อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 2/2 วันที่ 29 ต.ค. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 2/2 วันที่ 29 ต.ค. 55

“แล้วคุณพ่อคุณ จะยอมรับฉันหรือคะ”
“คุณพ่อต้องเข้าใจในความรักของเรา และผมเชื่อว่าคุณพ่อจะต้องรักคุณ เหมือนกับที่ผมรักคุณ”
ตกกลางคืน ธานินทร์ปิดประตูร้านกำลังพาพรรณีเดินออกมา โดยไม่รู้ว่าพ่อของตนมองทั้งคู่ที่จับมือกัน

วันต่อมา ช่วงตอนกลางวัน ตรงถนนหน้าร้านเย็บผ้า ธานินทร์เดินมาหาพรรณีที่ร้าน หยิบนาฬิกาพกออกมาจากกระเป๋า จูบนาฬิกาพกนั้น
“พรรณี”
ธานินทร์รำพึง ยิ้มอย่างมีความสุข และเดินต่อไป เห็นรถพ่อตัวเองจอดอยู่ จึงรีบวิ่งไปดูที่หน้าร้าน

ธานินทร์วิ่งมาถึงกับตกใจ เมื่อเห็นสภาพร้านเย็บผ้าทั้งรกทั้งเละ
“พรรณี ๆ” มองหาพรรณี)
เห็นอาแปะเดินมา
“อาแปะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย แล้วพรรณีล่ะ พรรณีอยู่ไหน” วิ่งเข้าไปหา
“อีหนีไปแล้ว ลื้อไปเลย ลื้ออย่าอยู่ อั๊วเกลียดลื้อ” อาแปะตะเพิด



ธานินทร์ตื่นตกใจ วิ่งออกมา เจอรถพ่อแล่นเข้ามา ธานินทร์พยายามหยุดรถ
“พ่อ ฟังผมก่อน พ่อ พ่อหยุดก่อน”
ธานินทร์เข้าไปหาพ่อที่รถ ถามทันทีน้ำเสียงขุ่น
“พ่อทำอะไรพวกเขา”
พ่อธานินทร์บอก “ฉันให้โอกาสแกแล้ว แต่แกไม่รับเอง ฉันเลยจำเป็นต้องทำแบบนี้ ส่วนแก สิ่งที่แกต้องทำก็คือลืมนังเด็กเย็บผ้านั่น แล้วก็แต่งงานกับคนที่ฉันเลือกให้”
ธานินทร์เถียง “แต่พ่อทำอย่างงี้ไม่ถูกนะพ่อ”
พ่อธานินทร์สั่งให้คนขับรถออกรถไป
“พ่อ พ่อ ทำอย่างงี้ไม่ถูกนะพ่อ”
รถแล่นจากไปช้า ๆ ธานินทร์พยายามตาม ถุงใส่นาฬิกาพกตกที่พื้น รถเหยียบถุงนาฬิกานั้น
รถแล่นห่างออกไป ธานินทร์ล้มลง และมองตาม เห็นถุงนาฬิกาตกอยู่ที่พื้น
ธานินทร์เปิดถุงดู เห็นนาฬิกาแตก อาแปะเดินออกมาจากร้าน โยนห่อกระดาษใส่ธานินทร์
“อ่ะ อีฝากไว้ให้”
ธานินทร์หันไปมอง และหยิบถุงนั้น เปิดออกหยิบเสื้อออกมา เป็นเสื้อปักรูปดอกกุหลาบและข้อความว่า
'รัก...พรรณี'
ธานินทร์ร้องไห้ น้ำตาหยดใส่เสื้อ

ธานินทร์ดึงตัวเองกลับมา ถอนใจเศร้าๆ เมื่อคิดถึงอดีต
นอกห้องห่างออกไป อังคณายืนมองธานินทร์อยู่ที่มุมหนึ่งในบ้าน ด้วยสีหน้าสงสัย

“นี่มันอะไรกัน”
เช้าวันต่อมา ศักดากับมนตรีคนรถของอังคณา กำลังล้างรถกันอยู่ที่โรงรถ ครู่หนึ่งอังคณา และชนกนันท์เดินเข้ามา อังคณาถามหาธานินทร์

“คุณผู้ชายล่ะ”
“ออกไปแล้วนี่ครับ” ศักดาบอก
อังคณางง “ไปไหน วันนี้นายเธอต้องไปงานกับฉันนี่”
“เออ..เห็นบอกผมว่าให้ไปเจอกันที่งานเลยครับ” ศักดาแก้ตัวแทน
อังคณาฉุน “อะไรกัน จะออกไปก่อนก็ไม่บอก”
ชนกนันท์สงสัย “แล้วทำไมไม่ขับรถให้คุณพ่อล่ะ”
“ท่านขอขับไปเองน่ะครับ” ศักดาบอก
อังคณาสงสัย “วันนี้เป็นอะไร ทำไมต้องขับไปเองด้วย” หันไปสั่งมนตรี “ไปได้แล้ว”
“ครับๆ”
มนตรีเปิดประตูรถด้านหลังให้อังคณา และชนกนันท์ ขึ้นไปนั่ง มนตรีขับรถแล่นออกไป
ศักดายืนมอง และถอนหายใจ

เวลาเดียวกัน มองจากหน้าบ้านพิณทองเข้าไป ผ่านสายตาธานินทร์ เห็นเตาอั้งโล่ไม่ใหญ่นัก บนเตามีตะแกรงวางไว้ และมีไข่จำนวนหนึ่งกำลังปิ้งอยู่ เมื่อภาพกว้างออก จึงเห็นว่าทุกคนออกมาอยู่หน้าบ้านกัน กำลังช่วยกันปิ้งไข่อยู่อย่างรื่นเริงป้าสำอางค์หยิบไข่สุกออกมาจากเตาใบหนึ่ง
สำอางค์ซู้ดปาก ร้อง “โอ้ย ร้อนๆๆ”
ผึ้งแย่งมา “เอามานี่ ป้า”
“เอ๊ย นังผึ้ง เรื่องอะไรต้องมาแย่งไข่ของข้าด้วยนะ” สำอางค์เอ็ด
“ไข่ของป้าที่ไหน ไข่ของชั้นตะหาก ชั้นเอามาให้” ยิ้มหวาน “คนบ้านนี้กิน” เปลี่ยนเป็นเสียงดุ “คนบ้านอื่นรอก่อน”
ผึ้งเอาไข่มานั่งปอกข้างๆ เพชรแท้
“อ้ะ พี่เพชร กินไข่จ้ะ ผึ้งปอกให้”
พรรณีออกมาพร้อมกับถ้วยแจ่ว
“มาแล้ว มาแล้วจ้า”
ทุกคนล้อมกันกินไข่จิ้มแจ่ว มีความสุข
“ทำอะไร” ผึ้งถาม
“แจ่วจิ้มไข่” พรรณีบอก
ทุกคนร้องโอดโอย
“แซบนะลูก” พิณทองว่า
“มื้อนี้กินไข่ปิ้งอย่างเดียวอิ่มเลย”
พรรณียิ้มเยื้อน “อย่าเพิ่งอิ่มนะ เดี๋ยวแม่จะทำไข่หวานให้กินล้างปาก”
“โห แม่ คาวก็ไข่หวานก็ไข่” เพชรแท้จับหน้าพิณทองมองเพ่ง “เห็นไหม พิณมันชักจะหน้ากลมๆ แล้วนะแม่”
“พี่เพชรนะ มาว่าเค้า”
พิณทองตีเพชรแท้ เพชรแท้หลบ ทุกคนหัวเราะ ครอบครัวกินไข่อย่างมีความสุข

ภาพทั้งหมดอยู่ในสายตาของธานินทร์ ซึ่งยืนแอบอยู่ข้างรั้ว ธานินทร์มองดูครอบครัวของพรรณี แล้วรู้สึกมีความสุขไปด้วย

เสียงโทรศัพท์มือถือธานินทร์ เป็นเบอร์อังคณา ธานินทร์รีบปิดโทรศัพท์มือถือกลัวคนในบ้านพรรณีได้ยิน
บ้านญาติของคุณหญิงนาถฤดี เป็นคฤหาสน์ใหญ่โตหรูหราสมฐานะผู้ดีเศรษฐีใหญ่ ส่วนบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน จัดเป็นโต๊ะน้ำชาของว่างเตรียมไว้สำหรับเลี้ยงแขก มีแขกยืนคุยกันอยู่บริเวณนั้นจำนวนหนึ่ง ทั้งหญิงและชายอายุห้าสิบขึ้นไป มากันเป็นคู่ ทุกคนล้วนแต่งตัวดี

โดยเฉพาะบรรดาผู้หญิงนั้น แต่ละคนก็แข่งกันประดับเครื่องเพชรพอสมควร
อังคณายืนอยู่กับชนกนันท์ กำลังกดโทรศัพท์มือถือหาธานินทร์
“ดูพ่อแกสิ” โมโห
“อะไรอีกล่ะคะแม่”
“แม่โทร.ไปหลายครั้งแล้ว ดันปิดมือถือใส่ซะงั้น”
“เดี๋ยวก็คงตามมาค่ะ”
“ให้มันจริงเถอะ ไหนบอกว่าจะมาเจอกันที่งานไง” บ่นอุบ “งานแบบนี้ใครเค้าแยกมากันคนเดียว เค้าต้องมาเป็นคู่ให้คนรู้ว่าผัวเมียรักกันดี มาคนเดียวแล้วคนอื่นเค้าจะพูดกันว่ายังไง พ่อเราน่ะ ชอบทำตัวให้แม่อับอายอยู่เรื่อย”
“โธ่แม่ เลิกบ่นได้แล้วค่ะ นกก็มาเป็นเพื่อนแม่แล้วไง”
ทันใดนั้น จิรภา คนรู้จัก ซึ่งเป็นรองนายกอีกคนหนึ่งเข้ามา
“อุ้ย! สวัสดีค่ะ”
อังคณาหันมา พอเห็นว่าเป็นจิรภาก็ไม่ชอบขี้หน้า แต่ก็ฝืนยิ้มให้ ชนกนันท์ไม่รู้เรื่องด้วย จึงไหว้จิรภา
“แล้วคุณธานินทร์ สามีคุณอังคณาล่ะคะ ไม่มา “อีกแล้ว” เหรอคะ” จิรภาแดกดัน
อังคณา และชนกนันท์หน้าเสีย
“ไม่เหมือนคุณประสพโชค” หน้าตาปลื้มปริ่ม “สามีของดิฉัน เวลาที่ดิฉันไปไหนก็เดินตามต้อยๆ”
ชนกนันท์หมั่นไส้พูดลอยๆ “คงมีเชือก ร้อยจมูกอยู่มั้งคะ”
“หมายความว่ายังไงคะ” จิรภางง
ชนกนันท์ยิ้ม “ไม่มีอะไรค่ะ คุณแม่แค่กำลังนึกถึง...ตัวอะไรน้า ที่เราเอาเชือกมาสนตะพาย แล้วจูงไปไหนมาไหนได้ คุณน้านึกออกมั้ยคะ”
“ตัวที่มันเขายาวๆ น่ะค่ะ นึกออกไหมเอ่ย” อังคณาสำทับ
จิรภาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ว้าย!!” กัดฟัน “หยาบคาย! มิน่า ผัวถึงได้เบื่อ”
จิรภากระทืบเท้าแล้วเดินสะบัดก้นกลับไปหาสามี
อังคณาโมโหบ้างพูดท่าทีเข่นเขี้ยว
“ดู นก ดูมันว่าแม่”
“อย่าไปสนใจค่ะ คุณแม่” ชนกนันท์ปลอบใจแม่ “คุณพ่อรักคุณแม่จะตายไป”
ครู่หนึ่งมีผู้หญิงกับสามีอีกคู่หนึ่งเข้ามาทัก
“คุณอังคณา สวัสดีค่ะ”
อังคณารีบปรับสีหน้ารับไหว้ ชนกนันท์ก็ไหว้ผู้หญิงกับสามีคู่นั้น
“คุณธานินทร์ล่ะคะ” ผู้หญิงคนนั้นถาม
อังคณากับชนกนันท์หันมามองหน้ากันอย่างแสนจะเบื่อ อังคณาฝืนใจหันไปฉีกยิ้มให้

ภายในห้องทำงานธานินทร์มีของใช้มากมาย ล้วนเป็นของที่เสียหายนิดๆ หน่อยๆ ที่รอการซ่อม ธานินทร์นั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังซ่อมโคมไฟอันหนึ่งอยู่ เปลี่ยนสวิทซ์ปิดเปิดที่สายไฟ เสร็จแล้วเสียบปลั้ก แล้วกดเปิดสวิทซ์ ไฟสว่าง ธานินทร์รู้สึกดี
ระหว่างนั้นประตูห้องเปิดออก อังคณาเดินหงุดหงิดเข้ามา
“มีความสุขมากเลยนะ”
สีหน้าท่าทางของอังคณาชวนทะเลาะเต็มที่
ธานินทร์เงยหน้ามองด้วยสีหน้าตกใจ
“คุณเป็นอะไรของคุณ”
“เป็นอะไรของชั้นเหรอ? ก็โมโหไง ต้องบอกด้วยไหมว่าเรื่องอะไร เรื่องที่คุณไม่ไปงานกับชั้นไง แล้วยังปิดมือถือใส่ชั้นอีก”
ธานินทร์อ้ำอึ้งอึกอัก “ก็...ก็แบตมันหมด แล้วผมก็ต้องไปพบลูกค้า”
“แล้วทำไมไม่บอกชั้นก่อน”
“มันกะทันหันน่ะ แล้วอีกอย่างผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ชอบงานแบบนี้”
“คนอื่นเค้าก็ไม่ชอบ เขาก็ไปกัน เพราะเค้าเห็นแก่หน้าเมีย มีแต่คุณเท่านั้นที่ไม่เห็นแก่หน้าใคร เคยคิดบ้างไหมว่าคนอื่นมันจะเอาไปพูดกันว่ายังไง”
“ผมไม่สนใจ พวกที่ชอบนินทาชาวบ้าน”
“แต่ฉันสน เพราะฉันต้องทนฟังมันอยู่ทุกวัน วันๆ ฉันต้องออกไปเจอคนเยอะแยะ แต่คุณซี วันๆ คุณคิดจะทำอะไรให้มันเป็นประโยชน์บ้างไหม”
“ผมทำดีที่สุดแล้ว” ธานินทร์พูดพลางถอนใจ
อังคณายิ่งโมโหใหญ่ “ดีที่สุดของคุณคือขลุกอยู่กับไอ้ของพวกนี้ใช่ไหม” ปัดนาฬิกาตั้งโต๊ะตกลงไปแตก
ธานินทร์มองนาฬิกาที่พื้นอย่างตกใจ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะเห็นของพวกนี้ดีกว่าชั้น” โมโหออกไป
ธานินทร์ลุกจากเก้าอี้ มาก้มเก็บเศษนาฬิกา พลางทอดถอนใจอย่างระอา

อังคณาหน้าบึ้งตึง เดินกระแทกเท้าโครมๆ มาที่ทางเดินหน้าคฤหาสน์ ชนกนันท์ที่เพิ่งกลับเข้ามามองอย่างแปลกใจ
“ใครทำให้โมโหอีกล่ะคะ คุณแม่”
“จะใคร นอกจากพ่อแก” อังคณาเสียงขุ่น
ชนกนันท์เอือมนิดๆ “เรื่องเมื่อเช้าน่ะเหรอคะ นกก็ว่ามีอะไรแปลกๆ เหมือนกัน”
“แกก็สงสัยเหมือนกันเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ คุณแม่ลองคิดดูสิคะ ว่าปกติแล้วคุณพ่อไม่เคยปิดมือถือใส่คุณแม่เลย แต่ทำไมวันนี้...” ชนกนันท์ทำท่าคิด
“พ่อแกเค้าอ้างว่าแบตหมด แม่ก็ว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล” อังคณาตัดสินใจ “แม่มองไม่ผิดแน่ๆ” ใคร่ครวญครุ่นคิด “เห็นทีแม่จะต้องเริ่มจับตาดูพ่อแกให้ดีซะแล้ว”

“เดี๋ยวนกจะช่วยคุณแม่อีกแรงนึงค่ะ" ชนกนันท์ประจบ
เช้านั้น ที่หน้าห้องนวดตัวภายในสปอร์ตคลับ ชนกนันท์ยืนอยู่สีหน้าเหวี่ยง และไม่พอใจ กำลังต่อว่าเกียรติ

เพชรแท้เดินมาหยุดดูที่เสาหนึ่ง มองเหตุการณ์
“1 ชั่วโมง! ฉันจ่ายค่าสมาชิกเป็นแสน แต่ต้องมานั่งรอหมอนวดเป็นชั่วโมงเหรอ”
เกียรติอธิบาย “หมอนวดติดนวดสมาชิกท่านอื่นหมดครับ คุณนกไปเล่นอย่างอื่นก่อนดีไหมครับ”
ชนกนันท์ไม่ยอม “ไม่ ชั้นให้เวลาแค่ไม่เกิน 10 นาทีนะ ไปหาใครก็ได้มานวดให้ชั้น”
“แต่ว่า...”
เกียรติอ้าปากพูดไม่ทันจบคำ นกไม่สนใจฟัง เดินไปเปิดประตูเข้าห้องไป แล้วปิดประตูดังปัง
เพชรแท้เดินเข้ามาหาเกียรติที่ยังเคร่งเครียดอยู่
“ก็ตามใจเค้าหน่อยซี พี่เกียรติ”
เพชรผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา อย่างมีแผนในใจ

ชนกนันท์หลับตา นอนคว่ำ อยู่บนเตียงนวด โดยหันหน้าไปคนละทางกับประตู มีผ้าขนหนูคลุมเกือบถึงไหล่ พอได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาก็ยิ้ม โดยไม่ได้ลืมตาหันมาดูเลย
“ต้องให้ใช้อำนาจใช่ไหม ถึงจะมาได้” ไม่มีเสียงตอบ คุณหนูขาวีนเลยพูดต่อ “เมื่อวานเล่นเทนนิสหนักไปหน่อย ชั้นปวดไหล่มากเลย นวดดี ๆ ล่ะ”
ยินเสียงคนนวดเดินเข้ามาใกล้ และเห็นมือคู่หนึ่ง เปิดผ้าขนหนูของชนกนันท์ลงมาเกือบถึงเอว เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวจั๊วะ พร้อมกับที่น้ำมันนวดถูกบีบลงมาที่แผ่นหลังนั้น ก่อนที่มือคู่หนึ่งก็ลูบน้ำมันคลึงไปที่ไหล่
ชนกนันท์ยังหลับตา แต่เริ่มขมวดคิ้ว “นี่ เมื่อก่อนทำนามาหรือไง ทำไมมือสากขนาดนี้” บ่นอุบ “แล้วก็เลิกลูบได้แล้ว นวดซะที นวดแรง ๆ ด้วย”
เพชรแท้ยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วออกแรงบีบลงไปที่ไหล่ทั้งสองของนกอย่างแรง
“โอ๊ย” ชนกนันท์ร้อง พร้อมกับลืมตา หันมามอง “นี่เธอ” พอเห็นว่าเป็นเพชรแท้ ตกใจ รีบเอาผ้าคลุมตัว โวยลั่นห้อง “แก แกเข้ามาได้ยังไง”
“คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่ายังไงต้องหาคนมานวดให้คุณให้ได้ ผมก็มาแล้วไง” เพชรแท้ว่า
“ไอ้บ้า ออกไปนะ ออกไป”
ชนกนันท์หยิบถ้วยใส่น้ำมันปาใส่เพชรแท้ จนเลอะเทอะไปหมด
เพชรแท้ร้อง “เฮ้ย”
ชนกนันท์เอาของขว้างอีก “ไอ้บ้า ไอ้ชั่ว ออกไป๊”
ชนกนันท์กรีดร้องสุดเสียง เพชรแท้หัวเราะแล้วหนีออกไป

เพชรแท้เดินยิ้มสะใจเข้าไปในห้องน้ำ ถอดเสื้อที่เปื้อนออก แล้วเห็นรอยเปื้อนน้ำมันที่กางเกงด้วย
“เปื้อนหมดเลย ยัยบ้าเอ๊ย”
เพชรแท้ยืนอยู่หน้ากระจกสวมผ้าขนหนูผืนเดียว เตรียมจะอาบน้ำ
จู่ๆ ชนกนันท์ในชุดเสื้อคลุมพรวดเข้ามา
“อยู่นี่เองเหรอ แก”
“นี่มันห้องน้ำผู้ชายนะคุณ”
“ไม่ต้องมานอกเรื่อง แกทำผิดแล้วคิดจะหนี ไม่รับผิดชอบงั้นเหรอ”
“ทำผิด” เพชรแท้กวนใส่ “ผมทำอะไร”
“ก็ที่แก...แก... เอ่อ... แก” ชนกนันท์ไม่กล้าพูดออกมา
“อ๋อ” เพชรแท้หัวเราะหึหึ “ที่ผมเห็นคุณแก้ผ้าน่ะเหรอ”
“ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ” ชนกนันท์โมโห ปี๊ดสุดขีด “แกยังพูดออกมาได้อีกเหรอ แกไอ้คนสารเลว ไอ้คนฉวยโอกาส
เพชรแท้เดินเข้ามาหา มองชนกนันท์อย่างพินิจหัวจรดเท้า
“นี่คุณ สารรูปของคุณความจริงก็...พอดูได้น่ะนะ แต่ผมไม่ได้กำรี้กำไรอะไรนักหรอกกับการได้เห็นคุณน่ะ แต่ถ้าคุณคิดว่าการที่ผมเห็นคุณ มันทำให้คุณเสียหาย” ยิ้มๆ “ผมใช้ให้แล้วกัน”
ขาดคำเพชรแท้เอื้อมมือมาที่ปมผ้าเช็ดตัวที่เอว กระตุกพรืด แล้วปาไปที่หน้าชนกนันท์จังๆ
ในสภาพเปลือยครึ่งตัว เพชรแท้ยืนกอดอกมองอย่างสะใจ
“ถือว่าหายกันแล้วนะ พอใจไหม”
นกตกตะลึง ร้องกรี๊ด แล้ววิ่งหนีออกไปเลย
เพชรแท้เดินยิ้มอย่างสะใจเข้าห้องน้ำไป

ภายในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว ขนาดจุ 5-7 คน ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตรงกลางห้องจัดเป็นโต๊ะประชุมยาว มีคุณหญิงคุณนายนั่งประชุมกันอยู่ มีผู้ชายนั่งร่วมอยู่ด้วย 2-3 คน หนึ่งในนั้นคือ...ธานินทร์
โดยธานินทร์นั่งอยู่กับอังคณา
“วาระต่อไป เกี่ยวกับของชำร่วยที่จะแจกแก่ผู้สื่อข่าว และแขกผู้มีเกียรติในงานแถลงข่าวของเรา มีท่านใดมีอะไรจะเสนอไหมคะ” นาถฤดีเอ่ยขึ้น
สุขหทัยส่งช่อดอกไม้ประดิษฐ์เล็กๆ ช่อหนึ่งให้นาถฤดี “แบบนี้เป็นยังไงคะ เข็มกลัดดอกไม้ผ้าไหม”
นาถฤดีรับมาดู “สวยดีค่ะ” ลังเล ท่าทางเกรงใจ “แต่ว่า ท่าทางคงจะแพง”
จิรภาเสริมอย่างไม่เกรงใจ “เชยด้วยค่ะ สมัยนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว มันต้อง (ชี้ที่ปกเสื้อตัวเองที่ติดเข็มกลัดเพชร) แบบนี้ค่ะ”
สุขหทัยหน้าม้าน ธานินทร์รีบเสริม
“โทษนะครับ ถ้าเป็นผ้าเช็ดหน้าล่ะครับ”
ที่ประชุมเงียบกริบ แล้วหันมามองธานินทร์เป็นตาเดียว โดยเฉพาะอังคณายิ่งแปลกใจที่ได้ยินเสียงธานินทร์ในที่ประชุม
ธานินทร์รีบอธิบายอย่างกระตือรือร้น
“พอดีผมไม่มีตัวอย่างมาให้ดู แต่คงพอจะคิดตามกันได้ ผ้าเช็ดหน้าผ้าไหม ปักโลโก้ของสมาคม แล้วปักลายที่ขอบสวยๆ ทำหลายๆ สีหน่อย สำหรับผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง”
นาถฤดียิ้ม คล้อยตาม “น่าสนใจค่ะ”
สุขหทัยยิ้มด้วย “ค่ะ แล้วที่สำคัญ ได้ช่วยเหลือกลุ่มแม่บ้านที่ทอผ้าไหม อย่างที่สมาคมตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก”
นาถฤดีเอ่ยชม “คุณธานินทร์มาประชุมครั้งแรก ก็ช่วยได้มากเลยนะคะ คุณอังคณา”
อังคณายิ้มรับไปตามมารยาท แต่ก็อดมองธานินทร์ที่มีหน้าตาเต็มอกเต็มใจ ด้วยความสงสัย

ขณะที่ธานินทร์ยืนดื่มกาแฟอยู่หน้าตึกใหญ่ อังคณาเดินเข้ามาหา
“วันนี้คุณทำฉันประหลาดใจมากๆ”
“เรื่องอะไร”
“ก็ที่ขันอาสาทำของชำร่วยนั่นน่ะซี ทุกทีแค่ขอให้มาร่วมประชุมก็ยากเย็นเหลือเกิน คุณมีเจตนาอะไรกันแน่”
ธานินทร์ทำไก๋ “เจตนาอะไร ก็เจตนาจะช่วยคุณน่ะซี คุณนี่ยังไง ผมไม่ช่วยก็ว่าผม แต่พอผมจะช่วยก็มามองกันในแง่ร้ายอีก”
อังคณามองธานินทร์ไม่วางใจ พยายามล้วงลึกเข้าไปเพื่อจับผิด
“ฉันก็แค่แปลกใจ” แต่แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง ยักไหล่ “แต่ก็ดีนะ..แล้วคุณจะเอาไปให้ใครทำล่ะ หวังว่าคุณคงจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง”
“ไม่หรอกน่ะ” ธานินทร์ยิ้ม หน้าตามีความสุขมาก “ทุกคนจะพอใจ เชื่อผมซี” ตัดบท “ผมไปทำงานก่อนนะ สายแล้ว”

อังคณาพยักหน้ารับ ธานินทร์เดินแยกไป ท่าทางอารมณ์ดี จนอังคณาต้องมองตาม แววตาสงสัยสุดขีด
ครู่ต่อมารถของธานินทร์แล่นอยู่บนถนน ธานินทร์นั่งอยู่ด้านหลัง โดยมีศักดาเป็นคนขับ

“จะเข้าบริษัทหรือกลับบ้านครับ ท่าน”
“ยัง... ไปบ้านพรรณีก่อน”
ศักดาขับรถต่อไป
ห่างออกไป รถของอังคณากำลังแล่นตามมา
อังคณาพึมพำอย่างคาใจ “ถ้าฉันเชื่อว่าคุณคิดจะช่วยฉัน ฉันก็โง่แล้ว ธานินทร์...” สั่งมนตรีคนขับรถ “ตามไปเลยติด ๆ อย่าให้คลาดสายตานะ ถ้าพลาด ก็เตรียมตัวออกจากงานได้เลย”
“ครับๆ”

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 2/2 วันที่ 29 ต.ค. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th