อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 2/4 วันที่ 9 เม.ย. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 2/4 วันที่ 9 เม.ย. 56

พจนีย์มองน้องแล้วพูดล้อๆ “กลัวเหรอ ดี...งั้นต่อไป” ชูปิ่นโต “พี่จะเอากับข้าวไปให้พี่พลอยเอง แกไม่ต้องไป อยู่บ้านทำหน้าเป็นปลาสำลักน้ำอย่างนี้นี่ล่ะ”
“แต่กับข้าว รจเป็นคนทำนะ” รจนาท้วง
“จะพี่ จะน้องทำก็เหมือนกันล่ะ อีกอย่าง...แกไม่ได้สนใจพี่เพชรอยู่แล้ว จะโชว์ฝีมือทำไม? พี่จะเอาไปเอง ก่อนจะเจอพี่เพชร พี่จะเข้าทางพี่พลอย”
พจนีย์หัวเราะคิกชอบใจ รจนาทำเฉยไม่พูดอะไร

พอพจนีย์ออกจากบ้านไป รจนารีบแอบเดินเข้ามาในห้อง ก่อนกดโทรศัพท์หาใครบางคน พอปลายสายรับ รจนาก็รีบบอกเอาหน้า
“พี่พลอยขา...รจทำกับข้าวอร่อยๆ ไปให้...แต่พี่พจน์จะเป็นคนเอาไปนะคะ”


พลอยบอกห้วนสั้นๆ
“ขอบใจมากจ้ะ” พลอยวางสายอย่างอารมณ์เสีย “ใครเค้าอยากจะกินของของพวกแก”

พลอยเขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนเตียง ยังอารมณ์เสีย สืบเนื่องจากตอนกลางวัน

คืนนั้นทับทิมโทร.มือถือคุยกับเพชรเสียงดุ
“วันหลังไม่ต้องให้ยัยพลอยฟังสามสายแล้วนะ ฟังแล้วก็เป็นบ้า”
เพชรที่อยู่คอนโดถามด้วยความเป็นห่วง
“แล้วตอนนี้พี่พลอยเป็นยังไงบ้างครับ”
ทับทิมเสียงอ่อนลง “แม่ให้กินยานอนหลับ หลับไปแล้ว..แล้วเพชรล่ะได้คุยกับยัยเด็กนั่น
หรือยัง”
“ยังเลยครับ”
ทับทิมพูดน้ำเสียงเยาะหยัน “โทร.ไปหามันหน่อยไป...ถูกพ่อแม่ด่าขนาดนี้...แม่ว่า..คนเดียวที่มันต้องการคือแก” ทับทิมสำทับเสียงเจ้าเล่ห์ “หยอดเข้าหน่อย หว่านเข้าหน่อย...ทีนี้...อยากได้อะไร...มันก็เข้าทางแกหมดแหละเพชรเอ๊ย”
ทับทิมหัวเราะแล้ววางสาย

ส่วนเพชรหน้าเครียดมองมือถือในมือตัวเอง ครุ่นคิดว่าจะทำอะไรต่อ แล้วในที่สุดก็ได้แต่ถอนใจ
น้ำหนึ่งหัวใจสลายร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ หยิบรูปตกพื้นขึ้นมาดู มองโทรศัพท์ ไม่มีสายเรียกเข้าจากเพชร น้ำหนึ่งยิ่งเดียวดายว้าเหว่ใจ ได้แต่ก้มหน้าซบหน้าลงแนบเข่าร้องไห้

แต่แล้วน้ำหนึ่งก็ต้อง สะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงเรียกเข้า รีบคว้าโทรศัพท์มาดู เห็นเป็นเบอร์เพชร น้ำหนึ่งยิ้มดีใจรีบรับ
“พี่เพชร” น้ำหนึ่งถามรัวเร็ว “พี่เพชรได้ยินใช่มั้ยคะ”
เพชรอยู่ที่คอนโดหน้าหมองเศร้าขณะพูดโทรศัพท์ ใจจริงไม่อยากโทร. เพราะสงสารน้ำหนึ่ง แต่ต้องโทร.
เพชรถอนหายใจ “ครับ” ก่อนจะหยอดซึ้งๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แต่น้ำหนึ่งไม่ต้องกลัวนะครับ ต่อให้โลกจะถล่ม ฟ้าจะทลาย พี่ก็จะไม่ทิ้งน้ำหนึ่งไปไหน พี่จะอยู่เคียงข้างน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮด้วยความดีใจ
ขณะเดียวกันที่ด้านหน้าห้อง เห็นเพียงเงาของใครคนหนึ่งมาหยุดยืนที่หน้าประตู ที่แท้เป็นเกรียงศักดิ์ ที่ยืนหน้าเครียดปนเศร้า กำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง อย่างเป็นห่วง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงน้ำหนึ่งลอดออกมาว่า
“น้ำหนึ่งใจดีใจที่สุดเลยค่ะ ที่ได้ยินพี่เพชรพูดอย่างนี้...คุณพ่อคุณแม่โกรธน้ำหนึ่งแล้ว...พี่เพชรอย่าทิ้งน้ำหนึ่งอีกนะคะ”
สีหน้าแววตาของเกรียงศักดิ์ในดวงหน้าที่ฉายความอ่อนโยนเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ขบกรามแน่นด้วยความโกรธ
ขณะที่เพชรบอกน้ำหนึ่งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแฝงไปด้วยความเห็นใจต่อ
“จ้ะ...พี่จะไม่ทิ้งน้ำหนึ่งไปไหน...เราจะร่วมกันฟันฝ่าจนกว่าพ่อแม่น้ำหนึ่งจะเห็นใจดึกมากแล้ว..น้ำหนึ่งนอนซะนะ พรุ่งนี้เราจะตื่น มาพบกันใหม่ หลับฝันดีจ้ะ”
“ค่ะพี่เพชร..หลับฝันดีค่ะ”
น้ำหนึ่งวางสาย ความเศร้าใจไม่เหลือแล้ว มีแต่อารมณ์รักละมุนละไมอบอุ่นหัวใจตาม
ประสาเด็กสาวเมื่อพบเจอแรกรัก
ส่วนเพชรทันทีที่วางสาย ก็เหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียง สีหน้ามีแต่ความเสียใจ เศร้าใจ สับสนปนเปไปหมด

ฟากเกรียงศักดิ์ ยกมือทำท่าจะทุบประตูแต่แล้วกลับเปลี่ยนใจ มือของเกรียงศักดิ์ค้างอยู่อย่างนั้น และกำมือแน่นสั่นระริก ด้วยความโกรธแค้นอย่างรุนแรง

เกรียงศักดิ์กลับเข้ามาในห้องนอนตะเบ็งเสียงใส่ดาราณีด้วยความโกรธลูกสาวที่ขัดคำสั่ง
“น้ำหนึ่งทำกับเราขนาดนี้ ลูกกำลังลองดี” เกรียงศักดิ์พูดเสียงเข้มขึ้น “ลูกกำลังลองดีกับผม”
“ลูกยังเด็ก ให้เวลาลูกหน่อยเถอะค่ะคุณ”
“เด็กเหรอ...รู้จักคบผู้ชาย มีความรัก มันไม่เด็กแล้ว ลูกคงอยากลองดีกับผมจริงๆ”
“ใจเย็นๆ ก่อนค่ะคุณ พรุ่งนี้อะไรๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้”
เกรียงศักดิ์มองมาไม่พอใจ “อะไรๆ ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ คุณยังหวังอย่างนั้นอยู่เหรอ”
“จะเอาอะไรแน่กับใจคนล่ะคะ ลูกก็เหมือนกัน ลูกยังเด็ก ตอนนี้แกอาจจะกำลังสับสน วุ่นวาย พรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมา แกอาจจะคิดได้ก็ได้...คุณก็รู้...ที่ผ่านมาน้ำหนึ่งไม่เคยเป็นเด็กดื้อรั้น”
“คุณเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ เพราะไอ้กุ๊ยเพชรไง ลูกถึงได้กลายเป็นคนดื้อด้าน...ได้...ถ้าอยากจะลองดี ผมก็จะทำให้ดู”
เกรียงศักดิ์พูดด้วยความโกรธลูกสาว เกลียดเพชรเข้าไส้ ดาราณีมีสีหน้าหนักใจ

รุ่งเช้าน้ำหนึ่งแต่งตัวในชุดจะออกไปทำงาน จะออกจากบ้าน วงหน้าของน้ำหนึ่งไม่เศร้าอีกแล้วเพราะได้กำลังใจจากเพชร พอเห็นนวลกับตาหวาน น้ำหนึ่งก็ถาม
“คุณพ่อ คุณแม่ออกไปแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
น้ำหนึ่งจะออกไป นวลเรียก
“คุณน้ำหนึ่งคะ...” น้ำหนึ่งหันมามอง นวลพูดต่อ มีความอาทรอยู่ในน้ำเสียงแววตากังวล “ท่านหวังดี คุณน้ำหนึ่งอย่าดื้อกับท่านเลยนะคะ”
น้ำหนึ่งมองมายิ้มๆ “ค่ะป้านวล...น้ำหนึ่งก็เสียใจเหมือนกัน ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ”
“ว้า” ตาหวานหน้างอเสียใจแบบเด็กๆ หมดลุ้น “อย่างงี้ก็แปลว่า...พี่น้ำหนึ่งจะเลิกคบกับพี่
คนนั้นเหรอคะ? โถ!อุตส่าห์ได้เจอชายในฝัน พี่น้ำหนึ่งไม่น่าตัดสินใจอย่างนี้เลย”
“ก็ใครว่าพี่จะเลิกคบ “พี่คนนั้น” ล่ะจ๊ะตาหวาน”
นวลตาโต “หมายความว่ายังไงคะคุณน้ำหนึ่ง....ก็ไหนว่าคุณน้ำหนึ่งเสียใจ”
น้ำหนึ่งบอกอย่างจริงจัง “น้ำหนึ่งเสียใจจริงๆ ค่ะที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจ....แต่น้ำหนึ่งกับพี่เพชรตกลงกันแล้ว ว่าเราจะพิสูจน์ความรัก ความจริงใจ จนกว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านจะเห็นใจ”
นวลเหวอทันที “คุณน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งยิ้มล้อๆ “น้ำหนึ่งไปทำงานก่อนนะคะป้านวล...ตาหวาน”
น้ำหนึ่งเดินออกไป ตาหวานยกมือทำท่าฮึด
“มันต้องอย่างนี้สิคะพี่น้ำหนึ่ง ฮึ้ย”
ตาหวานยิ้ม ออกอาการลุ้นมาก แต่นวลทำท่าหนักใจ
“โธ่เอ๊ย!คุณน้ำหนึ่ง”

น้ำหนึ่งนั่งอยู่ในรถโดยมีคนขับรถ ขับพาน้ำหนึ่งออกไป

ส่วนด้านหลังเพชรซึ่งจอดรถดักรออยู่ รีบขับรถตามไป โดยไม่ทันสังเกตว่าด้านหลังมีรอมอเตอร์ไซค์อีกคันดักซุ่มรออยู่ และขี่ตามรถเพชรไปเช่นกัน
ขณะที่น้ำหนึ่งนั่งอยู่บนรถที่ขับแล่นมาบนถนนสายหนึ่ง เสียงสัญญาณไลน์ดัง น้ำหนึ่งรีบคว้ามือถือมาเปิดดู เห็นเป็นรูปสติ๊กเกอร์คนทำท่าทักทาย

น้ำหนึ่งส่งสติ๊กเกอร์กลับไป มีเสียงเข้ามาอีก คราวนี้เป็นตัวหนังสือ

น้ำหนึ่งอ่านเบาๆ “น้ำหนึ่งทำงานวันแรก พี่จะไปส่งน้ำหนึ่งนะครับ”
น้ำหนึ่งทำหน้าฉงน ตอบกลับไป
“ได้ยังไงคะ”
เพชรส่งไลน์กลับมาเป็นข้อความ
“น้ำหนึ่งก็...หันมามองข้างหลังสิ”
น้ำหนึ่งหันขวับไปมอง เห็นเพชรขับรถตามหลังอยู่ น้ำหนึ่งมองเพชร ยิ้มอย่างดีใจ เพชรโบกมือทักน้ำหนึ่ง ก่อนทำท่าให้น้ำหนึ่งรีบหันกลับมากลัวคนขับรถเห็น น้ำหนึ่งหันหน้ากลับมาเหมือนเดิม นั่งอมยิ้ม แอบมองเพชรจากกระจกด้านหน้า ทำท่าปกติเพื่อไม่ให้คนขับรถสังเกต แต่นั่งยิ้มและส่งไลน์ตลอดทาง เด็กสาวมีความสุขหวานไหวไปกับความรักมากๆ

ไม่นานต่อมา คนขับรถส่งน้ำหนึ่งที่หน้าบริษัท คนขับบอก
ไตอนเย็นผมมารับนะครับ”
“น้ำหนึ่งมีธุระ เดี๋ยวกลับเอง”
“ไม่ได้ครับ ท่านสั่งให้ผมคอยอำนวยความสะดวกให้คุณน้ำหนึ่งทุกอย่าง”
น้ำหนึ่งพยักหน้าแกนๆ แบบยอมจำนน คนขับรถขับออกไป น้ำหนึ่งหันไปมองเพชรที่จอดรถอยู่ด้านหลัง ยิ้มให้ แต่ไม่กล้าเดินไปหา เพราะรถของที่บ้านยังติดอยู่แถวนั้นอยู่ เพชรโบกมือทำท่าให้น้ำหนึ่งเข้าออฟฟิศ น้ำหนึ่งอิดออด เพชรโทร.มาน้ำหนึ่งรับ
“คะพี่เพชร”
“เข้าไปทำงานได้แล้วจ้ะ”
น้ำหนึ่งอิดออดมองเพชรตาละห้อย “แต่น้ำหนึ่งอยากคุยกับพี่เพชร”
“พี่ต้องไปทำงาน น้ำหนึ่งเองเพิ่งมาทำงานวันแรก ก็ต้องรีบไปทำงานเหมือนกัน ตอนเย็น...เดี๋ยวพี่มารับกลับบ้าน แล้วเจอกันจ้ะ”
น้ำหนึ่งยิ้มหวาน “แล้วเจอกันค่ะพี่เพชร”
เพชรโบกมือให้น้ำหนึ่งอีกที ก่อนรถจะเคลื่อนตัวไป น้ำหนึ่งมองตามรถของเพชรจนเห็นปะปนไปกับรถคันอื่น น้ำหนึ่งถึงเดินเข้าตึก ระหว่างนั้นมอเตอร์ไซค์คันเดิมที่ตามเพชรและน้ำหนึ่งมาตั้งแต่บ้าน หยิบมือถือขึ้นมาคุยกับใครบางคน ขณะขี่รถตามเพชรต่อไป

ฟากนิ้งยังนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนที่นอน ลุกขึ้นมากรี๊ด
“แอร๊ยย..อิน ฟิน จิกหมอน” ไม่พูเปล่าทำท่าทางไปด้วย “ทำไมพี่เพชร โรแมนติกขนาดนี้”
น้ำหนึ่งเดินคุยโทรศัพท์ ขึ้นออฟฟิศพร้อมรอยยิ้ม
“พี่เพชรดีกับเค้ามากจริงๆ เลยนิ้ง”
“อย่างนี้รักตายเลยใช่ป่ะ”
“ใช่..พี่เพชรทำให้เค้ามีกำลังใจขึ้นเยอะเลย”
“งั้นก็...สู้เพื่อรักต่อไปนะน้ำหนึ่ง”
“จ้ะนิ้ง...เค้าจะสู้เพื่อรัก...เพราะเค้ารักพี่เพชร รักจริงๆ”
“เค้าว่าพี่เพชรต้องรักตัวมากกกก...ไม่งั้น..พี่เพชรไม่ทำขนาดนี้หรอก”
น้ำหนึ่งยิ้มเขินอาย ทั้งดีใจ ทั้งปลื้มใจ “พี่เพชรคือ คนในฝัน ของเค้าจริงๆ”
น้ำหนึ่งวางสาย สีหน้าอิ่มเอม มีความหวัง และมีความสุขมาก

ด้านเพชรจอดรถแล้วเดินเข้าไซต์งาน เพื่อนทัก
“วันนี้มาสายจังเพชร”
“เมื่อเช้ามีธุระนิดหน่อย มีอะไรรึเปล่า”
“นายโทร.มาบอก ให้นายไปไซต์งานที่ระยอง” เพื่อนบอก
“โอเค...งั้นถ้าทางนี้มีอะไร นายโทร.บอกแล้วกัน”
“โอเค”
เพชรเดินกลับมาขึ้นรถ แล้วขับออกไป มอเตอร์ไซค์ที่ตามมาตั้งแต่เช้า ขับตามไป

เพชรขับรถมาตามทางมุ่งหน้าไปไซต์งานที่ระยอง พอถึงจังหวะทางเปลี่ยว ไม่ใช่ทาง
หลัก เพชรเห็นรถกระบะตามมาประกบเบียดแซง ไร้เหตุผล
“ขับรถประสาอะไร”
เพชรพยายามขับรถใจเย็น หลีกเลี่ยงการปะทะ แต่แล้วรถกระบะคันนั้นกลับปาดมาขวาง
หน้า แทบชน เพชรเบรกหัวทิ่ม ร้องออกมาด้วยความโมโห
“เฮ้ย!
เพชรก้าวลงมา คนร้ายในรถกระบะก็ลงมา ไม่มีการพูดอะไรทั้งนั้น พอลงมาถึงมันก็กรูกันลงมากระชากร่างเพชรเข้ามาอัด เพชรพยายามสู้ แต่เป็นสามรุมหนึ่ง เพชรสู้ไม่ไหว ร่างร่วงผล็อยลงไปนอนกองกับพื้น หนึ่งในคนร้ายทำท่าจะยกเท้ากระทืบอีก อีกคนที่เป็นหัวโจกร้องห้าม
“พอแล้ว! เดี๋ยวมันตาย”
“แต่” อีกคนทำท่าอยากกระทืบซ้ำ
“ท่านบอก “แค่สั่งสอน” กลับ”
หนึ่งในคนร้ายเตะเพชรอีกโครม ก่อนเดินขึ้นรถขับออกไป เพชรขบกรามแน่นได้ยินเต็มสองหูโกรธจัด
“ท่าน!”

สีหน้าเพชรมีแต่ความคั่งแค้น ปะปนไปด้วยความเจ็บปวด ทั้งกายและใจ
ส่วนเกรียงศักดิ์ และดาราณีเดินเคียงข้างใบหน้ายิ้มแย้ม ออกงานคู่กันตามปกติ วันนี้ออกงานในห้างหรู งานเสร็จสิ้นลง ผู้คนยกมือไหว้ล่ำลา เกรียงศักดิ์ยิ้มละไม ท่าทางอารมณ์ดี

ระหว่างเดินออกมาที่รถ ดาราณีถามพร้อมรอยยิ้ม
“หายโกรธลูกหรือยังคะ”
เกรียงศักดิ์เยื้อนยิ้มอ่อนโยน “ความจริงผมก็ไม่ได้โกรธอะไร แค่เป็นห่วงน้ำหนึ่งมากกว่า คุณก็รู้...”
“รู้สิคะ...ฉันถึงอยากให้คุณใจเย็นๆ...วัยขนาดน้ำหนึ่ง ต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ต้องใช้ไม้อ่อน เพราะถ้าใช้ไม้แข็ง ลูกจะเตลิด”
“ผมจะพยายามใจเย็นให้มากกว่านี้...ขอบคุณมากที่เมื่อคืนให้สติผม ไม่งั้นป่านนี้ไอ้หมอนั่น เละไปแล้ว”
“ฉันรู้ว่าคุณพูดไปเพราะโมโห เอาเข้าจริง...คุณทำร้ายใครไม่ได้หรอกค่ะ งั้นเดี๋ยวเสร็จงานแล้ว พาลูกไปทานข้าวนะคะ”
“เดี๋ยวผมโทร.หาลูกเดี๋ยวนี้เลย”
สองสามีภรรยายิ้มให้กัน ก่อนเดินขึ้นรถ คนขับรถขับรถออกไป ขณะที่เกรียงศักดิ์หยิบ
มือถือขึ้นมา

ขณะที่น้ำหนึ่งทำงานอยู่ เสียงมือถือดัง น้ำหนึ่งรับ
“คะพี่เพชร...” นิ่งฟังแล้วสีหน้าเปลี่ยนเป็นตกใจ “อะไรนะคะ ตอนนี้พี่เพชรอยู่โรงพยาบาล....ถูกรุมทำร้าย น้ำหนึ่งจะรีบไปเดี๋ยวนี้คะ” น้ำหนึ่งหันไปทางเพื่อน “เรามีธุระด่วน กลับก่อนนะ”
น้ำหนึ่งรีบคว้ากระเป๋าเดินตัวปลิวออกไปจากออฟฟิศอย่างร้อนใจ

ฟากเพชรนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล วางมือถือลง เพชรบาดเจ็บมากเอาการ ใบหน้าเขียวช้ำ ปูดบวม ต้องให้น้ำเกลือ ดวงตาของเพชรเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เสียงคนร้ายดังก้องในหัว
“พอแล้ว!เดี๋ยวมันตาย”
“แต่” อีกคนทำท่าอยากกระทืบซ้ำ
“ท่านบอก “แค่สั่งสอน” กลับ”

เพชรมั่นใจว่าเป็นฝีมือเกรียงศักดิ์ โกรธแค้นมากๆ ขบกรามแน่ คำรามออกมา
“ไอ้เกรียงศักดิ์ ไอ้เลว....”
สีหน้าเพชรไม่เหลือเยื่อใยความสงสารให้น้ำหนึ่งอยู่เลย

เกรียงศักดิ์นั่งอยู่บนรถโทรศัพท์หาน้ำหนึ่ง ดาราณีถาม
“ลูกไม่รับสายเหรอคะ”
“สายไม่ว่างเลย...เดี๋ยวผมโทร.ใหม่”
เกรียงศักดิ์กดโทร.ใหม่ น้ำหนึ่งกำลังจะเดินออกนอกออฟฟิศ เสียงมือถือดัง กดรับด้วยสีหน้ากังวล “คะคุณพ่อ”
เกรียงศักดิ์นั่งอยู่บนรถกับดาราณี บอกกับน้ำหนึ่งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“น้ำหนึ่งเย็นนี้เลิกงานแล้ว...เดี๋ยวพ่อกับแม่รับไปทานข้าวนะลูก”
“เอ่อ...น้ำหนึ่งไปไม่ได้ค่ะ...วันนี้เพิ่งทำงานวันแรก...มีงานกองเต็มเลย...ไว้วันหลังนะคะ”
เกรียงศักดิ์หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่งแต่ยังยิ้มได้ “งั้นตั้งใจทำงานนะลูก”
น้ำหนึ่งหน้าจ๋อยเสียใจเหมือนกันที่โกหกแต่ห่วงเพชร “ค่ะ”
เกรียงศักดิ์บอกด้วยเสียงอ่อนโยน “น้ำหนึ่ง..พ่อกับแม่...รักหนูมากนะลูก”
“ค่ะ...คุณพ่อ”
น้ำหนึ่งมีสีหน้าสับสนวุ่นวายใจอย่างที่สุด แต่ตัดสินใจเดินออกไปพร้อมโทรศัพท์
“พี่เพชรรอน้ำหนึ่งเดี๋ยวนะคะ...น้ำหนึ่งจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ขณะเดียวกันที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง อลิสนั่งทานข้าวกับเพื่อนสาวเกย์คนสนิทลูกไล่คนเดิม ท่าทางมีความสุขมากๆ
“สมน้ำหนึ่งยัยน้ำหนึ่ง ป่านนี้วิ่งแจ้นไปเฝ้าไอ้กุ๊ยเพชรที่โรงพยาบาลแล้วล่ะ”
เพื่อนบอกขำๆ “ร้ายว่ะอลิส”
อลิสหัวเราะชอบใจ “ร้ายที่ไหน...ก็แค่ เบา..เบา”
เพื่อนสาวลดเสียงเบาลง “แล้วถ้าเค้ารู้ว่าแกเป็นคนทำล่ะ”
อลิสโวยลั่น “โอ๊ย! จะรู้ได้ยังไง๊ ในเมื่อฉันไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่สำคัญ ฉันย้ำกับคนของฉันแล้วย่ะ ให้กรอกหูให้ไอ้เพชร ว่า ”ท่าน” เป็นคนสั่งให้ทำ”
เพื่อนสาวเอ่ยขึ้น แดกดันตามประสา “ตรรกะอลิสนี่เทพมากเลย ยิงปืนนัดเดียว นกร่วงมาทั้งฝูง”
อลิสหัวเราะชอบใจใหญ่ “ฉันมั่นใจ ไอ้เพชรมันเอาคืนท่านแน่ๆ บอกได้คำเดียว นังน้ำหนึ่ง...เละๆๆ”
อลิสหัวเราะอย่างสะอกสะใจมาก

ด้านน้ำหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้องผู้ป่วย เห็นเพชรนอนเจ็บอยู่บนเตียง น้ำหนึ่งวิ่งถลาเข้ามาหาเพชร เกาะที่ขอบเตียงร้องไห้โฮ

“พี่เพชร”
“น้ำหนึ่ง”
“พี่เพชรเจ็บมากมั้ยคะ”
“เจ็บกายไม่เท่าไหร่...แต่พี่เจ็บที่หัวใจ...ถ้าต่อไป...พี่จะไม่ได้เจอน้ำหนึ่งอีกแล้วจริงๆ” เพชรตัดพ้อ
“ทำไมคะพี่เพชร” น้ำหนึ่งใจคอไม่ดี มองเพชรเขม็ง อยากรู้เรื่องใจเต้นไม่เป็นส่ำ
เพชรแกล้งหันหน้าหนีทำเป็นสะเทือนใจ “ก็...คุณพ่อของน้ำหนึ่ง...คง..คง” เพชรแสร้งทำเป็นพูดอย่างยากเย็น “ไม่พอใจ”

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 2/4 วันที่ 9 เม.ย. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manager