อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 9/5 วันที่ 30 เม.ย. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 9/5 วันที่ 30 เม.ย. 56

พลอยหันขวับมามองตาวาวโรจน์ “อย่ามากล่าวหาฉันนะ”
“รจไม่ได้กล่าวหา แต่รจไม่ได้ทำร้ายคุณอลิส แล้วคืนนั้น คนที่อยู่กับคุณอลิสก็คือพี่พลอยกับน้าทับทิม”
“รจนา”
พลอยลุกพรวดขึ้นมาทันที รจนาไม่คาดคิดอ้าปากหวอ น้ำหนึ่งที่จะเดินเข้าบ้าน เห็นเหตุการณ์ชะงักมอง
เนื้อตัวสั่น พลอยจิกผมรจนาอย่างแรง ฟาดเข้าที่หน้าผลัวะ

รจนาไม่ทันตั้งตัวเสียหลักล้มลง “โอ๊ย”
พลอยกระโดดขึ้นคร่อมตัวรจนาเอาไว้บีบคอแน่น
“อย่ามาใส่ร้ายฉัน” พลอยตะคอกเสียงดุดัน “คนที่ทำร้ายนังอลิสคือเธอ”


“ไม่นะรจเปล่า รจเปล่า”
“เธอนั่นแหละเป็นคนทำ...แล้วถ้าเพชรรู้ เธอคิดว่า เพชรจะยอมรับผู้หญิงที่ใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต
เป็นคนรักเหรอ”
น้ำหนึ่งมองตัวแข็งทื่อ อึ้ง ตะลึง กับคำพูดของพลอยที่ชวนเสียใจ พลอยเย้ยรจนาต่อ
“ไม่มีทาง! ยิ่งเทียบกับผู้หญิงที่แสนดีอย่างน้ำหนึ่ง ยิ่งไม่ทีทาง”
น้ำหนึ่งได้ฟังคำพูดของพลอยคราวนี้ใจชื้นขึ้นมา ขณะที่รจนามองพลอยอย่างเสียใจ และเริ่มใจเสีย
“พี่รู้มาตลอดว่าเธอน่ะชอบเพชร”
“พี่พลอย”
“หรือไม่จริง?”
รจนาเงียบกริบ น้ำหนึ่งเองก็อึ้ง พลอยได้ทีด่าต่อ
“อย่ามาปรักปรำพี่อีก เพราะถ้าเพชรรู้...อย่าว่าตำแหน่งคนรักเลย... แค่คนรู้จัก เพชรก็จะไม่ให้เธอ”
“ค่ะ...”
พลอยละตัวออก “ยังไม่กลับอีก”
“รจ...รจจะมาบอกเรื่องคุณน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งมองอย่างสนใจ รจนาบอกพลอยต่อ
“จริงๆ พี่พจน์กับรจไม่ได้ทำร้ายคุณน้ำหนึ่งนะคะ...แต่อาจเป็นเพราะคุณน้ำหนึ่ง ทำร้ายตัวเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพี่เพชร”
น้ำหนึ่งตะลึงอึ้ง คาดไม่ถึง สองคนจะคิดร้ายต่อตัวเองขนาดนี้ พลอยดุ
“เพ้อเจ้อ...ใครจะพิเรนทร์ทำร้ายตัวเองอย่างนั้น กลับไปได้แล้วรจนา อย่าให้พี่โมโห”
“พี่พลอย”
“กลับไป อย่าให้พี่โมโห”
“ค่ะๆ”
รจนารีบลนลานกลับออกไป น้ำหนึ่งผลุบเข้ามุมแถวนั้นซ่อนตัว ใจเต้นไม่เป็นส่ำ จนเห็นว่ารจนาเดินลับหายตัวไปแล้ว น้ำหนึ่งถึงหันกลับมามอง แต่ไม่เห็นพลอยแล้ว
“พี่พลอยหายไปไหน เร็วจริง?”
น้ำหนึ่งนึกถึงภาพเมื่อครู่ที่เห็นพลอยลุกจากรถเข็นพุ่งเข้าหารจนา พร้อมกันนี้ยังนึกถึงวันก่อนที่เดินหาพลอยในห้อง และเห็นเพียงรถเข็น แต่ไม่เห็นพลอย
น้ำหนึ่งยิ่งคิดยิ่งสับสนมาก
“แปลว่า...ที่ผ่านมาพี่พลอย...” น้ำหนึ่งสลัดหัวสะลัดความคิด “ไม่..พี่พลอยต้องไม่เป็นคนอย่างนั้น” แล้วนึกถึงเพชรขึ้นมา “พี่เพชร” นำหนึ่งจึงบอกเตือนตัวเอง “จะคิด จะทำอะไร เธอต้องคิดถึงพี่เพชรให้มากๆ น้ำหนึ่ง”

สีหน้าของน้ำหนึ่งเป็นห่วงแต่เพชร
ด้านเพชรค่อยๆ ย่องเข้ามาที่คอนโด ท่าทีก้มหน้าก้มตาเพราะมีเรื่องคดีอยู่ แต่ลูกน้องของนักปราชญ์ที่ซุ่มดักรอดันเห็นเข้า

“นั่นไอ้เพชร”
“มันกลับมาจนได้”
ลูกน้องของนักปราชญ์วิ่งมาที่เพชรทันที เพชรหันมาเห็น รู้ทันทีว่ามาไม่ดี จึงวิ่งหนีสุดชีวิต

ที่บริเวณข้างคอนโดเพชร ตรงจุดที่ก้องเพื่อนเพชรวิ่งหนีลูกน้องของนักปราชญ์ ป้าน้อมแม่บ้านที่คอนโดเดินมา เสียงมือถือดัง ป้าน้อมสะดุ้งโหยง ตกใจ
“เสียงโทรศัพท์ที่ไหน”
ป้าน้อมกวาดสายตามอง เห็นมือถือเครื่องหนึ่งตกอยู่ในพงหญ้า ป้าน้อมหยิบขึ้นมา
“ใครกัน มาทำมือถือตกไว้” ป้าน้อมก้มลงเก็บกดรับสาย “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”
“ก้องๆ เหรอ?...หายไปไหนตั้งนาน ไม่ติดต่อมาเลย” ปลายสายถาม
ป้าน้อมเริ่มใจสั่น “ก้อง..ก้องไหนคะ”
“ก็..ก้องภพไง...นั่นมือถือก้องหรือเปล่า” เสียงปลายสายถาม
ป้าน้อมตกใจ “ก้องภพ...คุณก้องเสียแล้วค่ะ”
“ห๊ะ! ก้องเสียแล้ว”
เสียงปลายสายก็ตกใจไม่น้อยที่เพิ่งรู้ข่าว สีหน้าของป้าน้อมก็ตกใจ
“มือถือคุณก้อง...นี่มันมือถือคุณก้องนี่...”
เพชรวิ่งหนีลูกน้องของนักปราชญ์ผ่านหน้าป้าน้อม ป้าน้อมร้องเรียก จำเพชรได้
“คุณเพชร”
เห็นลูกน้องของนักปราชญ์วิ่งไล่ล่าเพชร ป้าน้อมยิ่งตกใจ
“โอ๊ย...มีเรื่องอะไรกันอีก”
ป้าน้อมยืนถือมือถือ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ

เพชรวิ่งลัดเลาะหนีไปมาตามทาง ขณะที่ลูกของนักปราชญ์วิ่งตามมา แต่ตามไม่ทัน สมุนคนหนึ่งบ่นอุบ
“มันหายไปได้ยังไง”
สมุนอีกคนตบหัวเพื่อน “มันก็เร็วกว่าเอ็งสิวะ กลับไปนายด่าแน่ๆ”
สองคนหน้าเจื่อนก่อนเดินกลับไปอย่างหัวเสีย โดยไม่รู้ว่าที่ซอกตรงด้านหลัง เพชรหลบมุมอยู่ พอลูกน้องของนักปราชญ์เดินจากไป เพชรก็ออกมา เหลียวมองตาม ดวงตาวาวโรจน์ เพชรแค้นและหมายมั่นจะเอาคืนนักปราชญ์

เวลาเดียวกัน รถของอารีย์ เมียของสมบัติ แม่ของนักปราชญ์ ที่เป็นรถหรูจอดอยู่ข้างทาง คนร้ายขี้ยา
ท่าทางเป็นโจรกระจอก สองคน เมียงๆ มองๆ ขณะผ่านมา
“ไม่มีคนอยู่ว่ะ จัดการเลย”
คนร้าย จะยกค้อนขึ้นทุบรถ อารีย์มาเห็นพอดีร้องลั่น
“อย่านะ”
คนร้ายสะดุ้ง หันมามอง เห็นอารีย์แต่งตัวหรูหรา เครื่องเพชรเต็มตัว คนร้ายบอกกัน
“จัดการเลย”
หนึ่งในสองของคนร้ายพุ่งมาที่อารีย์ด้วยความรวดเร็ว ตรงเข้ามาจะชิงทรัพย์ กระชากระเป๋า อา
รีย์กำแน่นไม่ปล่อย ถูกตบ อีกคนจะทุบรถ เพชรวิ่งเข้ามาตะโกนลั่น
“หยุด”
คนร้ายหันมา เพชรกระโดดถีบคนร้าย เกิดการต่อสู้กัน คนร้ายหันไปรุมเพชร ควักมีดออกมาจะแทง
แต่ก่อนที่เพชรจะเสียทีอารีย์ควักปืนออกมาจากกระเป๋า ยิงเปรี้ยง
“เฮ้ย”
โจรกระจอกตกใจ ผงะออก อารีย์สั่งเสียงเข้มมาดเจ้าแม่ เมียเจ้าพ่อ
“ไสหัวไป ไม่งั้นแกตาย!”
สองวายร้ายเห็นท่าไม่ดี “เฮ้ย! ไป”
คนร้ายรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว อารีย์หันมาถามเพชรอย่างอาทร ไม่รู้ว่าเป็นศัตรูของลูกชาย
“เจ็บอะไรตรงไหนมั้ย”
“ไม่ครับ...ขอบคุณมากที่ช่วย”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ ไม่งั้น เธอคงไม่เจ็บตัวอย่างนี้”
“ผมไม่เป็นไรครับ นิดเดียว...แต่ถ้าคุณไม่ช่วย...ผมคง...”
อารีย์หัวเราะ “เอาเป็นว่าเราสองคนต่างช่วยเหลือกันและกัน เราสองคนต่างเป็นหนี้ชีวิตกันและกัน
โอเคมั้ย”
เพชรยิ้ม ไม่ตอบ อารีย์ว่าต่อ
“เฮ้อ! ฉันจอกรถซื้อของนิดเดียว ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะเจออะไรแบบนี้ คนสมัยนี้ร้ายจริงๆ”
เพชรคิดถึงเรื่องตัวเองขณะบอกออกไป “ครับ..คนสมัยนี้ร้ายจริงๆ”
“เธอพูดเหมือนเจอเรื่องอะไร”
“เรื่องแย่ๆ แต่ผมคิดว่า อีกไม่นาน มันก็จะออกไปจากชีวิต”
“ฉันเอาใจช่วย...ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก”
“ครับ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก”
“โชคดีจ้ะ”
อารีย์เยื้อนยิ้มอย่างมีเมตตาต่อเพชร ก่อนขับรถออกไป เพชรมองตาม กวาดสายตามองรอบๆ บริเวณอย่างไม่ไว้ใจ

ส่วนนักปราชญ์โมโหมาก ตบหน้าลูกน้องทั้งสองคน
“อะไรวะ แค่นี้ก็ให้มันหนีไปได้”
“มันเร็วจริงๆ ครับนาย”
“พวกแกกระจอกต่างหาก”
นักปราชญ์ใช้หลังมือซัดลูกน้องอีกระบายแค้น ลูกน้องสองคนก้มหน้าจ๋อยสนิท
“ไปให้พ้นหน้าฉัน ไม่งั้น แกจะโดนแทนไอ้เพชร ไป๊”
ลูกน้องรีบหลบไปอย่างรวดเร็ว นักปราชญ์หรี่ตาเจ้าเล่ห์แบบเป็นนัย
“แกบังคับให้ฉันต้องใช้วิธีนี้เอง ไอ้เพชร”

ขณะเดียวกันสมบัตินำเอาข้าวไปให้ทับทิมกิน

“ฉันไม่กิน” ทับทิมเสียงแข็งใส่
สมบัติมองอย่างเป็นห่วง “กินหน่อยน่าทับทิม เดี๋ยวจะไม่สบาย”
“แล้วพี่คิดว่า...การที่ฉันต้องมาอยู่ภายใต้หลังคาบ้านของคนที่มันใส่ร้าย ปรักปรำลูกฉัน มันสบาย
เหรอ”
“พี่จะพูดกับนักปราชญ์ให้”
“พูดอะไร? พูดให้ลูกพี่ยอมรับผิดเองน่ะเหรอ?” พูดแล้วทับทิมก็หัวเราะหยัน “มันคงจะยอมหรอก”
“ทับทิม”
“หรือไม่จริง...พี่ออกไปเลย ฉันไม่อยากเห็นหน้า”
สมบัติยืนมอง ท่าทางรู้สึกผิด ทับทิมตะเพิด
“ออกไป๊”
ไม่ไล่เปล่า ทับทิมคว้าจานข้าวปาใส่หน้าสมบัติ จังหวะนี้ประตูถูกเปิดเข้ามา พร้อมกับร่างของนักปราชญ์
“เฮ้ย!นังนี่...” นักปราชญ์กระโจนพรวดเดียวถึงทับทิมกระชากผมเอาไว้
สมบัติร้องห้ามดังลั่น “อย่า” พร้อมกับกระชากร่างทับทิมออก
“พ่อห้ามผมทำไม พ่อทำยังกับพ่อ...” มองหน้าสมบัติสลับทับทิม
ทับทิมเย้ย “ใช่..สมัยตอนอยู่บ้านนอก พ่อแกเคยรักฉันมาก่อน รักมากซะด้วย”
“ทับทิม” สมบัติโมโห
“อ้อ!รักมาก...รักมากนักใช่มั้ย”
นักปราชญ์บันดาลโทสะ กระชากร่างของทับทิมออกมาอย่างแรง ทับทิมร้องลั่น
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
“อย่านักปราชญ์”
“พ่อหลงผู้หญิงคนนี้มากกว่าลูก...ผมจะบอกแม่”
อารีย์เดินเข้ามาสมทบ “ไม่ต้องบอก แม่เห็นหมดแล้ว”
สมบัติตกใจมาก “อารีย์”
ทับทิมหันมามองอารีย์เขม็ง อารีย์สั่งเหี้ยมมาดเมียเจ้าพ่อ
“ลากมันออกไป”
ลูกน้องก็ตรงเข้ามาลากทับทิม สมบัติทำท่าจะห้าม อารีย์ถามเสียงเข้ม
“อยากมีเรื่องกับฉันใช่มั้ย คุณสมบัติ”

เท่านั้นสมบัติก็นิ่งสนิท ไม่กล้าต่อปากเมียสักแอะ
ลูกน้องของนักปราชญ์ลากทับทิมออกมาจากห้อง ตามด้วย อารีย์ และนักปราชญ์

“ปล่อยฉัน...นี่..มันหมดสมัยหึงหวงกันแล้วนะคุณ”
“ฉันไม่เคยลดตัวลงไปหึงหวงอะไรกับเธอ...แต่ที่ฉันทำทั้งหมดเพราะลูกฉัน”
ทับทิมมองหน้าอารีย์งงๆ อารีย์พูดต่อ
“เธอจะให้ฉันเชื่อเหรอ ถ้าฉันปล่อยตัวเธอ เธอจะไม่เอาเรื่องลูกฉัน”
ทับทิมมอง สายตาเอาเรื่องอยู่ในที อารีย์หัวเราะเหี้ยม
“มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...เพราะฉะนั้น เธอก็ไปอยู่ในที่ของเธอแล้วกันทับทิม” อารีย์สั่งการเสียงเหี้ยม “ลากตัวมันมา”
ทับทิมถูกลากตัวออกไป นักปราชญ์หัวเราะดังก้อง

ไม่นานต่อมาร่างทับทิมถูกผลักเข้าไปในห้องของบ้านร้าง ทับทิมมองหวาดๆ อารีย์บอกเสียงเข้ม
“ไม่ต้องกลัว ยังไงที่นี่ก็มีข้าวมีน้ำให้เธอกิน ไม่อดตายหรอก”
“ฉันไม่เคยกลัวตาย”
“อย่าปากดี ไม่งั้นเธอจะได้ตายสมใจ”
ทับทิมอึ้งมองอารีย์เขม็ง อารีย์บอกต่อ
“เธอน่าจะรู้ว่าฉันเป็นคนพูดจริงทำจริง ไม่งั้น ฉันเป็นเมียเจ้าพ่อไม่ได้หรอก”
“ไม่ต้องห่วง ทันทีที่ไอ้เพชร ถูกจับเข้าคุก แกจะเป็นอิสระ ทับทิม” นักปราชญ์พูดแทรกขึ้น
ทับทิมมองนักปราชญ์สายตาเคียดแค้น ชิงชัง “อย่าทำอะไรลูกฉันนะ”
“ฉันแค่ต้องการให้มันอยู่ในคุก...และฉันก็รู้ ตราบใดที่มันยังติดต่อแกไม่ได้...มันจะต้องกลับไปที่บ้านของน้ำหนึ่งอีก...เพราะฉะนั้น แกไม่ต้องห่วง จุดจบของไอ้เพชร...เหลืออยู่แค่นิดเดียว”
นักปราชญ์เอานิ้วโป้งแตะปลายนิ้วก้อยให้เห็นว่านิดเดียวก่อนหัวเราะร่า ทับทิมหน้าเสีย ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ร้องไห้โฮออกมา ด้วยความเป็นห่วงเพชร

ส่วนเหตุการณ์ที่คฤหาสน์เกรียงศักดิ์ เพชรด้อมๆ มองๆ อยู่ตรงริมรั้วสอดสายตาดูว่าทับทิมอยู่หรือเปล่า สายตา แต่เห็นคฤหาสน์มีแต่ความเงียบ เพชรหาจังหวะจะปีนลอบเข้าไปในบ้าน แต่แล้วร่างของเพชรก็ถูกกระชากลงมาอย่างแรง
“โอ๊ย”
เพชรร้องลั่นพร้อมกับที่ร่างทั้งร่างร่วงลงไปกองกับพื้น เพชรมองก็เห็นลูกน้องของเกรียงศักดิ์อยู่รอบตัว
ก่อนที่นักปราชญ์จะเดินเข้ามาหัวเราะเยาะ
“กระจอกจริงๆ แกไอ้เพชร”
เพชรมองนักปราชญ์โกรธจัด ถลันเข้าไปจะชก แต่ลูกน้องของนักปราชญ์กระชากร่างเพชรไว้อย่างแรง เป็นจังหวะเดียวกับที่นักปราชญ์ปล่อยหมัดชกหน้าเพชรเต็มแรง
“แกจะสู้ฉันเหรอ? คิดเหรอว่าคนกระจอกอย่างแกจะสู้ฉันได้เหรอ”
“ไอ้...”
เพชรด่าแค่นั้นก็ถูกนักปราชญ์ต่อยร่วงลงไปอีก จากนั้นร่างของเพชรก็ถูกรุมยำบาทา ทั้งเตะ ต่อย กระทืบ จนหมดแรงไม่มีทางสู้ นักปราชญ์เดินเข้ามากระชากผมเพชรเย้ย
“ตอนแรก ฉันแค่อยากจะรู้ แกพาน้ำหนึ่งไปอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้..เรื่องมันเดินมาไกล เกินกว่าจะย้อนกลับ คุกคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับคนอย่างแก” นักปราชญ์บอกลูกน้อง “ลากคอมันไป”
สิ้นคำสั่ง ลูกน้องของนักปราชญ์ก็เดินมาลากคอเพชร ไปขึ้นรถ รปภ.ของเกรียงศักดิ์ยืนมอง
“แกรู้ใช่มั้ย ว่าต้องบอกท่านยังไง”
รปภ.รับคำแข็งขันมาก “ครับผม”
นักปราชญ์พาเพชรไป เกรียงศักดิ์ ดาราณี และนวลเดินออกมาจากบ้านมาดูถามแบบไม่รู้
“มีเรื่องไรกัน”
“อ๋อ...โจรวิ่งราวนิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ถูกตำรวจจับไปแล้ว”
ทุกคนมองหน้ากัน ท่าทางแต่ละคน เหมือนไม่เชื่อ แต่ไม่พูด

จู่ๆ สายฝนก็เทกระหน่ำลงมาไม่ลืมหูลืมตา ท่ามกลางฝนตกหนัก รถของนักปราชญ์วิ่งมาจอดข้างทางเปลี่ยว นักปราชญ์กับลูกน้องลากตัวเพชรลงมา
“โชคดีจริงๆ ที่ฝนตก ไม่งั้น แกได้นั่งยางเผาแน่ๆ ไอ้เพชร”
“แล้วจะทำยังไงกับมันดีครับนาย” ลูกน้องคนหนึ่งถาม
นักปราชญ์แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่ฝนตกกระหน่ำ
“ฝนตกหนัก...ยิ่งหนักเท่าไหร่ ดินก็ยิ่งแน่น...ขุดหลุมฝังแล้วกัน ดินมันแน่นดี”
“นาย” ลูกน้องตะลึง
“ทำไม? หรือจะให้ฉันขุดหลุมฝังแกแทน”

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 9/5 วันที่ 30 เม.ย. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage