อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 7 วันที่ 12 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 7 วันที่ 12 ม.ค. 56

พิศจิกหัวบัวขึ้นมา “นึกว่าจะหนีข้าไปไหนพ้นรึนังบัว คงคิดจะไปเสวยสุขกับคุณฉัตรสินะ...ข้าจะบอกให้นะ ไม่มีใครช่วยเอ็งได้หรอก เอ็งทรยศข้าข้าก็จะให้เอ็งเจ็บ เอ็งจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส แล้วก็ต้องตายอยู่ที่เรือนทาสนี่”
บัวแค้น กำมือแน่น แต่พยายามระงับอารมณ์ไว้
“ข้าไม่ได้ทรยศคุณพิศ” บัวจ้องตาพิศไม่กลัวเกรง “คุณฉัตรไม่ได้รักคุณพิศ ต่อให้ไม่มีบ่าว คุณฉัตรก็ไม่มีวันรักคุณพิศ”

พิศโกรธจัด ตบหน้าบัวผัวะ! เลือดไหลปรี่ออกจากปาก
“เพราะเค้ารักเอ็งงั้นรึ นังบัว” พิศแค้นยิ่งนัก “ที่เขาไม่รักข้า เพราะเขารักเอ็งอย่างงั้นรึ นังบัว” พร้อมกันนั้นพิศจิกหัวบัวขึ้นมา “อยากรู้นักถ้าเอ็งตาย เค้าจะยังรักเอ็งอยู่หรือเปล่า”



“ไม่มีอะไรพรากความรักของบ่าวไปจากคุณฉัตรได้หรอกเจ้าค่ะ…แม้แต่ความตาย” บัวบอก
พิศบันดาลโทสะตบหน้าบัวไปอีกฉาดใหญ่
“มึงคอยดูอีบัว กูจะพรากคุณฉัตรมาให้มึงดู”
พิศคำราม ผลักหัวบัวลงไปที่พื้น พลางเรียกไอ้แนบ
“ไอ้แนบ”
ไอ้แนบคลานเข้ามาหา
“เอาตัวอีบัวไปขัง เฝ้ามันไว้ให้ดี ถ้ามันยังหนีไปได้อีก ข้าจะกุดหัวเอ็ง”
“ขอรับ”
ไอ้แนบลากบัวออกไป พิศหันมาทางนางด้วง
“นังด้วง”
นางด้วงถลันเข้ามาหา
“เจ้าคะ”
“ข้ามีงานให้เอ็งทำ” พิศบอกด้วยแววตาวาววาม

เวลานั้นฉายกำลังทำแผลให้ฉัตรอยู่ พระยาโกสินทร์โกรธที่มีคนมาทำร้ายบุตรชาย
“ไอ้พวกทาสเรือนนั้นมันทำเกินไปแล้ว มันกล้ามาทำลูกถึงขนาดนี้! เห็นทีพ่อจะต้องไปเจรจากับท่านเจ้าคุณสมานให้รู้เรื่องกันไป”
“อย่าเลยขอรับเจ้าคุณพ่อ คนพาลอย่างนั้น พูดไปก็เปลืองน้ำลายเปล่า...กระผมว่าคิดหาวิธีพาแม่บัวออกมาจากที่นั่นดีกว่าขอรับ” ฉัตรห้ามไว้
“เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว กระผมว่าทางโน้นคงเฝ้าแม่บัวหนาแน่นกว่าเดิมเป็นแน่!”
นายสนเดินเข้ามา
“มีบ่าวจากเรือนท่านเจ้าคุณสมานมาขอพบขอรับ”
สามคนมองหน้ากันด้วยความสงสัย

เวลาต่อมานางด้วง และไอ้แนบก้มกราบพระยาโกสินทร์ ฉัตร และฉาย พอฉัตร กับฉาย เห็นไอ้แนบก็จ้องเขม็งจำได้ว่าเป็นคนที่ทำร้ายฉัตร ไอ้แนบรีบก้มหน้าหลบตา
“มีอะไรว่ามา” พระยาโกสินทร์ถาม
“คุณพิศส่งบ่าวมาเจ้าค่ะ คุณพิศให้มาเรียนว่าถ้าคุณฉัตรต้องการตัวนังบัว คุณพิศเห็นแกมิตรภาพเลยจะยกนังบัวให้” นางด้วงเอ่ยขึ้น
ฉัตรสงสัย “หมายความว่ายังไง”
“ไม่ทราบเจ้าค่ะ คุณพิศฝากมาบอกว่าต้องการให้คุณฉัตรไปเจรจาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นคุณพิศอาจจะเปลี่ยนใจ” นางด้วงผู้สอพลอบอก
ฉัตรมีสีหน้าครุ่นคิดหนัก

วันต่อมาที่เรือนพระยาโกสินทร์ สองพี่น้องหารือกันอยู่
“พี่ฉัตรก็รู้ว่าเป็นแผนของแม่พิศ พี่ฉัตรจะไปทำไมขอรับ”
“ยังไงพี่ก็ต้องไป พี่ต้องไปช่วยแม่บัวออกมาจากที่นั่นให้ได้”
“งั้นกระผมไปด้วยขอรับ” ฉายบอก
พระยาโกสินทร์ เดินเข้ามาพอดี
“ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ให้รู้ไปเลยว่าแม่พิศจะมาไม้ไหนกันแน่”

ไม่นานต่อมา พระยาโกสินทร์ ฉัตร และฉาย เดินเข้ามาบนเรือนพระยาสมาน พิศยกมือไหว้พระยาโกสินทร์ ฉัตรกับฉายยกมือไหว้พระยาสมาน
ทั้งสองฝ่ายยิ้มให้กัน แต่ดูออกว่าไม่จริงใจในยิ้มนั้นๆ
พระยาสมานทักทาย “มากันพร้อมหน้าเลยนะขอรับ”
พระยาโกสินทร์เข้าเรื่องทันที “ท่านเจ้าคุณสมานกับแม่พิศมีธุระอะไรก็ว่ามา”
พระยาสมานพูดเหน็บ “ท่านเจ้าคุณคงรู้แล้วว่าเมื่อวันก่อน ลูกชายทั้งสองของท่าน ได้บุกเข้ามาในบ้านของกระผมหวังจะมาชิงทาสในเรือนของกระผม”
พระยาโกสินทร์ตอบหน้าเคร่ง “ถ้าเป็นเรื่องนั้น กระผมทราบแล้วที่มาวันนี้ก็จะมาเจรจาเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
“กระผมเห็นคนกำลังตกทุกข์ได้ยากกระผมก็ต้องการช่วยเป็นธรรมดา” ฉัตรแทรกขึ้น
“ก็ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าจะเอาอัฐมาไถ่ตัวนังบัว แต่ไม่เห็นมาตามที่นัดจะบุกเข้ามาชิงตัวนี้ได้อย่างไร” พระยาสมานเย้ย
ฉายแดกดัน “นายชดก็มาตามนัดแล้วขอรับ แต่ถูก ‘โจรใจชั่ว’ มันมาฆ่าชิงอัฐไปเสียก่อน”
พระยาสมานสะดุ้ง
“แต่ถ้าวันนี้ท่านเจ้าคุณสมานยอมที่จะให้ไถ่ตัวแม่บัว กระผมก็ยินดีจะไถ่ขอรับ” ฉัตรบอก
พิศพูดแทรกขึ้นมา “ไม่ต้องไถ่หรอกค่ะคุณฉัตร พิศจะยกนังบัวให้เปล่าๆ คิดเสียว่าเป็นของขวัญ”
ทุกคนเหลียวมามอง ไม่เข้าใจที่พิศพูดว่าของขวัญอะไร
“ของขวัญอะไร” ฉัตรฉงน
พิศยิ้มในสีหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “ของขวัญแต่งงาน ระหว่างพิศกับคุณฉัตรไงคะ”

พระยาโกสินทร์ ฉัตร และฉาย ตกใจ!
ขณะเดียวกันที่ใต้ถุนเรือน ทั้งนางแดง นางพุ่ม เหล่าบ่าวและทาส ต่างพากันมาแอบฟังอยู่ที่ใต้ถุนเรือนกันสลอน ทุกคนเงี่ยหูฟังเรื่องบนเรือน

“ฉันไม่แต่ง! ฉันไม่ได้รักแม่พิศ” ฉัตรบอกเสียงแข็ง
“พิศเองก็ไม่ได้รักคุณฉัตรเหมือนกันค่ะ!” พิศว่า
ฉัตรแปลกใจมาก
“แล้วแม่พิศจะบังคับให้ฉันแต่งงานกับแม่พิศทำไม”
พิศมองฉัตรสีหน้านิ่งแววตาเต็มไปด้วยความแค้น “พิศไม่ยอมให้ใครนินทาได้ ว่าโดนคู่หมั้นทิ้งแล้วไปคว้าทาสเอามาเป็นเมีย”
ฉัตรสวนออกมา “แต่ฉันรักแม่บัว”
พิศไม่สน “แต่คุณฉัตรต้องแต่งงานกับพิศ”
พระยาโกสินทร์เห็นเรื่องชักลุกลามใหญ่โต จึงพยายามใช้เหตุผลพูดกับพิศ
“นึกว่าฉันขอร้องเถอะนะแม่พิศ ในเมื่อไม่รักกัน จะอยู่กินกันไปทำไม” ก่อนจะหันมาทางพระยาสมาน “ให้ฉันไถ่ตัวนังบัวมันไปเถอะนะ จะเรียกเงินทองเท่าไหร่ฉันจะหามาให้”
พิศได้ฟังกลับยิ่งโกรธ “ไม่เจ้าค่ะ! พิศไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น นอกจากแต่งงานกับคุณฉัตร ถ้าคุณฉัตรไม่ตกลง นังบัวก็คงต้องตายอยู่ในเรือนนี้”
ฉัตรทนไม่ไหวพูดเป็นเชิงขู่ “ถ้าแม่พิศจะทำกันถึงเพียงนี้ เห็นทีฉันก็คงต้องไปแจ้งหลวง”
พิศไม่ผิดแถมขู่กลับ “กว่าคุณฉัตรจะไปแจ้งหลวง นังบัวก็คงไปอยู่ในซ่องแล้วล่ะค่ะ” ฉัตรตกใจ “อย่านะ”
พิศเชิดหน้าใส่ฉัตร มองสู้สายตาอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้
“ไม่เห็นแก่ฉัน ก็เห็นแก่บุญแก่บาปเถอะแม่พิศ จะไทหรือทาสมันก็คนด้วยกัน อย่าทำกันถึงขนาดนั้นเลย”
พิศเมินหน้าหนีพระยาโกสินทร์ หันไปมองหน้าบิดา พระยาสมานพูดอย่างไม่ยี่หระ
“แม่พิศเขาเป็นคนใจแข็งมาแต่ไหนแต่ไร ลองเขาปักใจจะทำอะไรแล้ว ใครก็ห้ามไม่ได้หรอก เจ้าคุณ”
พิศลุกขึ้นยืน ประกาศทิ้งท้าย
“ข้อเสนอของพิศมีเท่านี้ คุณฉัตรจะว่าอย่างไรคะ”
ฉัตรเครียดจัด

เวลาต่อมา บัวทรุดลงกับพื้นห้องขัง หัวใจแทบแตกสลาย พอทราบข่าวจากนางพุ่มที่มารายงาน
“คุณฉัตรจะต้องแต่งงานกับคุณพิศจริงๆ หรือจ๊ะ”
นางพุ่มพยักหน้า “จริง .. เธอยอมแต่งกับคุณพิศ เพื่อแลกกับความเป็นไทของเอ็ง”
บัวน้ำตาคลอ “โธ่..คุณฉัตร..ไม่น่าต้องเสียสละเพื่อข้าขนาด นั้นเลย”
“วันที่เขาแต่งงานกัน เอ็งก็จะได้เป็นไท” นางพุ่มว่า
“ข้าจะเป็นไทไปเพื่ออะไรกันเล่า น้าพุ่ม ถ้าข้าเป็นไทแล้ว แต่ต้องเห็นคนที่ข้ารัก ต้องทุกข์ทรมานตลอดชีวิต ข้าไม่สู้ตายไปเสียมิดีกว่าหรือ”
บัวร้องไห้เงียบๆ เศร้าใจกับชะตาชีวิตของตัวเอง

สามพ่อลูกกลับมาที่เรือนแล้ว ฉัตร ฉาย และพระยาโกสินทร์ ต่างมีสีหน้ากังวล ฉายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“กระผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ฉัตรถึงยอมตกลงแม่พิศไป แบบนั้น เราจะไม่มีวิธีอื่นที่จะช่วยแม่บัวออกมาเลยหรือ”
“ฉายคิดเรอะว่าคนอย่างพี่จะยอม” ฉัตรพูดด้วยแววตาแข็งกร้าว
ฉายฟังแล้วแปลกใจ “ไม่ยอม แล้วพี่ฉัตรคิดจะทำกระไรหรือขอรับ”
“พี่จะพาตัวแม่บัวหนีในวันงาน” ฉัตรบอกท่าทีจริงจัง
“วันงานคนคงมากมาย มันจะไม่ดีหรือขอรับ” ฉายทักท้วง
พระยาโกสินทร์กลับเห็นงามตามลูกชายคนโต “ดีสิ คนยิ่งมาก ยิ่งดี” ท่านเจ้าคุณยิ้มออกมา “พ่อคิดออกแล้วว่าจะทำยังไง”
ฉัตรและฉายหันมองบิดาอย่างแปลกใจ

ครู่ต่อมาพระยาโกสินทร์หยิบหีบใส่ตรวนทองคำออกมา แล้ววางให้ลูกทั้งสองดู
“พ่อจะเอาตรวนทองคำพระราชทานนี่ ไปเป็นสินสอดให้แม่พิศ”
ฉัตรกับฉาย ตกใจ
ฉายท้วงทันที “แต่ตรวนทองคำพระราชทานเป็นของมีค่าที่สุดที่เจ้าคุณพ่อได้รัพระราชทานมา และเจ้าคุณพ่อก็หวงมากไม่ใช่หรือขอรับ ทำไมถึงตัดสินใจจะเอาไปเป็นสินสอดให้กับคนอย่างแม่พิศได้ละขอรับ”
“ก็เพราะของมันมีค่าไง ใครๆ ก็อยากเห็น อยากชื่นชม ถ้าชาวบ้านรู้ว่าเราเอาตรวนทองคำมาเป็นสินสอด ชาวบ้านก็จะแห่กันมาดูตรวนทองคำ คนยิ่งเยอะเราก็ยิ่งทำอะไรสะดวก” ท่านเจ้าคุณบอกเหตุผล
“เจ้าคุณพ่อ”
ฉัตรน้ำตาคลอ มองผู้เป็นบิดาอย่างซาบซึ้งใจ พร้อมก้มลงกราบเท้าพระยาโกสินทร์
“พ่อรักเจ้า อะไรที่เป็นความสุขของลูกพ่อยอมทำได้ทั้งนั้น”
ท่านเจ้าคุณบอกด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเมตตา

วันต่อมามีชาวบ้านยืนมุงอะไรกันอยู่ที่ตลาด โดยมีนายสนยืนคุยอยู่กับชาวบ้าน แม่ค้าในตลาด เสียงเอ็ดตะโร
ชาวบ้านคนหนึ่งร้องถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น “จริงเหรอวะ”
“จริงสิ! ข้าจะโกหกทำไม ขนาดข้าเป็นบ่าวในบ้านยังไม่เคยมีบุญตาได้เห็นเลย”
“ข้าอยากเห็นให้เป็นบุญตาสักครั้งว่ะ” แม่ค้าคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“อยากดูต้องได้ดู! ของพระราชทานเชียวนะ เกิดอีกกี่สิบชาติก็ไม่รู้จะได้เห็นหรือเปล่า” ชาวบ้านอีกคนบอก
“นั่นสิวะ ข้าจะไปรอดูแต่ไก่โห่เลย” แม่ค้าคนเดิมว่า
“มีลูกมีหลานชวนกันไปให้หมด ชวนกันไปให้เยอะๆ” นายสนสนับสนุนเป็นการใหญ่
ชาวบ้านและบรรดาแม่ค้าต่างฮือฮา เตรียมตัวจะไปดูตรวนทองคำพระราชทานกัน จังหวะนั้นนายสน เห็นนางพุ่มเดินอยู่อีกมุมในตลาด

ขณะที่นางพุ่มกำลังเดินกลับจากตลาด ครู่หนึ่ง ก็มีมือของใครคนหนึ่งเอื้อมมือมาปิดปากนางพุ่มไว้ แล้วลากตัวนางพุ่มเข้าไปที่มุมบ้านร้างอย่างรวดเร็ว
นางพุ่มพยายามจะดิ้นรนหนีจากการจับกุม นายสนรีบกระซิบสั่ง
“ไม่ต้องตกใจ ข้าเป็นบ่าวคุณฉัตร”
นางพุ่มหยุดดิ้นทันที นายสนพอเห็นนางพุ่มไม่ดิ้นแล้ว จึงยอมปล่อยตัวนางพุ่มโดยดี
“มีอะไร” นางพุ่มถาม

นางด้วงวิ่งหน้าตาตื่นขึ้นมาบนเรือนพระยาสมาน ก่อนจะคลานเข่าเข้ามารายงานพิศ
“คุณพิศเจ้าคะ..คุณพิศ”
พิศฉงนท่าทีตื่นตูมของบ่าวผู้สอพลอ “มีอะไรนังด้วง”
“บ่าวได้ยินมาว่าพระยาโกสินทร์ จะเอาตรวนทองคำพระราชทานมาเป็นสินสอดสู่ขอคุณพิศเจ้าค่ะ”
พระยาสมานเดินเข้ามาทันได้ยินคำพูดนางด้วงพอดี
“เอ็งว่าอะไรนะ ท่านเจ้าคุณโกสินทร์จะเอาตรวนทองคำมาเป็นสินสอดลูกพิศงั้นเรอะ”
“เจ้าค่ะ นางพุ่มบอกว่าคนในตลาดลือกันใหญ่โต”
พิศได้ยินนางด้วงพูดแล้วรู้สึกแปลกใจ พึมพำออกมา
“ทำไมถึงเอาตรวนทองคำมาเป็นสินสอด”
พระยาสมานยิ้มร่าอย่างดีใจ “จะเป็นไรไปเล่าลูก...ตรวนอันนั้นนอกจากเป็นของพระราชทานแล้ว ยังทำจากทองคำล้วนๆ ทั้งอัน ตีค่าเป็นไม่รู้เท่าไหร่ แค่ได้ยินแค่นี้ก็มีความสุขไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว” ท่านเจ้าคุณหัวเราะร่า “ถ้าเห็นของจริงข้าคงไม่เป็นลมล้มไปเลยหรือวะ นังด้วง!”
นางด้วงพลอยยิ้มมีปลื้มปริ่มมีความสุขตามพระยาสมาน เว้นแต่พิศที่ยังมีสีหน้าครุ่นคิด
“พวกแม่ค้ามันยังบอกอีกนะเจ้าคะว่าพระยาโกสินทร์ จะแห่ขบวนขันหมากมาอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติที่สุด อีพวกชาวบ้าน แม่ค้าในตลาดนี้ตื่นเต้นอยากจะออกมาดูขบวนแห่กันยกใหญ่” นางด้วยกระดี๊กระด๊าเล่าต่อ
พระยาสมานรีบสั่งการ “เฮ้ยๆๆ งั้นพรุ่งนี้เอ็งพาบ่าวผู้ชาย ตรวจตราความเรียบร้อยให้ดีนะ นังด้วง อย่าให้ใครเข้ามาเกะกะในงานได้”
“เจ้าค่ะ”

นางด้วงระริกระรี้รับคำ ส่วนพิศแทนที่จะดีใจ กลับมีสีหน้ากังวล ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ส่วนทางด้านไอ้เพียรวิ่งหลบๆ ซ่อนๆ ตรงมาลงเรือลำหนึ่ง ซึ่งเป็นเรือสำปั่น มีช่องเก็บของอยู่ใต้ท้องเรือด้วย

“นังน้อยๆ” ไอ้เพียรตะโกนเรียก
น้อยโผล่มาจากที่ซ่อน “ได้ความว่าอย่างไร ไอ้เพียร ได้ข่าวบัวมันบ้างไหม”
“นังบัวยังปลอดภัยดี คุณพิศขังมันเอาไว้ แต่ว่า ตะกี๊ข้าแวะเข้าไปในตลาด ได้ยินข่าวใหม่มา ข่าวไม่สู้ดี” ไอ้เพียรบอก
น้อยถามหน้าตื่น “อะไร”
“คุณฉัตรจะแต่งงานกับคุณพิศวันพรุ่งนี้”
น้อยอึ้ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ “เป็นไปได้ยังไง ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคุณฉัตรจะเลือกคุณพิศ” น้อยครวญด้วยความสงสารบัว “โธ่ บัวเอ๊ย มันคงจะเสียใจมาก”

น้อยคิดบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปหยิบไม้พาย
ไอ้เพียรเห็นก็ตกใจ “นังน้อย เอ็งจะทำอะไร”
“ข้าจะไปหาบัว ข้าจะไปช่วยมันออกมา” น้อยบอกอย่างมุ่งมั่น
“ไม่ได้นะ เอ็งอยากไปตายหรือยังไง มันเสี่ยงนะเว้ย”
ไอ้เพียรไม่ยอม แย่งไม้พายจากน้อยมา น้อยแย่งกลับคืนมา
“เสี่ยงข้าก็จะไป”
“เอ้า ถ้าเอ็งไป ข้าไปด้วย...ข้าจะไปเสี่ยงกับเอ็ง เป็นไงเป็นกัน!” ไอ้เพียรมองน้อย พูดอย่างจริงจัง “ข้าไม่ยอมให้เอ็งไปเสี่ยงคนเดียวแน่”
น้อยมองไอ้เพียร รู้ว่าไม่มีประโยชน์จะเถียง ได้แต่ถอนใจ นิ่งคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“งั้นเอ็งก็เตรียมตัว เดี๋ยวข้าไปหาข้าวมาให้กิน”

สองคนยังอยู่ด้วยกันที่ริมแม่น้ำ น้อยกำลังย่างปลาอยู่ ระหว่างนั้นน้อยชะเง้อมองเพียรอย่างระวัง แล้วหยิบผงอะไรบางอย่าง น้อยรู้ดีว่าเป็นเกสรดอกลำโพง โรยลงไปบนตัวปลา
สักครู่หนึ่งน้อยก็เอาปลามาให้ไอ้เพียร
“กินปลารองท้องก่อน จะได้มีแรงไปช่วยนังบัวกัน”
“แล้วเอ็งไม่กินหรือ”
“เอ็งกินไปก่อนเถอะ ข้ายังไม่หิว”
น้อยบอก พลางส่งกระทงรองปลาให้ ไอ้เพียรยิ้มแย้ม แล้วหยิบปลามากินอย่างชื่นอกชื่นใจ น้อยนั่งชำเลืองมองเป็นระยะๆ เหมือนมีอะไรบางอย่าง
ไอ้เพียรปลื้มไม่หายเงยหน้าขึ้นมายิ้ม “รสมือเอ็งนี่เลิศแท้ แค่ปลาย่างไฟ ก็อร่อยยิ่งกว่าข้าวทิพย์”
“กินไปเถอะ อย่าพูดมาก กินเยอะๆ นะ” น้อยบอก
“ข้ากินไปเยอะแล้ว” ไอ้เพียรยื่นปลามาให้น้อย “เอ็งกินบ้างเถอะ นังน้อย”
แต่แล้วเพียรต้องชะงัก เริ่มรู้สึกมึนหัวตึบ ดวงตาพร่าเลือน ไอ้เพียรรู้สึกผิดปกติ หันไปมองน้อย อาการเริ่มสะลึมสะลือ “นังน้อย...ปลานี่มัน...” ไอ้เพียรนึกได้ “เอ็ง...”
พูดได่เท่านั้นไอ้เพียรก็หมดแรงฟุบหลับไป

ค่ำคืนนั้นบรรยากาศภายในคุกหลังเรือนทาสเงียบสงัด แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในคุกเห็นบัวนั่งอยู่ท่าทางดูเศร้าโศก
สักครู่หนึ่ง บัวหยิบเชือกที่ไว้ใช้มัดมือบริเวณนั้นออกมา น้ำตาอาบสองแก้ม จากนั้นบัวค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปที่กลางกรงขัง กอนจะนำเอาเชือกโยนขึ้นไปแขวนไว้กับคานของกรง บัวค่อยๆมัดเชือก กับคานกรงอย่างช้าๆ
ครู่ต่อมาบัวเอาแต่พร่ำรำพัน
“บ่าวอยากให้คุณฉัตรรู้ไว้ว่า บ่าวซาบซึ้งในความรักที่คุณฉัตรมีให้บ่าวเสียเหลือเกิน”
บัวจับเชือกในมือกำไว้แน่นอย่างมุ่งมั่น

“คุณฉัตรเสียสละเพื่อบ่าวมามากแล้ว ต่อไปนี้คุณฉัตรจะไม่ต้องทำอะไรเพื่อบ่าวอีก…ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เรากลับมารักกันอีกด้วยเถิด”
ขาดคำทันใดนั้น บัวค่อยๆ โหนคอตัวเองไว้กับเชือก บัวหลับตาน้ำตาหยดสุดท้ายหยดลง บัวปล่อยร่างตัวเองห้อยโตงเตงอยู่กับเชือก
นางพุ่มเข้ามาเห็นพอดีก็รู้สึกตกใจ “นังบัว” แล้วรีบตะโกนบอกกับบ่าวผู้ชาย “เฮ้ย! เอากุญแจมาเปิดประตูหน่อย นังบัวฆ่าตัวตาย”
บ่าวผู้ชายมาเปิดประตูให้
นางพุ่มรีบปรี่เข้าไปช่วยบัว
“นังบัว ทำไมเอ็งคิดสั้นแบบนี้”
บัวร้องไห้สะอึกสะอื้น “น้าพุ่มจะมาช่วยข้าไว้ทำไม ข้าไม่อยากอยู่แล้ว ข้าไม่อยากให้คุณฉัตรแต่งงานกับคุณพิศ ไม่อยากให้คุณฉัตรไม่มีความสุขเพราะข้า”

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 7 วันที่ 12 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ที่มา manager