อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 3 วันที่ 31 ต.ค. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 3 วันที่ 31 ต.ค. 55

อังคณานิ่วหน้าคิดในใจว่ามันแปลกยังไง เรืองโรจน์รีบอธิบายต่อ
“เด็กมาจากไหนไม่ทราบ มาเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ได้วันเดียว ก็ถูกย้ายขึ้นมาเป็นหน้าห้องท่าน” อังคณาเครียดขึ้นมาทันควัน “ดูท่านกระตือรือร้นสนใจมาก ถึงกับให้ผมเดินเรื่องเองเลย”
“เด็กผู้หญิงเรอะ” เรืองโรจน์พยักหน้า “สวยมากไหม”
“ก็...หน้าตาดีครับ”
“อายุซักเท่าไหร่” อังคณาซัก
“เพิ่งจบพาณิชย์มาใหม่ๆ ครับ อายุคงไม่เกินยี่สิบ”

อังคณาโมโหปัดแจกันดอกไม้แตกกระจาย สบถออกมา
“ทุเรศ! ไอ้เราก็นึกว่ามีอะไร ที่แท้ก็ไอ้แก่ตัณหากลับ”
“คุณผู้หญิงครับ ผมแค่เห็นว่าแปลก ที่ท่านเป็นถึงประธานกรรมการแล้วมาสนใจพนักงานระดับนี้ เลยมารายงาน แต่มันไม่ได้แปลว่า...”
อังคณายกมือห้าม พร้อมกับตวาด “พอที! ลองอีแบบนี้มันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้หรอก นอกจากวัวแก่มันคิดจะเคี้ยวหญ้าอ่อน” สั่งการทันที “เรืองโรจน์ ไปสืบมาให้ฉันที ฉันอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนังเด็กคนนี้”
เรืองโรจน์ลังเล “เอ่อ แล้วคุณผู้หญิง...”
“ฉันไม่ทำอะไรมันหรอกน่ะ” อังคณาผุดหน้าร้ายกาจ “แค่จะตัดไฟแต่ต้นลมเท่านั้นเอง”



ภายในบ้าน พรรณีกำลังเตรียมตั้งสำรับอาหารเย็น เพชรแท้กับผึ้งช่วยอยู่ด้วย เพชรแท้ฮึดฮัดโมโหไม่หายที่รู้ว่าแม่โดนรังแก
“มันชื่ออะไรรู้ไหมแม่ คนที่มันขับรถชนแม่” พรรณีส่ายหน้า “งั้นจำรถได้ไหม รถยี่ห้ออะไร เลขทะเบียนอะไร จำได้ไหมแม่”
“แล้วก็แล้วไปกันน่ะ เพชร จะไปวุ่นวายกับเค้าทำไม” พรรณีปราม
“เพชรไม่ใช่คนใจดีอย่างแม่นี่...ใครมันทำเพชร เพชรต้องเอาคืน”
ผึ้งเข้าข้าง “ใช่ พี่เพชร มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน มันถึงจะสะใจ” จังหวะนั้นหันไปเห็นพิณทองพอดี “อ้าว พิณมา”
พิณทองกลับเข้ามา ในมือนอกจากกระเป๋าถือของเธอแล้ว ยังมีถุงใส่เสื้อของชนะศึกมาด้วยผึ้งออกไปรับ มองไปที่ถุงอย่างสงสัย
“พิณ มาพอดี กินข้าว” เพชรแท้เรียกน้อง
“พี่เพชรกับแม่กินเถอะจ้ะ พิณกินมาแล้ว” พิณทองว่า
“แล้วนั่นซื้ออะไรมาเหรอ” ผึ้งถาม เห็นพิณกอดแน่น ยิ่งอยากดู “ขอดูหน่อยนะ”
พิณทองเบี่ยงหลบ “เปล่า ไม่มีไรหรอก” เอาถุงเสื้อแอบด้านหลัง “แม่จ๋า พิณกินข้าวมาแล้ว พิณขอตัวไปซักผ้าก่อนนะจ๊ะ”
พิณทองเดินเลี่ยงไปหลังบ้าน พรรณีมองตามอย่างแปลกใจ
เพชรแท้บ่นอุบ “ซักผ้า มาซักอะไรตอนนี้”

ตรงลานซักล้างหลังบ้านยามค่ำ กะละมังใบนั้นมีน้ำอยู่แล้ว พิณทองเอาผงซักฟอกแบบซองที่ซื้อมาใหม่ออกมาจากถุง ฉีกซอง แล้วเทลงน้ำในกะละมัง
พิณทองตีน้ำจนขึ้นฟอง แล้วจึงเอาเสื้อของชนะศึกออกมาจากในถุง พิณทองคลี่เสื้อออก ถือไว้ในมือ กลิ่นหอมจากเสื้อของชนะศึกลอยออกมา พิณทองเหลือบมองซ้ายขวาเล็กน้อย แล้วยกเสื้อขึ้นมา สูดกลิ่นหอมจากเสื้อชนะศึกนิดหน่อย แล้วเอาเสื้อชนะศึกใส่ลงไปในกะละมัง พิณทองเริ่มขยี้ที่รอยเปื้อน รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำอะไรดีๆ ให้เขา

พรรณีแอบดูพิณทองซักผ้า ในใจหวั่นไหว สงสัยกับการพฤติกรรมของพิณทองครามครัน
ค่ำคืนนั้น ภายในห้องทำงานส่วนตัวของธานินทร์ ขณะที่ธานินทร์กำลังเปิดกล่องดูเสื้อที่ปักอักษรคำว่า “รัก พรรณี” แต่ยังไม่ได้เอาเสื้อออกมา หยิบนาฬิกาพกขึ้นมา ในจังหวะที่อังคณาเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ธานินทร์รีบปิดกล่อง เหลียวมามองอย่างไม่พอใจ

“นี่มันห้องส่วนตัวของผม”
อังคณาสวนด้วยคำพูดแรง “แต่นี่มันบ้านของพ่อแม่ฉัน ทุกตารางนิ้วของบ้านนี้ มันเป็นของครอบครัวฉัน รวมถึงไอ้บริษัทยักษ์ใหญ่ที่คุณนั่งเป็นประธานกรรมการนั่นก็ด้วย”
ธานินทร์ชักโกรธ “คุณจะมาไม้ไหนอีกนี่ คุณอังคณา”
“คุณรับผู้ช่วยเลขาฯ คนใหม่ ทำไมไม่บอกฉัน”
“คุณก็ดีแต่ผลาญเงินไปวันๆ ไม่เคยสนใจเรื่องที่ทำงานอยู่แล้ว ผมจะบอกคุณไปทำไม”
อังคณาตวาดแว้ด “ไม่ใช่เพราะคุณรับอีเด็กหน้าใส วัยคราวลูกมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้าห้องหรอกเรอะ คุณถึงบอกฉันไม่ได้” อังคณาร้องกรี๊ด “ใช่ไหม ใช่ไหม... ทำไมไม่ตอบล่ะ”
ธานินทร์ลุกขึ้นยืน ไม่อยากอดทนฟังอีกต่อไปแล้ว
“ฟังนะ คุณอังคณา ข้อ 1 ผมเป็นประธานกรรมการบริษัท ผมอยากจะทำอะไร มันก็เรื่องของผม ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายกับคุณ” จะเดินออก “ข้อ 2 จริงอยู่ ว่าบ้านนี้กับบริษัท เป็นของครอบครัวคุณ แต่ตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีผมคอยทำมาหาเลี้ยงมัน ผมว่า... แม้แต่หลังคาก็คงไม่เหลือแล้วล่ะ”
ธานินทร์เดินออกไป ไม่ใยดี โดยไม่ลืมเอากล่องติดมือไปด้วย ทิ้งให้อังคณากรี๊ดอยู่ในห้องลำพัง
อังคณาระบายอารมณ์ด้วยการทำลายข้าวของในห้องไปมา

เช้าวันนี้พิณทองแต่งตัวเตรียมออกไปทำงาน เดินมาดูเสื้อที่ราวตากผ้าใหม่ แต่ไม่เห็น พิณทองหน้าเสีย
“หายไปไหนแล้วล่ะ” หันซ้ายหันขวากังวลหนัก “ตายแล้ว...”
พรรณีเดินออกมาจากในบ้าน ในมือถือเสื้อของชนะศึก
“หานี่อยู่หรือพิณ”
พิณทองตกใจ “แม่”
“เสื้อเชิ้ตผู้ชาย ท่าทางแพงมากด้วย ของใครน่ะพิณ”
“เอ่อ ของเพื่อน...น่ะค่ะ พิณทำของเค้าเปื้อนเลยเอามาซักให้”
พรรณีส่งเสื้อให้
“แม่รีดให้แล้ว”
“ขอบคุณจ้ะแม่..” พิณทองตัดบท “พิณไปทำงานก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวสาย”
พิณทองหันหลังกำลังเดินไป พร้อมกับเอ่ยขึ้น
“พิณจะคบใครเป็นเพื่อนแม่ไม่ว่า แต่ถ้ามันเกินเลยมากกว่าเพื่อน พิณต้องดูดีๆ”
พิณทองหันมามองพรรณี แล้วอึ้งไป พรรณีพูดต่ออย่างจริงจัง
“เจ้าของเสื้อตัวนี้ แม่ดูแค่เสื้อก็รู้แล้วว่าเค้าไม่ใช่คนอย่างเราๆ เราเป็นคนจนก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวนะ ลูก ยังไงซะคนรวยเค้าก็มองว่าเราน่ะต่ำต้อย ไม่คู่ควรกับเค้า ถ้าพิณคิดกับเค้ามากกว่าเพื่อน พิณเองนั่นแหละที่จะเสียใจ”
“ค่ะแม่” พิณทองรับปาก แต่ดูเหมือนในใจจะไม่ได้เชื่อคำที่แม่บอกนัก
จากนั้นพิณทองเดินออกจากบ้านไป พรรณีมองตาม เป็นห่วง

ที่บริษัทเบสท์เอ็นเตอร์ไพร้ส์ตอนเช้า ยังไม่มีคนมากนัก ที่ชั้นผู้บริหาร เสียงลิฟต์มาถึง ประตูลิฟต์เปิดออก พิณทองเดินออกมา ในมือมีถุงเสื้อของชนะศึกอยู่ด้วย
พิณทองมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ก็จะเดินไปที่ห้องทำงานชนะศึก ทันใดเสียงเครื่องดูดฝุ่นก็ดังขึ้น พิณชะงัก แม่บ้านเดินดูดฝุ่นเข้ามา
“อ้าว หนู มาแต่เช้าเลย”
ทักเท่านั้น แม่บ้านก็หันไปดูดฝุ่นต่อ พิณทองเดินไปที่โต๊ะของตน ทำเป็นจัดข้าวของ พอแม่บ้านลับตัวไป พิณทองจึงถือถุงกระดาษกลับไปที่ห้องชนะศึกอีกครั้ง มองซ้ายมองขวา แล้วเปิดประตูเข้าไปเลย

พิณทองปิดประตู เดินเข้ามาภายในห้องทำงานชนะศึก เปิดถุงออก แล้วหยิบเสื้อของชนะศึกที่ซักรีดมาอย่างดีวางลงไว้บนโต๊ะทำงาน พิณทองเอากระดาษแผ่นหนึ่งที่เธอเขียนบางอย่างไว้ วางลงบนเสื้อด้วย
ที่กระดาษ เขียนกำกับไว้ว่า “พิณขอโทษสำหรับทุก ๆ อย่างค่ะ”
พิณทองวางเสื้อเสร็จเรียบร้อย จึงหันกลับ เดินไปที่ประตู กำลังจะเปิดออกไป
ทันใดประตูก็เปิดเข้ามา กลายเป็นชนะศึกมาทำงานแต่เช้าเหมือนกัน ทั้งสองนิ่งชะงักเมื่อเห็นกัน
ชนะศึกถามเสียงขุ่น “มาทำอะไรในห้องผม” พิณทองอึกอัก พูดอะไรไม่ออก “จะมาขโมยของเหรอ”
“เปล่าค่ะ”
“งั้นเข้ามาทำอะไร บอกมาซี หรือจะต้องให้ค้นตัว”
ชนะศึกเดินมองไปทั่วห้อง เหมือนจะสำรวจว่าอะไรหาย จากนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ พิณทอง แล้วดึงถุงกระดาษในมือพิณทองมาเปิดดู แล้วไม่พบอะไร
“บอกมานะเธอมาเอาอะไร ปากกาเหรอ หรือนาฬิกา”
และแล้วสายตาชนะศึกก็มาหยุดอยู่ที่เสื้อเชิ้ตบนโต๊ะ ชนะศึกจำได้ทันทีว่าเป็นเสื้อตัวเมื่อวาน แล้วเขาก็เห็นกระดาษบนเสื้อ ชนะศึกหยิบขึ้นมาอ่าน
พิณทองหันไปมอง ชนะศึกก็มองมา พอทั้งสองสบตากัน พิณทองก็รีบหลบสายตา
“พิณเอาไปซักให้น่ะค่”
ชนะศึกอึ้ง รู้สึกดีเหมือนกัน และรู้ตัวว่าพูดดีไป “มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ แม่บ้านก็มี เดี๋ยวเขาก็ทำเองแหละ”
“พิณเป็นคนทำให้มันเลอะ พิณก็ควรจะรับผิดชอบ”
“ก็ดี มีอะไรอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีแล้วค่ะ พิณไปนะคะ”
พูดแล้วพิณทองก็เดินออกจากห้องไป เมื่อประตูปิดลง ชนะศึกจึงอ่านข้อความบนกระดาษนั้นอีกครั้ง แล้วหยิบเสื้อของเขาขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะดมกลิ่นหอมจากเสื้อ
ชนะศึกเดินมาที่ประตู ค่อยๆ แง้มประตูเปิดออก แล้วมองออกไปทางโต๊ะของพิณทอง เห็นพิณทองก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ จังหวะนั้นพิณทองก็เงยหน้าขึ้น มองมาที่ห้องชนะศึก
ชนะศึกรีบฉากหลบ แล้วปิดประตู ยิ้มกับตัวเองพร้อมกับมองดูเสื้อในมือ

ที่สปอร์ตคลับ ช่วงตอนกลางวัน ขณะที่เพชรแท้กำลังทำงานอยู่ พอมองออกไปด้านหน้า เห็นกลุ่มเกย์สาวแตก 2-3 คนเดินมา ทั้งหมดกระซิบกระซาบ แล้วชี้ชวนกันมองมาที่เพชรแท้ ทำเอาเพชรแท้แปลกใจ หันไปพูดกับเกียรติงงๆ
“อะไรกันวะเนี่ย”
“มาสมัครเมมเบอร์มั้ง” เกียรติเดินเข้าไปหา “สวัสดีครับ”
ทว่ากลุ่มเกย์พวกนั้นไม่สนใจเกียรติ เดินผ่านเข้ามาหาเพชรแท้ เกย์คนที่หนึ่ง ดูท่าทางเรียบร้อยกว่าคนอื่นถามเพชรแท้
“สวัสดีจ้ะ” ทำท่ากระดากอาย “ชื่อเพชรแท้ใช่ไหมเราน่ะ”
เพชรแท้งงๆ “ครับ”
“ถ้าพวกเราอยากจะใช้บริการ จะต้องทำยังไงเหรอจ๊ะ” เกย์คนเดิมถาม
“ถ้าจะสมัครเมมเบอร์ เชิญที่ทางด้านหน้าเลยครับ”
เพชรแท้ก้มหัวนิด ๆ แล้วจะเดินหนี เกย์อีกสองคนที่ทำท่าทางแรงกว่าขวางไว้
“ไม่ใช่จ้ะ...พี่หมายถึงพี่อยากใช้บริการ...” เอานิ้วจิ้มหน้าอกเพชรแท้ แล้วค่อย ๆ เลื่อนลงมาที่หน้าท้อง “ที่นี่” ลดเสียงลง “น้องจะคิดเท่าไหร่”
เพชรแท้ชักโมโห เสียงเข้ม “คุณพูดบ้าพูดบออะไรของคุณเนี่ย ผมไม่ใช่...”
เกย์อีกนางที่ดูท่าทางวีนเหวี่ยงเจ้าอารมณ์กว่าเพื่อนเสียงดังสวนขึ้นมา
“นี่พ่อคู๊นนนน!! ของของเธอมันไม่มีอันเดียวในโลกนะจ๊ะ ถ้าไม่อยากขาย ฉันก็ไม่ง้อ แต่อย่ามาลงประกาศแบบนี้ มันเสียเวลาคนอื่นเขา”

เกย์คนดังกล่าว ยื่นไอแพดออกมาชูหรา
เพชรแท้มองจ้อง เห็นเป็นข้อความที่มีรูปหน้าของเพชรแท้ จากบอร์ดพนักงาน ตัดต่อกับร่างเปลือยเปล่า พร้อมข้อความโฆษณาวาบหวิวกำกับ

เกียรติ ยื่นหน้ามาแอบอ่าน “บริการเทรนเนอร์ส่วนบุคคล ด้วยลีลาสุดประทับใจ” ตกใจ “เฮ้ย ไอ้เพชร”
เพชรแท้โกรธมาก มองออกไปเห็นชนกนันท์ยืนหัวเราะอย่างสะใจอยู่ โดยมีโสภิตายืนข้างๆ เพชรแท้เดินปรี่เข้าไปหา ถามอย่างมีอารมณ์
“ฝีมือคุณใช่ไหม”
“ชอบโชว์นักไม่ใช่เหรอไง ฉันก็เลยจัดให้ สะใจไหมล่ะ” ชนกนันท์ตอกกลับ
เพชรแท้แค่นยิ้ม แล้วหันไปพูดเสียงดัง
“ขอโทษนะครับ คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะปกติผมบริการเฉพาะลูกค้าประจำ” ชี้ไปที่ชนกนันท์ “คนนี้คนเดียว”
ทุกคนมองเป็นตาเดียว ชนกนันท์ตกใจ
“แก!”
“คุณผู้หญิงคนนี้นะครับ เจอของผมเข้าไปหนเดียว ติดใจจนต้องมาขอดูทุกวัน ถ้าสนองนี๊ดให้ไม่ทันที่คุณเธอต้องการ ก็จะร้องกรี๊ดๆๆ เหมือนคนเป็นฮิสทีเรีย”
ชนกนันท์กรี๊ด กระทืบเท้าเร่าๆ “แก..ไอ้บ้า..ไอ้สารเลว ...ไอ้...”
เพชรแท้หัวเราะอย่างสะใจ บรรดาเกย์ทั้งหลายรุมกันเม้าท์ชนกนันท์
“ตร๊าย..ชะนีโรคจิต”
ชนกนันท์แว้ดกลับ “แกน่ะสิ โรคจิต อีตุ๊ด”
“เอ๊ะ!! นังนี่” เกย์ที่โชว์ไอแพดหันไปบอกเพื่อนสาว “จัดการมันซิ”
บรรดาเกย์จะเข้ามารุมชนกนันท์ โสภิตาเห็นท่าไม่ดี รีบลากสาวขาวีนหนีออกไป ชนกนันท์ยังร้องกรี๊ดๆ เพชรแท้หัวเราะเยาะสะใจ

ที่หน้าตึกบริษัทเบสท์ฯ ตอนค่ำ พิณทองเดินออกมากำลังจะกลับบ้าน มองซ้ายมองขวา รอเพชรแท้มารับ แต่ไม่เห็นวี่แวว
ที่ป้ายรถเมล์หน้าบริษัท ดาวกับนันทนายืนรอรถเมล์กันอยู่ พอดาวเห็นพิณทองก็ตะโกนเรียก
“น้องพิณ น้องพิณจ๋า ทางนี้จ้ะ”
พิณทองเห็นดาวกับนันทนาก็ยิ้มรับ แล้วเดินเข้าไปหา
“กลับบ้านแล้วเหรอจ้ะคุณเลขาฯ” ดาวแซว
“เลขาฯอะไร พิณเป็นแค่ผู้ช่วยพี่ยุ้ย”
นันทนาแซวต่อ “ไม่รู้น้องพิณทำบุญวัดไหนน้า แค่วันเดียวได้เลื่อนไปอยู่ชั้นสูงสุดเลยเนี่ย”
ดาวเสริม “นั่นซี พาพี่ไปด้วย พี่จะได้ไปบนบ้าง... เป็นไงบ้างล่ะ ข้างบนน่ะ”
“ก็ดีค่ะ พี่ยุ้ยใจดี” พิณทองว่า
นันทนาหน้าตาสอดรู้เต็มที่ “แล้วท่านล่ะ”
“ท่านยิ่งใจดีมากเลยค่ะ”
นันทนาเหลือบไปมองดาวอย่างรู้กัน
“ใจดีแค่ไหน...ท่านบอกจะให้อะไรน้องพิณอีกรึเปล่า” ดาวหยั่งเชิง
พิณทองเริ่มเก็ต เข้าใจความหมาย “อะไรน่ะพี่ ทำไมถามแบบนั้น”
“ดาวเขาจะถามว่า ท่านใจดีกับพิณแบบไหน แบบว่า...รึเปล่า”
พิณทองบอกสีหน้านิ่ง “ท่านเป็นคนดี เมตตาพิณมาก พวกพี่อย่าคิดอะไรไม่ดีกับท่านเลยนะคะ ขอร้อง”
ดาวกับนันทนารู้สึกผิดที่คิดไม่ดี
ทันใดนั้น รถของธานินทร์ก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าทั้งสาม แล้วกระจกรถด้านหลังก็เลื่อนลง ธานินทร์มองออกมา
ดาวกับนันทนาไหว้ ธานินทร์รับไหว้ แล้วหันมาทางพิณทอง
“พิณ จะกลับบ้านเหรอ”
“ค่ะ”
“ขึ้นมาซี จะไปส่ง” ธานินทร์บอก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” พิณทองปฏิเสธอย่างเกรงใจ
“ขึ้นมาเถอะ มันทางผ่านของฉันอยู่แล้ว”
มีเสียงรถคันหลังบีบแตรไล่ พิณทองมองดาวกับนันทนานิดหน่อย ทั้งสองพยักเพยิดให้ไป พิณทองจึงเปิดประตูด้านหน้า แล้วเข้าไปนั่ง รถของธานินทร์เคลื่อนออกไป
“นั่นไง” ดาวกับนันทนาประสานเสียง หันมามองกัน

ขณะเดียวกันเรืองโรจน์เห็นธานินทร์พาพิณทองขึ้นรถไป จึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร.ออกทันที
“ฮัลโหล คุณอังคณาเหรอครับ ...อยู่ที่บ้านใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปหา ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”

ภายในรถ ธานินทร์ และพิณทองนั่งอยู่เบาะหลัง
“ฉันต้องขอโทษหนูด้วยนะที่แยกหนูออกมาจากเพื่อน ๆ เผอิญมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับหนูน่ะ”
“เรื่องอะไรคะ”
“เดี๋ยวแวะไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า” บอกพิณทอง “ไปกินข้าวกันก่อนนะ”
พิณทองอึกอัก “เอ่อ พิณ”
“มีร้านนึง ที่ฉันพาหนูไป” บอกชื่อร้านกับศักดา “ไปที่...นะ”
ศักดารับคำ พิณทองยังรู้สึกกังวล

ที่ห้องรับแขกบ้านธานินทร์ เย็นนั้น สีหน้าอังคณาตกใจมากพอฟังเรืองโรจน์พูดจบ
“อะไรนะ! แล้วเขาพากันไปไหน”
“เอ่อ ไม่ทราบครับ ผมถามเลขาของท่านดู เขาก็ไม่ทราบ”
อังคณาด่า “โง่! จะพาเด็กไปเลี้ยงดูปูเสื่อ ใครเขาจะบอกเลขา ทำไมไม่หาทางอื่นล่ะ” เรืองโรจน์อึกอัก “เอาโทรศัพท์มานี่ โทร.หาเขาซิ ถามซิว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“ครับ”
เรืองโรจน์เอาโทรศัพท์มือถือออกมา อังคณาสำทับ
“แล้วอย่าโง่ไปบอกว่าฉันถามล่ะ แกล้งโทร.ไปตามเรื่องงาน นัดหมายบ้าบออะไรก็ได้ รู้ไหม”
“ครับ”
เรืองโรจน์กดหาธานินทร์

ที่ร้านอาหารแห่งนั้น ธานินทร์เดินเข้ามากับพิณทอง พามานั่งที่โต๊ะ
“ร้านนี้อาหารไทยเขาขึ้นชื่อมาก”
พิณทองรับทราบ แต่ออกจะประหม่า
จังหวะนั้นโทรศัพท์ของธานินทร์ดังขึ้น ธานินทร์เอาขึ้นมาดู พอเห็นว่าชื่อเรืองโรจน์ จึงกดรับสาย
เรืองโรจน์ พูดโทรศัพท์ โดยมีอังคณาถลึงตาอยู่ใกล้ๆ
“ท่านอยู่ไหนครับ .. คุณผู้หญิงรออยู่ บอกว่าวันนี้มีนัดเลี้ยงที่สมาคมฯ ครับท่าน”
“อ้าว รออยู่เหรอ .. ใช่ เขาบอกแล้ว แต่ผมไม่ได้รับปากว่าจะไปด้วยนี่”
“ท่านคะ” พิณทองเกรงใจ
“เดี๋ยวนะ” ธานินทร์ปิดไม่ให้เสียงเข้า พูดกับพิณทอง “ว่าไง”
“ท่านไปธุระเถอะค่ะ พิณกลับบ้านเองได้”
“เอาเถอะๆ” หันไปพูดโทรศัพท์ต่อ “รถมันติดมากนะ ผมไม่มีทางไปถึงทัน จะทำให้เขาเสียเวลารอเปล่า ๆ เอางี้ คุณไปเป็นเพื่อนคุณอังคณาเลยก็แล้วกัน…โอเค แค่นี้นะ”
ธานินทร์กดวางหู และเพื่อความแน่ใจ ธานินทร์กดปิดเครื่องไปเลย เสร็จแล้วหันมาทางพิณ
“มา สั่งอาหารสิ หนูอยากกินอะไร”
ธานินทร์ส่งเมนูให้พิณทองใบหน้ายิ้มแย้ม พิณทองยิ้มตอบเจื่อนๆ

เรืองโรจน์กดโทรศัพท์ซ้ำ ร้อนใจ อังคณาจิกถาม
“ว่าไง”
“ยังไม่ได้ความอะไร ท่านก็วางสายไปซะก่อนครับ”
อังคณาหงุดหงิด “บ้าจริง ไม่ได้เรื่อง” แย่งโทรศัพท์ “เอามานี่”
อังคณากดโทร. แต่ไม่ติด ยิ่งหงุดหงิด
“ปิดเครื่องไปแล้ว เลยไม่รู้เรื่องกัน” หันมาแหวใส่เรืองโรจน์ “ทำไมถึงได้ไม่ได้เรื่องแบบนี้นะ พอกัน ทั้งคนทั้งโทรศัพท์”

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 3 วันที่ 31 ต.ค. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th