจตัวเองได้ ข้าคงรักเอ็งไปแล้ว แต่ข้าทำไม่ได้”
ไอ้เพียรฟังแล้วเศร้า น้ำตาไหลริน ร้องครวญคร่ำ
“ถึงเอ็งไม่รักข้า แต่ขอให้ข้าได้รักเอ็งต่อไปไม่ได้หรือ นังน้อย…ที่ข้าช่วยเอ็ง ข้าไม่ได้หวังใดอื่น แค่อยากเห็นเอ็งอยู่รอดปลอดภัย เอ็งเป็นเหมือนดวงใจข้า จะให้ข้านอนเฉย ให้คนอื่นเข้ามาฆ่ามาฟันเอ็ง ข้าจะทนได้ยังไง”
น้อยขยับเข้ามานั่งข้างๆ เอามือลูบแก้ม พร้อมกับปาดเช็ดน้ำตาให้ไอ้เพียร พูดสั่งเสีย
“ผู้หญิงใจร้ายอย่างข้า ไม่สมควรให้ใครมาเสี่ยงชีวิตตายแทนหรอก เพียรฟังข้านะ ไปช่วยบัวครั้งนี้ ไม่รู้ว่าข้าจะได้มีโอกาสกลับมาเจอเอ็งอีกหรือเปล่า ถ้าหากข้าไม่รอดกลับมา...ข้าขอให้เอ็งอยู่ดี มีสุข ได้เจอคนที่เขารักเอ็ง ให้สมกับความดีของเอ็งเถะนะ”
น้อยพูดพลางปาดน้ำตา ก้มลงกราบไอ้เพียร แล้วเดินออกไป
ไอ้เพียรพยายามดิ้น โวยวายให้น้อยปล่อย
“นังน้อย!…ปล่อยข้า อย่าทำอย่างนี้ ปล่อย!”
น้อยข่มใจ เดินลงเรือพายออกไป ไม่สนใจไอ้เพียร
“นังน้อย”
ไอ้เพียรดิ้นสุดใจจนเชือกบาดเนื้อเลือดไหลออกมา แต่เชือกไม่หลุดมันเจ็บแสบจนน้ำตาไหลนองหน้า

รุ่งเช้าฉัตรแต่งตัวในชุดเจ้าบ่าว เดินเข้ามาหาพระยาโกสินทร์ แล้วก้มลงกราบแทบเท้าด้วยสำนึกในความรักของผู้เป็นบิดา
“กระผมไม่อาจหาคำพูดอะไรมาพูดกับเจ้าคุณพ่อได้กระผมซาบซึ้งในสิ่งที่เจ้าคุณพ่อยอมสละให้กับกระผม ทุกอย่างที่ผ่านมา”
“สิ่งที่ทำอยู่นี้รู้ว่ามันผิด แต่ที่พ่อทำก็เพราะว่าพ่อรักเจ้า พ่อทุกคนก็อยากเห็นลูกมีความสุข ขอให้เรื่องทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะลูก” พระยาโกสินทร์ปลอบขวัญบุตรชายคนโต
ฉัตรน้อมรับ “ขอรับเจ้าคุณพ่อ” แล้วก้มกราบเท้าท่านเจ้าคุณผู้เป็นบิดาอีกครั้งหนึ่ง

เวลาต่อมาฉัตรกับฉายกำลังทบทวนแผน
“แผนการวันนี้ต้องผ่านไปได้ด้วยดี ชีวิตพี่ฝากไว้ในมือฉายนะ” ฉัตรกำชับ
ฉายรับคำ “กระผมจะทำให้เต็มที่ที่สุดขอรับ”
ฉัตรเล่าละเอียดจนฉายมองเห็นภาพแจ่มชัด ในตอนที่เขากำลังนั่งอยู่กลางงานพิธี พร้อมพระยาโกสินทร์ และฉาย ส่วนพิศก็อยู่อีกมุมหนึ่งกับพระยาสมาน กำลังเตรียมตัวจะทำการหมั้นกัน
“ช่วงทำพิธีหมั้น แม่พุ่มจะไปจุดไฟเผาโรงครัว เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนในงาน”
“จากนั้น พี่จะให้ฉายลอบไปปล่อยแม่บัวออกมาจากคุก”
ฉายไปสะเดาะประตูคุก ปล่อยบัวออกมาได้ จากนั้นฉายจะพาบัวมาส่งให้นายสนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“แล้วฉายก็พาบัวไปส่งให้นายสน พี่ให้นายสนเตรียมเรือไว้แล้ว แล้วฉายก็รีบกลับเข้ามาในงานอย่าให้ใครสงสัย”
ฉัตรซักซ้อมแผนชิงตัวบัวให้ทุกคนฟัง

รุ่งเช้า ที่บริเวณหน้าเรือนพระยาโกสินทร์ ขบวนขันหมากเตรียมพร้อมแล้ว ฉัตรอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสวมใส่ราชประแตนสีขาวยืนหล่ออยู่หน้าขบวน ฉายอยู่ข้างๆ พี่ชาย ถัดไปเป็นขบวนสินสอด ตรวนทองคำ พระยาโกสินทร์นั่งอยู่บนเสลี่ยงคอยประคองหีบตรวนทองคำไว้ โดยมีทหารใส่ชุดเต็มยศคอยดูแลตรวนทองคำขนาบสองข้าง
ระหว่างนั้นฉัตรหันมากระซิบบอกนายสน
“เอ็งไปรอที่ท่าเรือได้แล้ว เตรียมทุกอย่างให้พร้อม”
“ขอรับ”
นายสนรับคำแล้วเดินแยกออกไป
“ได้ฤกษ์แล้ว ไปกันเถอะ”
พระยาโกสินทร์เอ่ยขึ้น จากนั้นขบวนขันหมากเริ่มเคลื่อนตัวออกจากบ้านพระยาโกสินทร์

ครู่ต่อมายินเสียงโห่เอาฤกษ์เอาชัยดังขึ้นระหว่างทางไปยังเรือนพระยาสมาน โดยมีขบวนขันหมากของฉัตรกำลังเดินทางมา
ชาวบ้านต่างชะเง้อดูตรวนทองคำอย่างตื่นตาตื่นใจ ตลอดสองข้างทาง มีชาวบ้านบางส่วนเดินตามไปดูตรวนทองคำจนถึงบ้านพระยาสมาน
“ใครอยากเห็นตรวนทองคำ ตามข้ามา”
พระยาโกสินทร์พูดพลางยิ้มมีแผน

ไม่นานนัก ขบวนขันหมากก็เคลื่อนตัวเข้ามาในอาณาบริเวณเรือนพระยาสมาน หม่อมจรัส ท่านชายทัด และพระยาสมาน ยืนรอรับขบวนขันหมากอยู่ พระยาสมานเห็นขบวนขันหมากเข้ามาก็ยิ้มแก้มปริ แล้วครู่หนึ่งก็เหลือบไปเห็นชาวบ้านที่แห่แหนตามมาดูตรวนทองคำกรูเข้ามาในบ้านอย่างล้นหลาม
“อ้าวเฮ้ย พวกชาวบ้านมันจะเข้ามาในเรือนกันทำไม” พระยาสมานหันไปบอกไอ้สิงห์ “เอ็งไปคอยจัดการกันไว้อย่าให้ใครเข้า มาเกะกะในงานได้”

จังหวะนั้น ขบวนขันหมากมาถึงหน้าเรือนแล้ว พระยาสมานทักทายพร้อมกับยิ้มย่อง
“ยกขบวนขันหมากมาเสียใหญ่โตเลยนะ ท่านเจ้าคุณถึงกับเอาตรวนทองคำมาเป็นสินสอดทองหมั้น กระผม คิดไม่ถึงจริงๆ”
“นี่รึ...” หม่อมจรัสยกมือไหว้เหนือหัว “ตรวนทองคำพระราชทานที่ผู้คนเขาพูดถึงกัน อยากจะเห็นเป็นบุญตา”
“ขอรับ” ท่านเจ้าคุณบิดาฉัตรและฉายว่า
หม่อมจรัสยิ้มเยื้อนพร้อมกับเอ่ยสัพยอก “แหม! เพชร พลอย ทองหยอง มีตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่เอามา เอาตรวนมาเป็นสินสอดมันพิลึกอยู่นะคะท่านเจ้าคุณ”
พระยาโกสินทร์พูดประชด “งานแต่งงานครั้งนี้มันพิลึกพิลั่นไม่เหมือนใครอยู่แล้ว...จะว่าไป นี่มันก็เป็นถึง” ท่านเจ้าคุณว่าพลางยกมือไหว้ขึ้นเหนือหัว “ตรวนทองพระราชทานเลยนะขอรับ”
พระยาสมานจอมโลภเห็นแก่ได้มองตรวนทองคำแล้วยิ้มร่า
“อยากจะเห็นแล้วสิว่าตรวนทองคำที่ว่าจะงดงามเพียงใด” ท่านเจ้าคุณหันมาเชื้อเชิญทุกคน “เชิญขึ้นเรือนกันดีกว่าขอรับ”

ฉัตร กับฉาย มีสีหน้าเรียบเฉย
ระหว่างนั้นนางด้วงวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานพิศ

“มากันแล้วเจ้าค่ะคุณพิศ อีพวกชาวบ้านแห่กันมาดูตรวนทองคำกันเต็มบ้านเลยเจ้าค่ะ”
“นางด้วงในพิธีวันนี้ เอ็งไม่ต้องอยู่กับข้า” พิศบอก
นางด้วงเง็ง “เอ้า! แล้วจะให้บ่าวทำอะไรเจ้าคะ”
พิศมองไปที่ฉัตรสีหน้าเรียบเฉย ซ่อนเร้นอะไรบางอย่าง

หีบถูกเปิดขึ้น เห็น ‘ตรวนทองคำ’ วางอยู่บนนั้น เสียงผู้คนในงานต่างฮือฮาเมื่อได้เห็นของแปลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพระยาสมานนั้นถึงกับตาลุกวาวเลยทีเดียว
ทางด้านบัวได้ยินเสียงขบวนขันหมาก ก็ดีใจและมีความความหวัง

ขณะเดียวกัน มีใครคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาที่คุก และเดินเข้ามาในคุกจ้องมองไปที่บัว บัวยังไม่รู้ตัวว่ามีคนเดินเข้าไปหา จังหวะต่อมาใครคนนั้นเดินเข้าไปหาบัวใกล้ขึ้นอีก บัวได้ยินเสียงเดินจึงเหลียวมามองด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“น้าพุ่ม”
ที่แท้เป็นนางพุ่ม ซึ่งในมือถือยามนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับเผาครัวไว้เรียบร้อยแล้ว
“เอ็งเตรียมตัวนะ” นางพุ่มบอก
“แล้วข้าต้องทำยังไงบ้าง”
“เอ็งอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ระหว่างที่คุณฉัตรทำพิธีอยู่บนเรือน คุณฉายจะมารับเอ็งไปที่ท่าเรือคลองบางหลวง แล้วคุณฉัตรจะตามไปทีหลัง” นางพุ่มบอก

พิศเดินออกมาพร้อมบ่าวคนที่ไปตาม ผู้คนในพิธีต่างหันไปมองพิศเป็นตาเดียว ฉัตรกับพิศสบตากันอย่างมีเชิง
“เจ้าสาวงามจริง” หม่อมจรัสว่า
พระยาสมานมองลูกสาวแล้วยิ้มอย่างปลื้มใจ
นางพุ่ม เดินเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาดระแวง แต่พอไม่เห็นใคร นางพุ่มก็ค่อยๆ จุดไฟขึ้นเพื่อเตรียมจะเผาโรงครัว นางพุ่มมองเปลวไฟที่จุดขึ้น
“ขอให้นังบัวมันรอดปลอดภัยด้วยเถิด ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี”

ทันใดนั้น นางพุ่มก็เริ่มเผาโรงครัวตามแผน

ส่วนบนเรือน ฉัตรกับพิศนั่งเคียงกันอยู่ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ ขณะที่ทั้งสองก้มลงกราบขอพรจากผู้ใหญ่ ฉัตรกระซิบบอกพิศเสียงเบาๆ

“หวังว่าแม่พิศจะรักษาคำพูดที่ว่า...จะปล่อยแม่บัว”
พิศกระซิบตอบเสียงเบาพอกัน “คุณฉัตรยอมแต่งงานกับพิศ พิศก็ต้องรักษาคำพูดสิคะ” ฉัตรเหลียวมองหน้าพิศอย่างวัดใจกัน
ครู่หนึ่ง บ่าวคนหนึ่งก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาร้องเรียกพระยาสมาน
“ท่านเจ้าคุณเจ้าขา”
พระยาสมานฉุน เลยด่าออกไป “มีอะไร ไม่เห็นรึว่ากำลังมีงานพิธีอยู่น่ะ”
“ไฟไหม้โรงครัวเจ้าค่ะ”
พระยาสมานและแขกเหรื่อในงานได้ยิน ต่างร้องอุทานกันเสียงดังอื้ออึง
ฉัตรหันไปมองหน้าฉายทันที เป็นสัญญาณบอกว่าเริ่มแผนได้ ฉายพยักหน้ารับรู้ แล้วแอบวิ่งออกไปเหมือนว่าวิ่งตามไปดูเหตุการณ์ ฉัตรเหลือบไปสบตากับพระยาโกสินทร์อย่างรู้นัยกัน
“กระผมขอตัวก่อนนะขอรับหม่อม”
พระยาสมานกำลังจะวิ่งออกไป แขกเหรื่อและบ่าวไพร่จะวิ่งตามไป
พระยาโกสินทร์ห้ามไว้ “ท่านเจ้าคุณไม่ต้องออกไปหรอกขอรับ”
“ทำไมล่ะท่านเจ้าคุณ! กระผมจะออกไปดูความเสียหายเสียหน่อย”
“ให้ทาสข้างล่างมันดับไฟกันไปเถอะขอรับ ไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ จะเป็นอันตรายเสียเปล่าๆ เดี๋ยวเสร็จพิธีค่อยลงไปก็ได้”
พิศมองจ้องพระยาโกสินทร์อย่างสงสัย แต่ไม่ได้กระโตกกระตากอะไร แถมยังสนับสนุนความคิดนี้
“พิศเห็นด้วยค่ะ เราทำพิธีให้เสร็จไป ไฟไหม้ได้เดี๋ยวมันก็มอดได้” พลางหันไปทางฉัตร “จริงมั้ยคะคุณฉัตร"
ฉัตรมองพิศอย่างประหลาดใจ

ฉายวิ่งตรงไปที่คุก ระหว่างทางสวนกับบ่าวไพร่ที่วิ่งออกไปดูไฟไหม้ก็คอยหลบ
บ่าวผู้ชายตะโกนเรียกกันจ้าละหวั่น “เฮ้ย เร็วๆ โว้ย ช่วยกันไปดับไฟเร็ว!”
บ่าวจำนวนหนึ่งวิ่งวุ่นเป็นที่โกลาหล หาเครื่องมือไปช่วยกันดับไฟโรงครัว

ฉายวิ่งเข้ามาบริเวณคุก กวาดตาหาบัวไปรอบๆ
“แม่บัว”
ฉายมองหาไปทั่วบริเวณ แต่ไม่พบบัว ฉายงง เดินไปที่ประตูกรง จังหวะที่หันกลับมาก็โดนท่อนไม้ฟาดเข้าที่กกหู ฉายล้มลงกับพื้น เผยให้เห็นว่าเป็นฝีมือนางด้วง ที่กำลังโยนไม้ทิ้งไปอีกทาง
“คิดจะมาช่วยนังบัวหรือเจ้าคะ นังบัวไม่มีทางหนี ออกไปตามแผนคุณฉัตรได้หรอกเจ้าค่ะ!”

บ่าวผู้สอพลอและจิตใจมืดดำอำมหิตพูดเย้ยพลางยิ้มอย่างสะใจ
ที่แท้บัวกำลังถูกไอ้แนบผูกมัดข้อมือทั้ง ๒ ข้าง เดินจูงกึ่งลากมาตามราวป่าในอาการถูลู่ถูกัง ตามคำสั่งของพิศ ที่วางแผนแก้มือฉัตรไว้แล้วล่วงหน้า

“ปล่อยข้านะไอ้แนบ เอ็งจะพาข้าไปไหน” บัวร้องลั่น
ไอ้แนบบอกสั้นๆ “ซ่อง”
บัวตกใจมาก “ซ่อง”
ไอ้แนบบอกย้ำ “ใช่”
บัวส่ายหน้า พร้อมกับดิ้นรนขัดขืน
ไอ้แนบหัวเราะร่า “ข้าจะพาเอ็งไปขายเป็นหญิงหยำฉ่า ขายเอ็งได้เท่าไหร่ คุณพิศยกค่าตัวเอ็งให้ข้าหมดเลยรู้มั้ย”
บัวตกใจสุดขีด “อย่านะ” และพยายามสะบัดมือให้หลุด ไอ้แนบไม่ทันระวังตัว ทำให้บัวหลุดไปได้ บัววิ่งหนีไปทันที
“เฮ้ย”
ไอ้แนบวิ่งตามบัวไปอย่างไม่ลดละ แล้วกระโดดตะครุบตัวบัวไว้ได้ สองล้มกลิ้งไปด้วยกัน พอไอ้แนบตั้งตัวได้ก็ขึ้นนั่งคร่อมตัวบัวไว้ไม่ให้ดิ้นหนีแล้วตบหน้าผัวะเต็มแรง
“อีนี่ ฤทธิ์เยอะนักนะมึง นี่ถ้าข้าไม่กลัวว่าค่าตัวเอ็งจะตกละก็ ข้าจะ…”
บัวพยายามดิ้นหนีอีก แนบโมโหเงื้อมือจะตบบัวอีกฉาด จังหวะนั้นบัวเหลียวไปเห็นใครบางคนวิ่งเข้ามา ไอ้แนบชะงักจึงหันไปตามสายตาบัว จึงเห็นว่าเป็นน้อยถือท่อนไม้ตีหัวไอ้แนบเต็มแรง จนมันเซถลาล้มลงไป

บัวดีใจมาก “น้อย”
“หนีเร็วนังบัว”
น้อยไม่พูดพร่ำเข้าไปช่วยพยุงตัวบัวให้ลุกขึ้น ทั้งคู่กำลังจะวิ่งหนี แต่โชคร้ายไอ้แนบตั้งตัวได้ก่อน มันถลาเข้าไปจิกหัวน้อยไว้ น้อยร้อง “โอ๊ย”
ไอ้แนบโมโหมาก “อีน้อย”
น้อยหันมาตบตีสู้ แต่ก็สู้แรงชายไม่ได้ ถูกไอ้แนบตบลงไปกองที่พื้น บัวเข้าไปดึงไอ้แนบไว้เพื่อช่วยน้อย แต่ถูกไอ้แนบหันมาตบบัวกระเด็นออกไปอีกทาง
“มึงนี่วอนหาเรื่องจริงๆ นะ…ดี! กูจับขายซ่องให้หมด”
ว่าพลางไอ้แนบเข้าไปจิกหัวน้อยและเอาเถาวัลย์แถวนั้นผูกมัดมือไว้

เวลาเดียวกันบนเรือนพระยาสมาน พิธีการยังดำเนินต่อไป มุมหนึ่งด้วงคลานเข้ามาหาพิศ กระซิบบางอย่างให้พิศฟัง แล้วพิศก็สั่งบางอย่างกับนางด้วงอีก ก่อนจะเห็นนางด้วงคลานออกไป
ฉัตรท่าทางเป็นกังวล เหลียวมองหาฉายอยู่ตลอดเวลา พระยาโกสินทร์ก็ชะเง้อชะแง้มองหาฉายเช่นกัน
จนพระยาสมานเห็นผิดสังเกต
“มีอะไรหรือเปล่าขอรับท่านเจ้าคุณ”
พระยาโกสินทร์ตกใจ “ไม่มีอะไรขอรับ”
“มองหาคุณฉายอยู่หรือคะ” พิศพูดดักคอ
“ใช่…นายฉายจะไปไหนก็ไม่ยอมบอกยอมกล่าว”
พิศแสยะยิ้มพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”
ฉัตรมองจ้องรู้สึกว่าพิศพูดจาแปลกๆ ก็นึกสงสัย

ทางด้านฉายค่อยๆ ลืมตาตื่น พร้อมกับสะบัดหัวด้วยความงุนงง เจ็บปวด แล้วจึงเห็นว่า ตนเองถูกขังอยู่ในคุก ครู่หนึ่ง มีคนเดินเข้ามา ฉายเหลือบไปเห็นเงาลางๆ
“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ที่แท้เป็นนางพุ่มเดินเข้ามาตรงนั้น พอนางพุ่ม เห็นฉายอยู่ในคุกก็ตกใจ
“คุณฉายไปอยู่ในนั้นได้ยังไงเจ้าคะ”
ฉายพยามยามทบทวนเหตุการณ์ “ฉันจะมาช่วยแม่บัว แต่กลับถูกใครก็ไม่รู้ฟาดเข้าที่นี่” ฉายเอามือจับตรงกกหูที่โดนฟาด
นางพุ่มมองหาบัว
“แล้วนังบัวล่ะเจ้าคะ”
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันมาก็ไม่เจอแม่บัวแล้ว”
พุ่มตกใจ “อย่าบอกนะเจ้าคะว่าคุณพิศรู้ทันแผนของคุณฉัตร”
“รีบช่วยฉันออกไปก่อนเถอะ ฉันจะไปบอกพี่ฉัตร”

ขณะเดียวกันนางด้วงเดินกลับมาเห็นฉายวิ่งขึ้นเรือนไป ก็ตกใจ
“คุณฉาย! ซวยแน่อีด้วง! คุณฉายหนีออกมาได้ยังไง”
นางด้วงเหลือบไปเห็นนางพุ่มเพิ่งเดินพ้นออกไปจากคุก
“นังพุ่ม”
ด้วงโมโหคิดว่าต้องเป็นฝีมือนางพุ่มแน่ๆ

ฉายวิ่งขึ้นมาบนเรือน พิศเห็นท่าทางฉายก็เดาออกว่าไปช่วยบัวไม่ทันแน่ ฉายเข้ามากระซิบบอกฉัตร
“พี่ฉัตร แม่บัวไม่ได้อยู่ที่คุก”
ฉัตรตกใจ หันมามองพิศทันที พิศยิ้มเยาะในที ฉัตรโมโหแต่พยายามระงับอารมณ์
“แม่พิศเอาตัวแม่บัวไปไว้ที่ไหน!”
พิศเห็นฉัตรร้อนใจ ห่วงบัวก็ยิ่งแค้นใจ
“ก็อยู่ในที่ที่มันสมควรจะอยู่สิคะ” พิศตอกใส่หน้า
ฉัตรสังหรณ์ใจไม่ดีกลัวบัวเป็นอันตราย
“หล่อนทำอะไรแม่บัว”
พิศยิ้มร้ายออกมา “เสร็จพิธีเมื่อไหร่ คุณฉัตรได้เจอตัวนังบัวแน่”

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 7/2 วันที่ 13 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ที่มา manager