อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 1/2 วันที่ 4 เม.ย. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 1/2 วันที่ 4 เม.ย. 56

อลิสมองน้ำหนึ่งกวนๆ “ขอโทษแล้วมันหายเจ็บมั้ย”
“ตรรกะของเธอนี่มันแปลกจริงๆ”
อลิสยียวน “ก็นี่แหละตรรกะของอลิส ขอโทษไม่หายเจ็บ”
“งั้น...พวกฉันก็ไม่ขอโทษ...เพราะพวกฉันก็เจ็บเหมือนกัน” นิ้งว่า
“แต่ฉันเจ็บกว่า” อลิสผลักนิ้งแบบหาเรื่อง จนนิ้งเซถลาไป
นิ้งเหลียวขวับ มองมาอย่างโกรธแค้น “ยัยอลิส”
“ทำไม? มีอะไร?” อลิสจะถลันเข้าหา

เพชรน้ำบุศย์เข้าไปขวางด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายมาก “ไม่มีเรื่องสักวันไม่ได้เหรออลิส”
“ไม่ได้! โดยเฉพาะกับ...เธอ”


“ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยเอาชนะฉันได้ซักเรื่องน่ะเหรอ? โดยเฉพาะเอาชนะหัวใจพี่ภาคย์” เพชรน้ำบุศย์คว้ามือนิ้ง “ไปกันเถอะนิ้ง”
อลิสเต้นร่าวๆ “ยัยน้ำหนึ่ง นี่เธอเยาะเย้ยฉันนี่หว่า”
อลิสตามไปแบบโกรธมาก

เพชรจ้องมองเกรียงศักดิ์และคุณหญิงดาราณีเขม็ง
“น้ำหนึ่ง เพชรน้ำบุศย์...ฉันอยากจะเห็นหน้าเธอนัก...ลูกของคนเลวๆ หน้าตาจะเป็นยังไง”
มือของเพชรกำแน่น พยายามข่มอารมณ์ อีกมุมเพชรน้ำบุศย์กำลังเดินแกมวิ่งมาหา เสียงมือถือดัง เพชรรับ
เสียงปลายสายดังลอดออกมา “เพชร..เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ที่ไซต์งานมีปัญหา รีบมาดูเร็ว”
“ได้..เดี๋ยวรีบไป”
เพชรวางสาย มองไปที่เกรียงศักดิ์กับดาราณีด้วยความเสียดาย

เพชรเดินลิ่วไปตามทาง เพชรน้ำบุศย์กับนิ้งวิ่งตามมา เพชรน้ำบุศย์มองไปเห็นเพชรก็ดีใจตื่นเต้นมาก พูดออกมาเบาๆ
“พี่เพชร”
“อะไร? น้ำหนึ่งอะไร” นิ้งถาม
เพชรน้ำบุศย์ไม่ตอบ วิ่งตามเพชรไปทันที ภาคย์เดินมาจากอีกมุมพอดี นิ้งร้องเรียก
“พี่ภาคย์”
ภาคย์ถามนิ้งทันที “น้ำหนึ่งไปไหนนิ้ง”
“สงสัยไปเข้าห้องน้ำมังคะ”
“ห้องน้ำที่ไหน ก็เห็นอยู่...ว่าวิ่งตามผู้ชาย” อลิสพูดพร้อมกับเบ้ปาก
ภาคย์มองอลิสอย่างไม่พอใจ จะเดินตามเพชรน้ำบุศย์ ถูกอลิสคว้ามือเอาไว้
“จะไปไหนพี่ภาคย์ อลิสไม่ให้ไป”
“อลิสมีสิทธิ์อะไรมาห้ามพี่” ภาคย์ถาม
“ว่าที่คู่หมั้นไงล่ะ!”
“อลิสคิดไปคนเดียว” ภาคย์พูดจบก็เดินตามเพชรน้ำบุศย์ไป
นิ้งเบ้ปากใส่อลิส พร้อมกับหัวเราะเย้ยก่อนจะตามภาคย์ไป อลิสได้แต่กระทืบเท้าขัดใจมาก

เพชรเดินลิ่ว หางตาแลเห็นเพชรน้ำบุศย์วิ่งตามมา เพชรรีบหลบมุม เพชรน้ำบุศย์วิ่งตามมากวาดสายตามองหาเพชร พึมพำเบาๆ
“พี่เพชร หายไปไหนเร็วจัง”
เพชรน้ำบุศย์กวาดสายตามอง แต่ไม่เห็นเพชร ภาคย์ นิ้งตามมา
“มองหาใครน้ำหนึ่ง”
“เปล่าค่ะ” เพชรน้ำบุศย์ปฏิเสธ
“งั้นก็รีบไปเถอะ ป่านนี้คุณพ่อคุณแม่เธอ รอแย่แล้ว” นิ้งบอก
เพชรน้ำบุศย์ยังลังเล กวาดสายตามองหาเพชร จนภาคย์ต้องแตะข้อศอก เพชรน้ำบุศย์ถึงเดินคอตกกลับไป
เพชรออกจากที่ซ่อน
“ไม่เคยรู้จักกันซักหน่อย ตามเรามาทำไม” เสียงมือถือดังอีก เพชรรับแล้วบอกกับทางปลายสาย “กำลังไปเดี๋ยวนี้แล้ว”

เพชรเดินผละไปอย่างรวดเร็ว หมดความสนใจเรื่องของเพชรน้ำบุศย์แค่นั้น
ภายในงาน เกรียงศักดิ์ยืนอยู่เคียงข้างกับคุณหญิงดาราณี เพชรน้ำบุศย์ ภาคย์ และนิ้งเดินเข้ามาหา สามคนยกมือไหว้ ดาราณีถามทันที

“ไปสัมภาษณ์งานมาเป็นยังไงบ้างลูก”
“อาทิตย์หน้าเริ่มงานได้เลยค่ะคุณแม่” เพชรน้ำบุศย์ตอบ
“ต่อไป...จะได้โตเป็นผู้ใหญ่ซักที มะ..มาดูชมพู่เพชรน้ำบุศย์”
เกรียงศักดิ์จูงมือลูกสาวไปดูชมพู่ ภาคย์กับนิ้งตามไป แต่แล้วกลับมีเสียงเรียก
“ท่านครับ...ผมมี พลอย เป็นของที่ระลึกมาฝากท่านครับ”
คุณหญิงดาราณีชะงัก เกรียงศักดิ์เองก็หน้าเจื่อน

ตกตอนกลางคืน มือของเกรียงศักดิ์ยื่นพลอยให้กับนวลและตาหวาน
“ฉันให้”
สองคนทำท่าดีใจมาก รีบยกมือไหว้ “ขอบคุณค่ะ”
“โอ้โห! สวยจังเลยค่ะ....ตาหวานจะเก็บเงินไปทำหัวแหวน เผื่อจะเป็นแก้วสารพัดนึก ขออะไรได้ดั่งใจทุกอย่าง”
“อยากได้อะไรจ้ะตาหวาน” เพชรน้ำบุศย์ถาม
“อันดับแรกเลย ถ้ามีแฟน ห้ามให้แฟนของตาหวาน เจ้าชู้หลายใจ ห้ามมีกิ๊ก ห้ามงุงิงิงุ ปุ๊ปิ๊ปุ๊ปิ๊เด็ดขาด”
เกรียงศักดิ์ กับดาราณีหน้าเจื่อนไป
นวลแตะมือเบาๆ เชิงตำหนิ “เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดจาอะไร แก่แดด ขอโทษค่ะท่าน”
นวลรีบพาตาหวานออกไป เพชรน้ำบุศย์หันหน้าไปมอง เกรียงศักดิ์ และดาราณี เห็นพ่อแม่หน้าเจื่อนผิดปกติ จึงถามอย่างกังวล เป็นห่วงระคนสงสัย
“คุณพ่อ คุณแม่...มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
ดาราณีตอบเสียงอ่อนโยน “เปล่าจ้ะ...แม่คงเหนื่อยมากไปหน่อย”
ดาราณีเดินไป เกรียงศักดิ์มองตาม ด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกดาราณีมาก ก่อนบอกน้ำหนึ่ง
“ดึกแล้ว...ไปพักผ่อนเถอะลูก”
เกรียงศักดิ์เดินตามดาราณีไป เพชรน้ำบุศย์นึกสงสัย พ่อแม่เป็นอะไร

พอดาราณีเดินเข้ามาในห้องก็ทรุดตัวลงนั่ง ร้องไห้เงียบๆ น้ำตาไหลริน เกรียงศักดิ์เดินตามเข้ามาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ จับมือของดาราณีเอาไว้ บอกด้วยเสียงอ่อนโยน เสียใจที่สุด
“คุณหญิง...ผมขอโทษ...เรื่องพลอย...ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ” คุณหญิงดาราณีไม่ตอบ มีเพียงน้ำตาที่บอกว่ายังเสียใจตลอดเวลา

เวลาเดียวกันพลอยเข็นรถเข็นออกมาท่ามกลางความมืด ดวงตามีหยาดน้ำตาคลอหน่วย
ตลอดเวลา แบบคนช้ำใจหนัก เสียงอ่อนโยน ปลอบประโลมของเกรียงศักดิ์ดังก้อง
“ฉันขอโทษนะพลอย...เรื่องของเรา...ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ
ดวงหน้าและดวงตาที่เสียใจของพลอยแข็งกร้าวขึ้นทันควัน โกรธมาก
“แต่พลอยตั้งใจ” พลอยเสียงเข้มขึ้น จะเอาให้ได้ “พลอยตั้งใจ”
มือพลอยจิกเกร็งที่พนักเก้าอี้ เห็นสีเล็บแดงฉาน ตัดกับภาพลักษณ์อ่อนแอของพลอยโดยสิ้นเชิง

วันต่อมาขณะที่เพชรน้ำบุศย์ขับรถมาจอดหน้าหงอยๆ ที่สี่แยกไฟแดง รอสัญญาณไฟเขียว
“วันนั้นไม่น่าคลาดกับพี่เพชรเล้ยย.....” สีหน้าหญิงสาวดูมุ่งมั่นมากขณะพูดออกมา “เจ้าประคู้ณ...ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง” แอบอมยิ้มหน้าเขินๆ “ขอให้น้ำหนึ่งได้เจอกับพี่เพชรอีก”
เพชรน้ำบุศย์อมยิ้มขำๆ นึกในใจ พูดไปงั้นแหละเจอก็ดี แต่โอกาสเจอแทบไม่มี ก่อนที่จะเบนสายตามองออกไปนอกรถ ฉับพลันต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นร่างเพชรยืนอยู่ที่ร้านวัสดุก่อสร้าง
เพชรน้ำบุศย์ตะลึงงัน
“พี่เพชร”
ด้านเพชรกำลังสั่งซื้อ และเลือกของที่ร้านวัสดุก่อสร้าง ไม่ได้มองออกมานอกถนนเลย สนใจแต่งานตรงหน้า เพชรน้ำบุศย์พะว้าพะวัง ตัดสินใจลดกระจกลงร้องเรียก
“พี่เพชร”
เพชรที่กำลังเลือกของอยู่ หันมาตามเสียง กวาดสายตามองไป แต่ยังไม่เห็นเพชรน้ำบุศย์
ระหว่างนั้นสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว รถด้านหลังบีบแตรดังสนั่น เพชรน้ำบุศย์สะดุ้งอีก รีบขับรถออกไป แต่จดสายตาสายตามองเพชรไม่วางตา ตื่นเต้นดีใจมาก
เพชรไม่เห็นใคร ทำท่าว่าคงหูแว่วไปเอง ก่อนเลือกของต่อไป

ส่วนเพชรน้ำบุศย์ขับรถผ่านไฟแดงมา ก่อนเบนรถเข้าจอดที่ข้างทางแบบไม่สนใจเลยว่าเป็นป้ายห้ามจอด ก่อนวิ่งลงมา ย้อนกลับไปทางเดิมรวดเร็ว

เพชรน้ำบุศย์วิ่งข้ามถนนมา แต่ยังข้ามมาไม่ได้ มีจังหวะลุ้นๆ เพชรน้ำบุศย์พะว้าพะวังสีหน้าร้อนใจ กลัวไม่เจอเพชร
ฟากเพชรซื้อของเสร็จ เดินออกมานอกร้าน คนขายตามมา
“เดี๋ยวผมให้คนเอาของไปส่งที่ไซต์งานนะครับนายช่าง”
“ขอบคุณครับ”
เพชรตรงไปที่รถ น้ำหนึ่งวิ่งย้อนกลับมาได้ เห็นเพชรขับรถออกไป เพชรน้ำบุศย์หน้าเสีย
“พี่เพชร”

เพชรไม่ได้ยิน เพราะขับรถออกไปแล้ว เพชรน้ำบุศย์หน้าสลดลง
ไม่นานนัก สองสาวอยู่ในร้านไอศกรีม เพชรน้ำบุศย์หน้าจ๋อย ขณะที่นิ้งอมยิ้ม มองเพื่อนสาวแบบระอานิดๆ

“โอ้โห! น้ำหนึ่ง ตัวนี่เป็นเอามาก วิ่งตามพี่เพชรถึงขนาดโดนล็อกล้อรถ ก็ยอม”
“เวอร์ไปใช่มะ” เพชรน้ำบุศย์หน้าจ๋อย “ยอมรับว่าเวอร์...แต่...แต่....ตัวก็รู้ว่า...” เขินๆ เหนียมๆ “ว่าเราแอบปลื้มพี่เพชรมานานแล้ว” ขณะพูดดวงตาเพชรน้ำบุศย์เป็นประกายเจิดจ้าท่าทางตื่นเต้น “และอีกอย่าง...”
“อะไร”
“พี่เพชรกับเราต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ เพราะทันทีที่เราอธิษฐานเสร็จ พี่เพชรก็มาปรากฏตัวตรงหน้าปั๊บเลย”
นิ้งหัวเราะ “เหมือนอย่างที่เค้าว่าเลย...ผู้หญิง ชอบคิดว่าความบังเอิญเป็นพรหมลิขิต”
“ก็แล้วจะให้คิดว่าอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต...” ยิ้มฝันเพ้อ “พี่เพชร...ต้องเกิดมาเพื่อ
เราแน่ๆ เลยนิ้ง”
เพชรน้ำบุศย์หัวเราะคิก ดวงตาของสาวน้อยชวนฝัน

ส่วนที่ไซต์งานแห่งนั้น คนงานทำงานกันอย่างแข็งขัน แต่ละคนเหงื่อตก ท่าทางเหน็ดเหนื่อย เพชรในเครื่องแต่งกายวิศวกรคุมงาน โทรศัพท์อยู่
“ไซต์งานที่ผมรับผิดชอบมีปัญหานะครับแม่...อีกหลายวันกว่าจะได้กลับบ้าน...พี่พลอยเป็นยังไงบ้างครับ...แล้วผมจะรีบกลับ”
เพชรวางสาย สีหน้ามีแต่ความเป็นห่วง เครียดกังวลใจเรื่องพลอย

คืนนั้นที่คฤหาสน์เกรียงศักดิ์ เพชรน้ำบุศย์อยู่ในห้องนั่งเล่น กำลังพับดาวใส่ขวดโหลอยู่ นวลกับตาหวานที่เดินมาตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านเห็นเข้านวลจึงร้องทัก
“ดึกมากแล้ว...คุณน้ำหนึ่งยังไม่นอนอีกเหรอคะ”
เพชรน้ำบุศย์ยิ้มหวาน “ยังไม่ง่วงค่ะ เลยมานั่งพับดาว”
“ให้ตาหวานช่วยพับดาวมั้ยคะ”
เพชรน้ำบุศย์มองดาวในมือยิ้มๆ “ขอบใจจ้ะ แต่ไม่ต้อง....” พลางหยิบขวดโหลขึ้นมา “เพราะพี่...จะนั่งพับเอง...พี่จะนั่งพับดาวจนกว่าจะเจอ...พี่คนนั้น”
ตาหวานงง “พี่คนไหนคะ”
เพชรน้ำบุศย์ยิ้มไม่ตอบ แต่ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า ภาพจำในอดีตผุดขึ้นมา

วันนั้นที่สนามบาสของโรงเรียน เพชรกำลังแข่งบาสอยู่ ท่วงท่าและลีลาของเพชรเท่มาก
สาวน้อยในโรงเรียนส่งเสียงกรี๊ดเพชร รวมทั้งเพชรน้ำบุศย์ที่เวลานั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 มองเพชรอย่างเอาใจช่วย เวลาเพชรโยนลูกเข้าห่วง สาวๆ ก็เฮ จังหวะหนึ่ง ระหว่างการแข่งขัน ลูกบาสลอยมาถูกหัวของเพชรน้ำบุศย์อย่างจัง น้ำหนึ่งร้องกรี๊ด เพชรกระโจนเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว

ไม่นานหลังจากนั้น เพชรที่เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยแล้ว ที่คอมีเสื้อแข่งกีฬาพาดอยู่ เพชรเดินมายื่นแก้วน้ำให้เพชรน้ำบุศย์ที่นั่งหน้าซีดแต่ยิ้มพราย ตามองแต่เพชรไม่วางตา เพชรถามเอ็นดู
“ไง...เจ็บมากมั้ย”
“นิดหน่อยค่ะ...แล้วผลการแข่งการแข่งขันเป็นไงบ้างคะ”
“โรงเรียนเราต้องชนะสิ” เพชรว่า
“เพราะพี่เพชรกลับมาช่วย แล้วพี่เพชร...จะกลับมาเยี่ยมโรงเรียนอีกเมื่อไหร่คะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน...งานพี่ยุ่งมาก ตกลง เราไม่ได้เป็นไรนะ”
“ค่ะ”
“งั้น..ตั้งใจเรียน” เพชรเดินออกไป...แต่นึกอะไรขึ้นได้จึงหยุด เดินมาแล้วหยิบเสื้อกีฬายื่น
ให้ “เสื้อประจำตัวพี่...พี่ให้...เป็นการปลอบขวัญ มีโอกาสแล้วเจอกัน” จากนั้นก็เดินไป
“ค่ะ” เพชรน้ำบุศย์กอดเสื้อเพชรเอาไว้ ปลื้มมาก เห็นเบอร์ 13 เด่นหรา “พี่เพชร!”

ตาหวาน นั่งฟังเรื่องเพชรที่เพชรน้ำบุศย์เล่าตาค้าง ราวกับฟังนิทาน เพชรน้ำบุศย์เดินมาพร้อมกับเสื้อกีฬาของเพชร
“นี่ไง..เสื้อของพี่คนนั้น น้ำหนึ่งเก็บรักษาไว้อย่างดี แล้วก็ถือว่าเลข 13 เป็นเลขนำโชคของน้ำหนึ่ง”
“โอ้โห! เหมือนในละครเลย ตาหวานอยากเจอคนอย่างพี่คนนั้นบ้างจัง...เออ..แล้วถ้าพี่คนนั้นเจอพี่น้ำหนึ่ง...เค้าจะจำพี่น้ำหนึ่งได้หรือคะ? ท่าทางพี่คนนั้นเค้าป๊อบจะตาย”
“คงจำไม่ได้มั้ง...วันนี้พี่วิ่งตามเค้า...เค้ายังไม่หยุดเลย”
“ว้าว....เจอกันแล้วเหรอคะ” ตาหวานตื่นเต้น
เพชรน้ำบุศย์หน้ามุ่ย “เจอข้างเดียวนะสิ...เฮ้อ! รอตั้งหลายปีบทจะได้เจอ...พี่เค้าจำไม่ได้ซะงั้น”
“พี่เค้าคงไม่เห็นมังคะ...เพราะเวลาผ่านไปแค่สามสี่ปี น่าจะจำได้” นวลหน้าเศร้า “แต่ถ้าต้องพลัดพราก จากกันตั้งแต่ยังเด็ก และผ่านมาเป็นหลายสิบปี ต่อให้มายืนอยู่ตรงหน้า ก็คงจะจำไม่ได้”
“ป้านวลพูดเหมือนเคยพลัดพรากจากใครมายังงั้นแหละค่ะ”

นวลน้ำตารื้น “ลูกชายของป้าเองค่ะ”
นวลนึกถึงเรื่องราวขมขื่นในอดีต ที่ต้องเอาลูกชายวัยไม่กี่เดือน ยื่นให้ทับทิม ท่าทางลุกลี้ลุกลน

“พี่ทับทิม...ฉันฝากไอ้น้อยหน่อยนะพี่”
“แกจะไปไหน”
“หนี! ฉัน...ฉันพลั้งมือฆ่าคน”
“หา” ทับทิมตกใจมาก “ใคร..แกฆ่าใคร”
“ลูกค้า...มันปล้ำฉัน....ฉันไปก่อนนะพี่..ฝากลูกด้วย”
นวลกระหืดกระหอบวิ่งหายไป ลับร่างของนวล ตำรวจวิ่งกรูกันเข้ามา พลอยที่ขณะนั้นอายุ
ไม่กี่ขวบเห็นตำรวจก็เนื้อตัวสั่นเทา
ภาพสุดท้ายที่นวลเห็นคือ ทับทิมโอบกอดน้อยและพลอยเอาไว้

นวลนั่งนึกถึงอดีตแล้วน้ำตาไหล ไม่ไหวติง เพชรน้ำบุศย์เรียกเบาๆ
“ป้านวลคะ..ป้านวล”
นวลรีบปาดน้ำตา “ป้าขอตัวไปนอนก่อนนะคะ” นวลลุกหนีไปเลย
เพชรน้ำบุศย์มองตาม “พี่ไม่เคยรู้เลยว่าป้านวลมีลูก..นี่..ป้านวลเคยเล่าให้ตาหวานฟังบ้างมั้ย เรื่องมันเป็นยังไง”
ตาหวานพูดท่าทีโอเวอร์ “โห! เรื่องของป้านวลนี่ก็ยังกับละครเลยค่ะพี่น้ำหนึ่ง...เมื่อก่อนป้านวลแกเป็นหมอนวดแผนโบราณแล้วมีเหตุจำเป็นอะไรก็ไม่รู้ เลยฝากลูกไว้กับเพื่อน แต่พอกลับไปหาลูกอีกที บ้านเพื่อนก็ไฟไหม้ ย้ายไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ตั้งแต่วันนั้นแกกับลูกชายก็พลัดพรากจากกัน จนถึงวันนี้เลยค่ะ”
“โถ! น่าสงสารป้านวลจัง”
“นั่นน่ะสิคะ..ป้านวลไม่ได้บอกด้วย ว่าลูกชายของแก มีไฝ มีฝ้า มีปาน มีแป้ว อยู่ตรงไหน? ไม่งั้น..ตาหวานช่วยป้านวลตามหาไปแล้ว”


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 1/2 วันที่ 4 เม.ย. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manager