อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 9/3 วันที่ 28 เม.ย. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 9/3 วันที่ 28 เม.ย. 56

เพชรมองน้ำหนึ่ง ยิ่งน้ำหนึ่งดีมากเท่าไหร่ เพชรก็ยิ่งรู้สึกห่วง น้ำหนึ่งย้ำอีก เป็นห่วงเพชรมาก
“นะคะไปตามคุณน้า”
เพชรไม่ทันตอบอะไร เห็นหมอณัฐก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องพลอย เพชรหันไปถาม
“พี่พลอยเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ”
“คุณพลอยมีอาการเครียดมาก แต่ตอนนี้...หมอให้ยา คุณพลอยหลับไปแล้ว”
“พี่พลอยเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ” น้ำหนึ่งถาม

หมอณัฐมองน้ำหนึ่งท่าทีฉงน เพราะเพิ่งเคยเห็นหน้า แต่ได้ยินชื่อมาก่อน และมองเพชรเป็นเชิงบอกว่าน่าจะรู้ว่าอาการพลอยเป็นยังไง
“เหมือนเดิม...แต่ตอนนี้ดูจิตใจคุณพลอยจะแย่ขึ้น หมออยากให้คุณเพชร ดูแลคุณพลอยให้มากกว่าเดิม” เพชรหน้าเครียดขึ้นมาอีก รู้สึกเหมือนถูกกดดันมากขึ้นทุกที หมอณัฐเห็นสีหน้าเพชรก็เข้าใจ เลยบอก


“คุณคงมีธุระ นี่ถ้าไม่ติดว่าน้องสาวของหมออยู่โรงพยาบาล หมอจะอยู่ดูแลคุณพลอยเอง”
เพชรฉุนมองหมอณัฐอย่างไม่พอใจนัก “พี่พลอยเป็นพี่สาวของผม ผมดูแลได้”
“ขอให้เป็นอย่างนั้น เพราะคุณพลอย เธอแย่แล้วจริงๆ”
หมอณัฐเดินออกไป ท่าทางของเพชรหงุดหงิด เหมือนถูกตำหนิ น้ำหนึ่งมองเพชรอย่างเห็นใจ
“ไม่ต้องห่วงนะคะพี่เพชร...เราจะช่วยกันดูแลพี่พลอย”
“ขอบใจมากน้ำหนึ่ง แต่บางที พี่ก็รู้สึก...พี่รับมือกับอะไรที่มันประเดประดังเข้ามาไม่ไหวแล้ว”
เพชรกลุ้มมาก เดินออกไปหน้าเครียด น้ำหนึ่งเดินตาม

ขณะเดียวกันภายในห้อง พลอยนอนอยู่บนเตียงแต่ลืมตาโพลงขึ้นมา อาการเหมือนคนดื้อยา ฤทธิ์ยาทำอะไรพลอยไม่ได้ เสียงของเพชรดังเมื่อครู่ก้องในหู
“บางที พี่ก็รู้สึก...พี่รับมือกับอะไรที่มันประเดประดังเข้ามาไม่ไหวแล้ว”
พลอยน้ำตาไหลย้อยออกมาจากดวงตา ทั้งน้อยใจ เสียใจ เจ็บปวด คิดถึงวันที่ตัวเองบาดเจ็บ ตอนที่พลั้งแทงขาตัวเอง

เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนกลางคืนที่บ้านเชิงเขาแห่งนี้ ในขณะที่พลอยซึ่งเท้าเปื้อนเลือด เลื่อนรถเข็นเข้ามาในบ้าน ท่าทางของพลอยเจ็บปวดเหลือแสน หน้าซีด แววตาอ่อนล้า
“ชะ...ช่วยด้วย”
รอบกายเงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบจากใคร พลอยตะโกนเรียกอย่างขัดใจ โกรธ ที่ไม่มีใครมาช่วยสักคน
“แม่...ช่วยพลอยด้วย เพชร...ช่วยพี่ด้วย”
พลอยกวาดตามอง รอบกายไม่มีใคร ตอนนั้นเพชรกับน้ำหนึ่งไปอยู่บ้านตากลั่นแล้ว ทับทิมออกไปจากบ้าน โดยที่พลอยไม่รู้ พลอยลุกขึ้นเดินออกจากรถเข็น ค่อยๆ เดินไปรอบๆ บ้านตะโกนเรียก
“แม่...เพชร”
ทว่าทุกอย่างยังเงียบเหมือนเดิม ไม่มีเสียงตอบจากใคร พลอยรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวเดียวดายเหลือแสน
“ไม่มีใครอยู่กับพลอยเลย”
พลอยกวาดสายตามอง เห็นรูปเพชรที่วางตั้งอยู่ พลอยมองด้วยความน้อยใจ
“พี่ทำเพื่อเพชร แต่เพชรกลับเป็นห่วงแต่นังเด็กนั่น” พลอยน้ำตาไหล ทั้งน้อยใจ และเสียใจ

นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ดวงตาของพลอยหม่นเศร้า น้อยใจ เสียใจอยู่อย่างนั้น น้ำตาไหลเป็นทาง
“ถ้าฉันจะต้องไม่เหลือใคร ถ้าฉันจะต้องอยู่คนเดียว ได้! ฉันจะอยู่คนเดียว”

พลอยบอกตัวเองเสียงเข้ม โกรธมากขึ้น ขณะเหวี่ยงเท้าที่มีผ้าพันแผลขยับตัวลงมาจากเตียง
ส่วนที่หน้าบ้าน เพชรเดินมาที่รถ แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นหมอณัฐยืนรออยู่ หมอณัฐบอกด้วยท่าทีจริงจังมาก

“ผมรู้ว่าคุณเครียด แต่คนที่อยู่ในภาวะอย่างคุณพลอย ไม่มีใครมีความสุขหรอก คุณพลอย เครียด และ ทุกข์ กว่าคุณแน่นอน” หมอณัฐเดินจากไปที่รถตัวเอง
เพชรได้สติ ความห่วงใยในตัวพลอยปะทะขึ้นมาอีก น้ำหนึ่งบอกเพชรเสียงอ่อนหวาน
“พี่พลอยน่าสงสารออกนะคะพี่เพชร”
เพชรได้สติ พูดเสียงอ่อนลง “ใช่..พี่พลอยน่าสงสาร”
น้ำหนึ่งยิ้มอ่อนโยน ที่เห็นเพชรเย็นลง “เพราะฉะนั้นเราสองคนต้องช่วยกันดูแลพี่พลอย...พี่พลอยจะต้องมี
ความสุข พี่เพชรไปตามคุณน้านะคะ น้ำหนึ่งจะอยู่ดูแลพี่พลอยเอง”
“ฝากพี่พลอยด้วยนะน้ำหนึ่ง”
“ค่ะ”
เพชรขับรถออกไป น้ำหนึ่งมองตาม รอยยิ้มเมื่อครู่ จางหายไป ทั้งรักทั้งห่วง และเข้าใจในตัวเพชรมากขึ้นอีก
ด้านหลังน้ำหนึ่ง พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซักพักทั่วทั้งบริเวณก็มืดสนิท

ตกกลางคืน ที่น้ำหนึ่งยกสำรับอาหารเข้ามาด้านในบ้าน หยุดยืนที่หน้าห้องพลอย เรียกนอบน้อม
“พี่พลอยคะ พี่พลอย...น้ำหนึ่งทำข้าวต้มมาให้ ทานข้าวนะคะ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ น้ำหนึ่งเรียกอีก
“พี่พลอยคะ..พี่พลอย” น้ำหนึ่งเคาะประตูเบาๆ “พี่พลอย”
น้ำหนึ่งนิ่วหน้า นึกเป็นห่วง ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป เห็นห้องทั้งห้องมืดทิด น้ำหนึ่งเปิดสวิชท์ไฟ ภายในห้องไม่มีพลอยอยู่ น้ำหนึ่งเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
“พี่พลอยคะ”
เงียบไม่มีเสียงตอบอีก น้ำหนึ่งเป็นห่วงพลอยมาก ตัดสินใจเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป แต่ไม่เห็นพลอยอยู่ในนั้น น้ำหนึ่งแปลกใจจะออกไปตามข้างนอก แต่พอหันกลับมาก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นรถเข็นตั้งอยู่
“รถเข็นอยู่ที่นี่! แล้วพี่พลอย” สีหน้าน้ำหนึ่งแสดงความประหลาดใจสุดขีด
ไว้เท่าความคิดน้ำหนึ่ง วางสำรับอาหารไว้บนโต๊ะในห้อง รีบสาวเท้าเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณนอกบ้าน น้ำหนึ่งวิ่งออกมาร้องเรียกพลอยด้วยความเป็นห่วง
“พี่พลอย! ๆๆ”
น้ำหนึ่งกวาดสายตามอง วิ่งตรงไปยังที่ที่พลอยเคยทำกายภาพบำบัด แต่ไม่เห็น
“พี่เพชร” น้ำหนึ่งรีบควักมือถือออกมาทำท่าจะกดแต่เปลี่ยนใจ “อย่าเลย..เดี๋ยวพี่เพชรจะยิ่งเป็นห่วง” น้ำหนึ่งคิดไปคิดมา
“รถเข็นก็อยู่นี่...แล้วพี่พลอย..ไปไหน”
ดวงตาน้ำหนึ่งเต็มไปด้วยคำถาม พลอยไปไหน? พลอยไปได้ยังไง?

ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาล บรรยากาศตอนกลางคืนเงียบสงัด ดูวังเวงและน่ากลัว เห็นเงาร่างของพลอยเคลื่อนตัวเข้ามาตามทางเดิน เงานั้นเดินไม่ค่อยปกตินัก แต่แปลกที่กลับเดินอย่างมั่นคง และเงานั้นมีผ้าพันแผล ราวกับมีจุดมุ่งหมายอยู่เบื้องหน้า เงาของพลอยเคลื่อนตัวไป เป้าหมายคือห้องพักฟื้นของอลิส

ส่วนอลิสหน้าหงิกหน้างอนอนอยู่บนเตียงในห้องพักฟื้น ถามหมอณัฐตาขวาง
“ที่ทิ้งน้องไปครึ่งค่อนวัน เพราะพี่หมอไปเฝ้ายัยพลอยบ้าใช่มั้ยคะ”
“ทำไมพูดจาไม่เพราะเลยอลิส”
อลิสตาโต “ตรรกะพี่หมอแปลกๆ นะคะ..จะให้อลิสพูดดีกับคนที่จะฆ่าอลิส”
หมอณัฐทำท่าแปลกใจ อลิสค้อนขวับหน้างอตาคว่ำ
“นี่พี่หมอยังไม่เชื่ออลิสอีกใช่มั้ยคะ ยัยพลอยบ้านั้น ไม่ได้พิการ หล่อนแกล้งพิการ”
ขณะนั้นพลอยยืนหลบมุมอยู่หน้าประตู ได้ยินทุกคำ สีหน้าของพลอยเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“โอ๊ย..อลิสยังหลอนไม่หาย หล่อนจับคางอลิสอย่างนี้นะคะ” อลิสทำท่าไปด้วย “แล้วบอก..รักกันๆ แต่มือจะบีบคออลิสตาย โธ่! ใครจะไปรักกับคนบ้า โรคจิต”
“พี่ว่าคนที่เป็นโรคจิตคืออลิสแล้วนะไม่ใช่คุณพลอย”
อลิสขัดใจมาก “พี่หมอ!”
“เลิกพูดได้แล้ว...ถ้าจะให้พี่บอก พี่ก็จะพูดว่า คุณพลอยน่าสงสาร และตรรกะของอลิสก็เป็นตรรกะที่เชื่อไม่ได้ เพราะมันเป็นตรรกะของคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด”
จังหวะนี้ตรงหน้าห้องพยาบาลเดินมา พลอยรีบฉากหลบตรงมุม ผินหน้าหนีไปทางอื่น พยาบาลเดินเข้าไปในห้องอลิส
“พยาบาลมาพอดี ฉีดยาก่อน จะได้นอนพักผ่อน”
อลิสโวยวาย “อลิสไม่ฉีด อลิสไม่ง่วง อลิสไม่ได้อยากนอน” พร้อมกันนี้อลิสยังทำท่าจะลุก
หมอณัฐ เอามือข่มตัวอลิสให้นอนลง “อยู่เฉยๆ” แล้วพูดขู่ “ไม่งั้น พี่จะพาอลิสไปอยู่โรงพยาบาลโรคจิตแทนคุณพลอย”
อลิสมองจ้องหน้าหมอณัฐ ขณะที่พยาบาลฉีดยาให้ ก่อนจะเดินออกไป อลิสค้อนหมอณัฐ มองอย่างผิดหวังขณะบอก
“พี่หมอหลงยัยพลอยบ้าจริงๆ ด้วย ทั้งๆ ที่ยัยนั่นแกล้งพิการ เป็นบ้าโรคจิต”
พลอยที่อยู่ด้านนอกตาวาววับ ยิ่งโกรธอลิสมากขึ้น หมอณัฐบอกอลิสอย่างใจเย็น
“ไว้อลิสหายดีแล้ว เราไปหาคุณพลอยกัน ตอนนี้พักผ่อนก่อน”
“พี่หมอ” อลิสงอแง
หมอณัฐเสียงแข็ง “นอน”
อลิสค้อนหมอณัฐ สะบัดหน้าหันไปทางอื่นหลับตาลง

หมอณัฐมองอลิสอย่างอ่อนใจ ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเธอถูกว่าพลอยทำร้าย
หมอณัฐเปิดประตูแล้วเดินออกไป หมอณัฐเดินผ่านตรงจุดที่พลอยยืนหลบมุมอยู่ คล้อยหลังหมอณัฐ ที่ลับตาไป พลอยที่สวมถุงมือก็เปิดประตูห้องของอลิส เดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบกริบ ไฟดับพรึ่บ ก่อนที่ประตูจะปิดลงเบาๆ

อลิสนอนอยู่ในความมืด แต่จากสัญชาตญาณ อลิสรู้สึกเหมือนคนมองจ้องตน อลิสค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา
มองแล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นหน้าพลอยอยู่ระยะประชิดแทบจะติดหน้า พลอยยื่นหน้ามามอง
“แอร๊...”
อลิสทำท่าจะร้อง แต่พลอยเอามือตะปบปากอลิส หัวเราะเบาๆ
“ว่าฉันเป็นบ้า เธอต่างหากที่จะต้องถูกหาว่าเป็นบ้า นังอลิส”
อลิสตั้งสติได้จะปัดมือของพลอยออก แต่พลอยกลับกระชากหมอนของอลิสออกอย่างแรงแล้วออกแรงกด
ปิดปากอลิสลงไปอย่างหนักหน่วง
“ไม่ต้องดิ้น เก็บแรงไว้แก้ตัวดีกว่า...”
อลิสไม่ยอมง่ายๆ จ้องหน้าพลอยเขม็ง เอามืองัดมือพลอยออก พลอยออกแรงโถมใส่อลิสทั้งตัว ปากบอก
“บอกทุกคนเลยนะ ว่าฉันมาที่นี่ มาทำร้ายเธอ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครจะเชื่อเธอ”
อลิสรวบรวมกำลังผลักร่างของพลอยเต็มแรง จนพลอยผงะออก อลิสตะโกนลั่น
“ช่วยด้วยๆๆๆ”
พยาบาลที่อยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงอลิส
“คุณอลิส”
พยาบาลรีบวิ่งมา พลอยยิ้มเยาะ
“มันเป็นแค่ฝันร้ายนะคะ คุณอลิส”
พลอยหลบออกไปจากห้อง เปิดประตูแล้วรีบออกไป
ตรงโถงด้านหน้าพยาบาลกำลังวิ่งตรงมา พลอยหน้าตาตื่นตกใจ แต่โชคช่วยที่หมอณัฐเดินมาอีกทาง หมอณัฐถามพยาบาล
“มีอะไรเหรอครับ”
“คุณอลิสร้องค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรค่ะ”
หมอณัฐหน้าซีดตกใจ รีบเดินกึ่งวิ่งตรงไปที่ห้องของอลิสพร้อมกับพยาบาล พลอยหายจากตรงนั้นไปแล้ว หมอณัฐกับพยาบาลเดินเข้าไปในห้อง ส่วนพลอยมองมาแล้วยิ้มเยาะ
“แล้วเธอจะได้รู้...ใครเป็นบ้ากันแน่ อลิส!”

อลิสร้องโวยวายทันทีที่เห็นหน้าหมอณัฐและพยาบาล มือของอลิสปัดหมอน ตกใต้เตียงแบบไม่รู้ตัว
“พี่หมอ ช่วยอลิสด้วย...ยัยพลอยบ้ามาที่นี่”
“ว่าไงนะอลิส” หมอณัฐตกใจ
“ช่วยพลอยด้วย...ยัยพลอยบ้ามาที่นี่”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง”
อลิสขัดใจมาก “ก็มันเป็นไปแล้ว หล่อนมา” อลิสละล่ำละลักบอก “มาเอาหมอนปิดปากอลิสด้วย หล่อนจะฆ่าอลิส”
หมอณัฐบอกพยาบาลเบาๆ “ขอยากล่อมประสาทให้ผมด้วย”
“ค่ะคุณหมอ” พยาบาลเดินออกไป
อลิสได้ยินร้องกรี๊ด “พี่หมอ อลิสไม่ได้บ้านะคะ ยัยพลอยบ้ามาที่นี่”
“พี่บอกแล้วไง ทันทีที่อลิสหายดีเราจะไปหาคุณพลอยด้วยกัน...”
อลิสมองด้วยแววตาตัดพ้อ สุดแสนจะอ่อนใจ และเสียใจมาก “พี่หมอไม่เชื่ออลิสจริงๆ ด้วย”
“ก็มันจะเป็นไปได้ยังไงอลิส”
สองคนมองหน้ากัน อลิสมองอย่างตัดพ้อ ขณะที่หมอณัฐก็ลำบากใจ ไม่เชื่ออลิสเลย

เวลาเดียวกันรจนายืนครุ่นคิด สงสัยที่ทับทิมกับพลอย ช่วยกันบอกว่า ตนเป็นคนทำร้ายอลิส ดวงตาของรจนาวาววับ คาใจมากๆ จังหวะนี้พจนีย์เดินพรวดออกมาจากห้อง จะออกไปข้างนอก รจนาถาม
“พี่พจน์จะไปไหน”
“ไปแสดงสิทธิ์เมียหลวง คอยดูนะ...ถ้าฉันเจอยัยน้ำหนึ่งมันอี๋อ๋อออเซาะพี่เพชรอีก ฉันจะจับมันตบๆๆๆ เอาหัวมันจุ่มลงไปในชักโครก แล้วก็ถ่ายคลิปเอาไว้”
พูดจบพจนีย์ก็ก้าวฉับๆออกไป รจนาร้องเรียกเตือนสติ
“ภูมิใจมากเหรอที่ได้ทำตัวเป็นสก๊อย ไปทั้งๆ ที่พี่พจน์เป็นแค่เมียพี่เพชรในนามแค่นั้น”
“สะกดจิตตัวเองไว้รึไง ถึงพูดแต่ประโยคนี้” พจนีย์ย้อน
“ที่รจพูดเพราะห่วงพี่พจน์”
พจนีย์มองรจนาอย่างฉงน “ห่วงฉัน”
รจนาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ใช่! รจว่ามันแปลกๆ ตั้งแต่พี่พลอยจ้างพี่พจน์แต่งงานกับพี่เพชรแล้วล่ะ”
“ก็เพราะสาเหตุนี้ด้วยไง...ที่ทำให้ฉันต้องไปที่บ้านเชิงเขา”
“รจขอให้เป็นอย่างนั้น...เพราะถ้าพี่พจน์ไปเพื่อแสดงตัวว่าเป็นเมียพี่เพชรจริงๆ รจว่า...พี่พจน์กำลังเดินเข้าไปหาอันตราย”
พจนีย์มองรจนาด้วยสายตาไม่ได้เชื่อรจนาเอาเลย ก่อนที่จะสะบัดหน้าพรืดเดินออกไป รจนามองตามทั้งฉุนปนห่วงในความถือดี

ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้พี่สาวที่ดูเหมือนเก่งกว่า มั่นใจกว่า จนไม่เคยฟังตัวเองเลย
ขณะเดียวกันที่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งยืนมองรถเข็นที่ปราศจากร่างของพลอยด้วยท่าทางครุ่นคิด ดวงตามีแววสงสัยและคาใจ ขณะเดินออกมายังนอกบ้าน น้ำหนึ่งกวาดตามองไปรอบๆ แต่ไม่ปรากฏร่างของพลอยเลยสักที่

“พี่พลอยไม่อยู่จริงๆ ด้วย”
จังหวะนี้ ท่ามกลางความมืด ที่ด้านหลังน้ำหนึ่ง แลเห็นพลอยค่อยๆ เดินเข้ามา สายตาพลอยที่มองดูน้ำหนึ่งวาววับ มีแต่ความโกรธเกลียด
“พี่พลอยจะเดินไปได้ยังไง นอกจาก...”
น้ำหนึ่งพูดได้แค่นั้น ท่อนไม้ในมือของพลอยก็หวดเข้าที่ต้นคอด้านหลังของน้ำหนึ่งอย่างจัง น้ำหนึ่งร้องสุดเสียง
“โอ๊ย!”
แล้วร่างของน้ำหนึ่งก็ทรุดฮวบลงกองกับพื้นตรงนั้น พลอยมองน้ำหนึ่งอย่างเกลียดชัง
“ฉันไม่ให้แกตายง่ายๆ หรอกนังน้ำหนึ่ง ฉันทรมานแค่ไหน แกกับพ่อแม่แก ต้องทรมานมากกว่าฉัน
เป็นร้อยเป็นพันเท่า”
พลอยกระชากร่างของน้ำหนึ่งขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมีเสียงของพจนีย์ร้องดังขึ้นเหมือนเจ็บปวดเต็มประดา
“โอ๊ย”
พลอยเหลียวขวับไปมอง เห็นพจนีย์ร้องโอดโอย ก้มลงไปมองเท้าตัวเอง
“ดีนะที่เป็นแค่หนาม ถ้าเป็นตะปู เท้าทะลุไปแล้วพจนีย์”
พจนีย์บ่น ใช้เล็บหยิบหนามออกจากเท้า พลอยฉวยโอกาสนั้นผละไปด้านในอย่างรวดเร็ว พจนีย์หยิบหนามออกจากเท้าก็เดินตรงมายังตัวบ้าน แต่แล้วพจนีย์ก็ต้องหยุดกึก เมื่อเห็นร่างของใครคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ พจนีย์เดินมามองอย่างตกใจ ก่อนยื่นมือไปพลิกร่างนั้นขึ้นมา และเห็นเป็นน้ำหนึ่ง พจนีย์ตกใจ
“นังน้ำหนึ่ง แล้วเป็นอะไร ถึงได้มานอนอยู่ที่นี่” พจนีย์เอามือเขย่าเรียก “น้ำหนึ่งๆๆ”
ทว่าร่างของน้ำหนึ่งนิ่งไม่ไหวติง พจนีย์หน้าเสีย
“อย่าบอกนะว่า ยัยน้ำหนึ่ง ตายแล้ว!”
ไวเท่าความคิด พจนีย์เอามืออังที่จมูกของน้ำหนึ่ง ไม่ทันจะรู้อะไรก็ต้องสะดุ้งโหยงอีก เมื่อรจนาถามขึ้นจากด้านหลัง
“พี่พจน์ทำอะไรเค้าน่ะ?”
พจนีย์หันไปมองก็เห็นรจนามองอยู่ สายตารจนาตื่นตระหนก เต็มไปด้วยความกังขา และสงสัย พลอยแอบ
มองอยู่ด้านใน ยิ้มสาสมใจ ขณะที่พจนีย์ปฏิเสธลั่น
“พี่เปล่านะ..พอพี่มาถึง ยัยนี่ ก็นอนเป็นเขียดตากแห้งไปแล้ว”
“จริงเหรอ”
“ก็จริงสิ” พจนีย์ชักโมโห “นี่เธอไม่เชื่อพี่เหรอ รจนา”
“ก็อยากเชื่ออยู่หรอก ถ้าก่อนมา พี่พจน์จะไม่บอกว่า จะมาดักตบน้ำหนึ่ง แล้วกดหัวเค้าลงไปในชักโครกน่ะ”
พจนีย์หงุดหงิด “นี่แกคิดเหรอว่าฉันจะทำอย่างนั้นจริงๆ น่ะ”
“แรงหึงของผู้หญิง น่ากลัวที่สุด” รจนาสบโอกาสขู่พี่สาว “นี่ถ้าพี่เพชรรู้ ว่าพี่พจน์ทำร้ายน้ำหนึ่ง พี่พจน์แย่แน่ๆ”
พจนีย์ยังไม่ทันพูดอะไรโต้ตอบ พลอยก็เลื่อนรถเข็นออกมาจากประตู มองมาอย่างตื่นตระหนกตกใจ
“เธอสองคนทำอะไรกัน”
พจนีย์กับรจนาผละออกจากกันหันมา พลอยเห็นร่างน้ำหนึ่งนอนแน่นิ่ง ก็แกล้งร้อง ตกใจมาก
“น้ำหนึ่ง!” พลอยมองรจนา และพจนีย์ที่มีสีหน้าตกใจกันทั้งคู่ “เธอ..เธอสองคนทำร้ายน้ำหนึ่ง”
สองพี่น้องร้องเสียงหลงพร้อมกัน “เปล่านะคะพี่พลอย”
พลอยทำท่าปากคอสั่นตกใจ “ฉันไม่เชื่อๆ” มองน้ำหนึ่งด้วยท่าทางเป็นห่วง “น้ำหนึ่ง” พลอยพยายามกระถดตัวลงจากรถเข็น แล้วแกล้งปล่อยตัวไถลลง สำทับด้วยการแสร้งร้อง “โอ๊ย”
ร่างของพลอยหล่นลงจากรถเข็น มือถือของพลอยที่วางอยู่บนตักหล่นลงไปด้วย มือถือนั้นหล่นไปยังเท้าพจนีย์ พลอยไม่สนใจมือถือ คืบคลานร่างที่ทุกคนเข้าใจว่าพิการ เข้าหาน้ำหนึ่ง
“น้ำหนึ่งๆ น้ำหนึ่งอย่าเป็นอะไรนะ” พลอยหันมาตะคอก “นี่พวกเธอสองคน ใจคอจะไม่ช่วยกันเลยรึไง”
พลอยพยายามไปหาน้ำหนึ่ง รจนางกๆ เงิ่นๆ เข้าไปช่วยแต่มองพลอยด้วยท่าทีคลางแคลงใจ พลอยบอกรจนา
“ช่วยน้ำหนึ่งด้วยรจนา”
“ค่ะพี่พลอย” รจนาบอกอย่างประจบพร้อมเข้าไปช่วยทันที

เวลาเดียวกันที่โรงพยาบาล หมอณัฐยืนมองอลิสที่นอนหลับไปแล้ว ครุ่นคิดเรื่องที่อลิสบอกย้ำว่าพลอยมาที่นี่ หมอณัฐครุ่นคิด ตัดสินใจโทร.หาพลอยทันที
จังหวะเดียวกันนี้ พลอยกับรจนา ช่วยประคองน้ำหนึ่ง โดยมีพจนีย์เข้ามาช่วยแบบไม่ค่อยเต็มใจ เสียงมือถือดัง พลอยมอง มือถืออยู่ใกล้พจนีย์ที่สุด พลอยตวาด
“รับสิ..รับสิ”
“ค่ะพี่พลอย ...สวัสดีค่ะ”
หมอณัฐงง ไม่คุ้นเสียง
“คุณพลอยเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ..นี่พจน์..พจนีย์” พจนีย์เหลือบตามองจอมือถือเห็นเบอร์ชื่อหมอณัฐ “คุณหมอมีอะไรเหรอคะ”
“คุณพลอยอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ…”
พลอยหันมาทำท่าไม่พูด ยุ่ง พจนีย์รีบบอกหมอณัฐ
“แต่พี่พลอยกำลังยุ่งอยู่ คุณน้ำหนึ่งไม่ค่อยสบายนิดหน่อย คุณหมอมีอะไรเหรอคะ”
“เปล่าครับ...ไม่มีอะไร..ผมแค่โทร.มาตามปกติ ฝากบอกคุณพลอยอย่าลืมทานยานะครับ”
“ค่ะ” พจนีย์วางสายก่อนกุลีกุจอช่วยพลอยและรจนา
ส่วนหมอณัฐทำท่าหนักใจ
“คุณพลอยอยู่ที่บ้าน...” เอื้อมมือมาลูบหน้าอลิส “อลิส...น้องอย่าเป็นอะไรนะ”
สายตาของหมอณัฐ ห่วงอลิสมาก

ส่วนพจนีย์กับรจนาประคองน้ำหนึ่งขึ้นบนเตียง พลอยแกล้งบ่นพึมพำ ท่าทีเวทนาน้ำหนึ่งมากๆ
“โธ่เอ๊ย น้ำหนึ่ง” พลอยเอามือไปลูบหน้าน้ำหนึ่ง เหมือนเห็นใจ และสงสารมาก “น่าเวทนาจริงๆ”
พจนีย์หันมาจ้องหน้าพลอยงงๆ “พี่พลอยเห็นใจ สงสารน้ำหนึ่งจริงๆเหรอคะ”

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 9/3 วันที่ 28 เม.ย. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage