อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9 วันที่ 5 ต.ค. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9 วันที่ 5 ต.ค. 55
  “ใส่หน้ากากดูสวยขึ้นเยอะ เก๋ไก๋สไลเดอร์มากๆ” เจ๊จุ๊ทั้งทึ่งทั้งชื่นชม
       ทุกคนต่างกำลังชื่นชมผลงานของสมหวัง
      “ราศีจับจริงๆ ซิ ความคิดสมหวังนี่สุดยอด” เจ๊เนาว์ปลื้มปริ่ม
       สมหวังเดินไปมาโชว์ผลงานของตน โดยไม่ทันระวังสะดุดพรมที่พื้น ทุกคนหัวเราะขันในความน่ารักของสมหวัง
       “อย่างอื่นเอาหมด แต่สะดุดแบบเมื่อกี้ไม่เอานะน้องสมหวัง”
       เจ๊จุ๊แซว ทุกคนขำ
       สมหวังเขิน “จ้ะ”
       สมหวังถอดหน้ากากส่งให้ทุกคนดู
       เจ๊เนาว์ “เจ๊ว่าทำสำรองไว้อีกอันดีกว่ามั้ย”
       “ทำไมต้องทำสำรองด้วยวะนังเนาว์ …อยากใส่กับเค้าบ้างหรือยังไง” เจ๊จุ๊ท้วง
       “ก็เผื่อเอาไว้ เกิดอันนี้เป็นอะไรขึ้นมา” เจ๊เนาว์บอก
       “ชั้นว่าไม่ต้องหรอก อันเดียวก็พอ คอยระวังๆ หน่อยก็แล้วกัน”
       สมหวังพยักหน้ารับ
       ริมหน้าต่างด้านนอก ไม่มีใครเห็นว่า สำลีกับปอยฝ้ายยืนมองอย่างสนใจ!
     
       ด้านจอมขวัญกำลังซ้อมเต้นอยู่ที่บริษัท แล้วจู่ๆ นางรู้สึกรำคาญ ที่เต้นไม่ได้เสียที เลยยิ่งหงุดหงิด
       “โอ๊ยอะไรเนี่ย! ทำไมแค่ร้องเพลงต้องทำให้มันยุ่งยากด้วยนะ ไม่ซ้งไม่ซ้อมมันแล้ว”
       หน้าจอมขวัญเหวี่ยงสุดขีด พร้อมกับสะบัดตัวทำท่าจะเดินออกไป ทำเอาครูสอนเต้นหน้าเสีย
       เฮียตี๋ยกมือบอกครูเป็นเชิงว่าเดี๋ยวจัดการเอง
       “เอาน่าหนู ทนอีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว ออกทีวีมันจะได้ดูดีไง”
       “แค่เสียงหนูอย่างเดียวมันก็เหลือกินแล้ว” จอมขวัญอวดเก่ง
       ขณะที่จอมขวัญกำลังดื่มน้ำ และมองหน้าเฮียตี๋อย่างเบื่อๆ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
       เป็นโทรศัพท์จากสำลีที่โทร.มาจากบ้านชูชนะ
       จอมขวัญคุยสาย “ฮัลโหล”
       “ชั้นเอง….สำลี”
       จากที่หงุดหงิดจอมขวัญกลับอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็น
       “เป็นยังไงตกลงมันใส่หน้ากากแน่ใช่มั้ย”
       “ใส่ชัวร์ๆ มันทำกันเสร็จแล้วด้วย” สำลีว่า
       “ดี! งั้นแกก็หาทางขโมยหน้ากากมันมาให้ได้....ค่าจ้างอย่างที่ตกลงกันไว้อย่าให้พลาดล่ะ” จอมขวัญยิ้มสะใจ
       “ไม่พลาดแน่นอน…แล้วอย่าเบี้ยวชั้นล่ะ” สำลีสำทับ
       “ชั้นไม่เบี้ยวแน่นอน.....แค่นี้นะ”
       จอมขวัญวางสาย ยิ้มร้ายสีหน้าเหี้ยมเกรียมออกมา
       เฮียตี๋อยากรู้เต็มที่ “ใครโทร.มา”
       “สายหนูโทร.มาส่งข่าวเรื่องไอ้พวกนั้น รับรองงานนี้มันเสร็จแน่”
     
       ตอนสายวันนั้น แจ่มเดินเอาน้ำมาให้หมวดวันชาติที่สนามหน้าบ้าน
       “รอคุณยอดชายสักครู่นะคะ”
       แจ่มกำลังจะเดินออก วันชาติเรียกไว้
       “เดี๋ยวๆ”
       แจ่มหันมาหางงๆ “คะ”
       “พักนี้มีคนแปลกหน้ามาหาคุณยอดชายหรือเปล่า”
       แจ่มคิดครู่หนึ่ง “ไม่มีนี่คะ”
       “แล้วคุณยอดชายเค้ามีญาติที่ไหนบ้างหรือเปล่า”
       “ก็เห็นมีแต่เพื่อนผู้ชายคนนึง ที่มาบ่อยๆ”
       “แล้วจำหน้าได้หรือเปล่า”
       “จำได้ค่ะ”
       “งั้นเดี๋ยวดูรูปนี้ให้หน่อยว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า”
       วันชาติรีบเดินไปที่รถเปิดประตูหยิบเอารูปแดนออกมาจากเอกสาร
       วันชาติชี้ที่รูปแดน “เนี่ยรูปนี้”
       แจ่มขยับตัวจะมอง ก็พอดีเสียงยอดชายเดินเข้ามาถึงทักวันชาติ...แจ่มจึงหดกลับ
       “หวัดดีครับหมวด”
       “หวัดดีครับ”
       ยอดชายมองไปยังแจ่ม “มีงานอะไรก็ไปทำไป”
       “ค่ะ” เดินออกมา
       “มีอะไรเหรอครับ” ยอดชาติหันมาทางวันชาติ
       “พอดีผมได้รูปของคนร้ายมาก็เลยจะถามคุณยอดชายว่าเคยเห็นหน้าหรือเปล่า” วันชาติเอ่ยขึ้น
       ยอดชายตกใจ “เหรอครับ”
       วันชาติส่งรูปให้ “คุณยอดชายคุ้นๆ หน้าบ้างไหมครับ”
       ยอดชายหยิบแฟ้มรูปมาดู ตกใจผงะเล็กน้อย แต่แล้วรีบกลบเกลื่อน วันชาติที่เฝ้าดูอาการเห็น
       “ไม่ครับ ไม่คุ้นเลยครับ ใครครับ”
       “ก็มือปืนที่ยิงคุณนายศรีสมรไงครับ ผมให้ที่กองเค้าสเก็ตรูปเต็มออกมา คุณยอดชายแน่ใจนะครับว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”
       “ไม่ครับ ไม่เคย”
       วันชาติมองยอดชายด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ขณะที่ยอดชายรีบคืนรูปให้วันชาติท่าทางร้อนรน
       “เด็กไม่ได้ยกของมาให้เหรอครับเนี่ย งั้นผมขอตัวสักครู่”
       ยอดชายขอตัว แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
     
       ยอดชายอยู่ในบ้าน มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหมวดนั่งอยู่ที่โต๊ะในสนามหญ้า ยอดชายสีหน้าหงุดหงิดและกังวล
       “ไอ้หมวดนั่นมันต้องเริ่มสงสัยเราแล้วแน่ๆ”
       ยอดชายคว้าโทรศัพท์มากดโทร.หาแดน มีแต่เสียงสัญญาณ แดนไม่รับโทรศัพท์ ยอดชายโมโห
       “ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ”
       ระหว่างนั้นแจ่มกำลังจะยกของว่างออกไปให้หมวดวันชาติ
       ยอดชายเรียกไว้ “เดี๋ยว…นังแจ่ม”
       “คะ?”
       “เมื่อกี้หมวดนั่นถามอะไรแก”
       “เค้ากำลังจะให้ดูรูปใครไม่รู้ค่ะ” แจ่มตอบ
       “แล้วแกเห็นหรือเปล่า”
       “ยังไม่ทันเห็นค่ะ”
       “ถ้าเค้าให้แกดูอีกแกไม่ต้องสนใจนะ…แล้วบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เข้าใจมั้ย”
       แจ่มงงๆ แต่ก็รับคำตามเจ้านายสั่ง
       “ค่ะ” แจ่มเดินออกไป
       ยอดชายกลับมาหัวเสียกับแดนที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์
       “ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ”
     
       ยอดชายมีสีหน้ากังวลหนัก
          แจ่มเดินเอาอาหารว่างมาเสิร์ฟให้หมวดวันชาติ ในขณะที่ยอดชายเดินตามเข้ามากันท่า พอแจ่มวางอาหารเสร็จแล้วก็เดินออกไป ยอดชายเอ่ยขึ้น
     
       “ทานอาหารว่างก่อนครับ”
           “ขอบคุณครับ ผมกำลังจะกลับพอดีเดี๋ยวต้องไปทำธุระต่อ”
           “อ๋อ...ครับ”
           “ขอบคุณมากนะครับ ที่ให้ความร่วมมือ ถ้ามีอะไรคืยหน้าผมจะมาขอความร่วมมือใหม่”
           ยอดชายยิ้มเยื้อน “ยินดีครับ”
       ระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ยอดชายดังขึ้น! ยอดชายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นที่หน้าจอ เป็นเบอร์แดน ยอดชายมีสีหน้าตกใจ รีบกดตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง บ่นงึมงำ
       “จะโทร.มาทำบ้าอะไรตอนนี้วะ”
       วันชาติจ้องยอดชายที่มีท่าทีที่น่าสงสัย
           “งั้นผมลานะครับ”
           “ครับ”
       วันชาติเดินออกไป
       ยอดชายหงุดหงิดอารมณ์เสีย รีบเดินเข้าบ้านไป
     
       ยอดชายเดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้านอย่างหงุดหงิด แล้วรีบหยิบโทรศัพท์โทร.หาแดนทันที แดนอยู่ในห้องน้ำที่ห้องพัก วางมือถือไว้บนโต๊ะเล็กข้างๆ เตียง
       ขณะที่เสียงโทรศัพท์ดังลั่น แดนเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ตรงมารับโทรศัพท์
           “ครับ..คุณยอดชาย”
       ยอดชายโมโห เสียงดังใส่ “ทำอะไรอยู่? ทำไมเพิ่งรับโทรศัพท์วะ”
           “ผมเพิ่งอาบเสร็จ…มีอะไรครับ”
           “ถามได้ว่ามีอะไร! ก็เกิดเรื่องใหญ่แล้วน่ะสิ ไอ้หมวดวันชาติมันรู้แล้วว่าแกเป็นมือปืนฆ่านังคุณนาย”
           แดนตกใจตาเหลือกร้อง “ห๊า”
           “แกไปทำอีท่าไหนให้มันจับได้ห๊ะ”
       “ผมจะรู้ได้ยังไงเล่า ผมก็ระวังตัวดีแล้วนะ อีกอย่างก็ไม่เห็นมีใครสะกดรอยตามผมด้วย แล้วมันจะรู้ได้ยังไง” แดนฉุนนิดๆ
       “แล้วชั้นจะรู้มั้ย ไอ้หมวดวันชาติมันเอารูปแกมาให้ชั้นดู แล้วถามว่าชั้นรู้จักแกหรือเปล่า!! ชั้นแทบช็อกคาเก้าอี้! ไม่รู้ละ แกต้องรีบไปจัดการนังสมหวังให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวเข้าตารางกันได้เลย”
           “แล้วจะให้ผมไปหานังสมหวังที่ไหน”
           “ตรงที่แกเคยเจอมันทุกที่ แล้วที่สำคัญแกต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า!อย่าให้ตำรวจจับได้เด็ดขาด”
           “แล้วที่คุณบอกจะโทร.ล่อมันออกมาให้ผมฆ่า คุณไม่ช่วยผมแล้วเหรอ”
           ยอดชายตะคอกอย่างฉุนเฉียว “ไอ้บ้า! จะช่วยได้ยังไง ตอนนี้เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น แกกับชั้นต้องอยู่ห่างๆ กันไว้”
           “ครับ”
           “ชั้นขอย้ำนะ คราวนี้ห้ามพลาด! ถ้าเจอนังสมหวังที่ไหนให้จัดการได้เลย และก็ระวังตัวให้มากๆ ด้วย”
       ทั้งคู่วางโทรศัพท์
       แดนมีสีหน้าเหี้ยมเกรียม และมุ่งมั่นว่าจะต้องจัดสมหวังให้สำเร็จ
     
       บ่ายวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่เคาะประตูห้องหมวดวันชาติ
           “เข้ามา”
       เจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้ามา
           “มีอะไรเหรอครับหมวด”
           “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ให้คนของเราไปคอยประกบคุณยอดชายอย่าให้คลาดสายตา … ผมสงสัยว่าคุณยอดชายต้องมีส่วนรู้เห็นในคดีฆ่าคุณนายศรีสมรแน่ๆ”
           “รับทราบครับ” เจ้าหน้าที่ทำความเคารพ แล้วเดินออกไป
       สีหน้าของหมวดวันชาติมั่นใจมาก และคิดว่ายอดชายอยู่เบื้องหลังคดีฆ่าคุณนายศรีสมรแน่นอน
     
       เช้าวันต่อมา ทุกคนกำลังเตรียมของขึ้นรถตู้ บาส กับ เจ๊เนาว์กำลังช่วยกันขนอุปการณ์การแสดงรวมถึงหน้ากากของสมหวังไปวางไว้ในรถ เจ๊จุ๊ง่วนอยู่กับกระเป๋าเครื่องสำอางที่หิ้วด้วยสองมือพะรุงพะรังมา ปอยฝ้ายกับสำลีเดินตัวปลิวเข้ามาพอดี
           “แกสองคนน่ะ มาช่วยชั้นถือหน่อยสิ ไม่มีความเป็นผู้ชายเลย” เจ๊จุ๊ว่า
           สำลีแขวะตามประสา “ตัวเจ๊ใหญ่กว่าผมสองคนรวมกันอีก จะต้องการคนช่วยอีกเหรอ”
       คู่หูตลกประจำวงหัวเราะ ขำๆ
           “ไม่ช่วยแล้วยังปากดี.. เดี๊ยะแม่ตบด้วยกระเป๋าเครื่องสำอาง” เจ๊จุ๊ด่า
       ทั้งสำลี และปอยจึงรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยเจ๊จุ๊ถือกระเป๋าเครื่องสำอาง
           “มาๆ ช่วยก็ได้” ปอยฝ้ายแถเข้าไปหา
           “ดีมาก … แบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย”
       ชูชนะกำลังสั่งการอยู่
       “อ้าว…เร็วๆ กันหน่อย เดี๋ยวต้องไปเตรียมตัวกันอีก”
       เจ๊เนาว์เอาชุดสมหวังแขวนไว้ที่หลังรถ หันกับมาพูดกับชูชนะ
           “ไม่ต้องรีบหรอกพ่อ ไปถึงก็ต้องรอทีมงานเค้าอีก”
           “ก็ข้าตื่นเต้นนี่หว่า…แล้วนี่ นังสมหวังล่ะ เตรียมตัวเสร็จหรือยัง”
           “สมหวังน่ะเสร็จแล้ว…แต่ชุดน่ะยังไม่เสร็จ!” เจ๊เนาว์เล่นลิ้น
           ชูชนะตกใจ “ห๊า อะไรนะ! ชุดยังไม่เสร็จ กูจะเป็นลม”
     
       กรรไกรคมกริบในมือสมหวัง ตัดขี้ด้ายจากชุดเป็นเส้นสุดท้าย!
           “เสร็จแล้ว” สมหวังยิ้มแป้น
       กุหลาบกับสายฟ้า ยิ้มดีใจ
           “เยี่ยมที่สุดเลยน้องพี่ เสร็จทันเวลาพอดี”
           “รีบไปกันเถอะ …คนอื่นคงรอแย่แล้ว”
            เวลาต่อมา สมหวัง กุหลาบ และสายฟ้า เดินถือชุดเข้ามาที่รถตู้ของวงซึ่งจอดรออยู่หน้าบ้าน
     
       เจ๊เนาว์เห็นรีบบอกชูชนะ “ไม่ต้องเป็นลมแล้วพ่อ…ชุดเสร็จแล้ว มากันนู่นแล้ว”
       ชูชนะหันไปมองค่อยโล่งใจหน่อย
       “พวกเอ็งนี่ชอบทำให้คนแกหัวใจจะวาย”
       บาสรีบแหลมเข้าไปช่วยสมหวังถือชุด
       “มา น้องสมหวังเดี๋ยวพี่ช่วยจ้ะ”
       บาสช่วยสมหวังยกชุดออกมาจากรถ เป็นชุดนางโจรสาว เข้ารูป หนังสีดำ ขาสั้นดูทันสมัยและทะมัดทะแมง พร้อมกับชุดแด๊นเซอร์ ที่ลักษณะเป็นหนังสีดำคล้ายกัน แต่รายละเอียดน้อยกว่า
       เจ๊เนาว์ดี๊ด๊าเข้าไปจับชุดอย่างชื่นชม
       “โห…ชุดสวยมากเลยสมหวัง…ฝีมือสมหวังนี่ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวังจริงๆ”
       เจ๊เนาว์ กะเจ๊จุ๊ กรูมาดูชุด
       “ใช่… สวยมาก ดูเข้ากันมาก” เจ๊จุ๊ยิ้มปลื้ม  
       ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจอยู่กับชุดสมหวังอยู่นั้น สำลีกับปอยฝ้ายเอากระเป๋าเครื่องสำอางมาวางในรถ สำลีเหลือบไปเห็นหน้ากากที่วางอยู่ตรงเบาะรถ
       “ไอ้ปอย…”
       สำลีเลิกคิ้วให้ปอยฝ้ายดูหน้ากาก ปอยฝ้ายมองไปที่หน้ากาก
       ปอยฝ้ายกระซิบ “แกจะเอาตอนนี้เลยเหรอวะ”
       “ก็เออสิวะ…ไม่เอาตอนนี้แล้วจะเอาตอนไหน โอกาสทองมาแล้วก็รีบๆคว้าไว้”
       ปอยฝ้ายมองหน้ากากอย่างลังเล
       สำลีคะยั้นคะยอ “หยิบมาสิวะ”
       ปอยฝ้อยปอดๆ “ชั้นไม่กล้า…แกมาหยิบเองซิ”
       “ปัดโธ่…ทำไมแค่นี้ไม่กล้าหยิบวะ”
       สำลีกำลังจะเข้าไปหยิบ
       เสียงสายฟ้าดังขัดขึ้น “พร้อมแล้วเราไปกันเถอะ”
       สำลีรีบหดมือ แล้วแถทำตัวปกติ
       ทุกคนเดินมาขึ้นรถตู้  
       ชูชนะเห็นสองสายสืบของจอมขวัญเข้า “อ้าว…ไอ้สำลี ไอ้ปอยยืนทำอะไรอยู่ล่ะ ขึ้นรถสิ”
       “ครับๆๆๆๆ”
       สำลีกะปอยฝ้ายประสานเสียง ออกอาการเซ็ง
       ทุกคนขึ้นรถเรียบร้อย รถแล่นออกจากบ้านไป
     
       แดนขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าตลาดพาหุรัด แดนมองซ้าย มองขวา อย่างระวังตัวแล้วเดินเข้าไปในตลาด
       แดนสอดส่ายสายตามองหา หวังว่าจะเจอสมหวังตามร้านผ้า มุมนั้น มุมนี้ อยู่สักครู่หนึ่ง
       เมื่อไม่เห็นวี่แวว แดนบ่นพึมพำ “จะบ้าหรือเปล่าจะให้ไปหาทุกที่ ร้อนก็ร้อน น้ำมันก็แพง”
       แดนเดินมาหยุดตรงบริเวณร้านขายน้ำดื่มที่แดนเคยเจอกับสมหวัง แดนสั่งน้ำ
       “น้ำเปล่าขวดนึง”
       แม่ค้าส่งน้ำให้แดน “ได้แล้วน้อง”
       แดนเปิดน้ำยืนดื่มอยู่บริเวณนั้น
       จังหวะนั้นแม่ค้าหันไปเปิดวิทยุฟังเพลง และมีสปอตโฆษณาคอนเสิร์ตพอดิบพอดี
       “คอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็ม อาทิตย์นี้ เอาใจแฟนเพลง จัดให้เต็มๆ กับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของเธอทั้งสองคน จอมขวัญ กตัญญู ปะทะ สมหวัง วทัญญู วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม นี้ พบกันเวลาบ่ายสี่โมงนะครับ”
       แม่ค้าฟังแล้วหันไปคุยกับลูกน้อง “อ้าว…วันนี้มีคอนเสิร์ตสมหวังปะมะจอมขวัญแล้วเหรอ?”
       “ใช่สิเจ๊…นั้นรีบๆ ปิดร้านเดี๋ยวกลับไปดูไม่ทัน” ลูกน้องว่า
       “นังนี่…อย่าหาเรื่องขี้เกียจ คอนเสิร์ตถ่ายทอดสดมีตั้งสี่โมงโน่น… ขายของเอาเงินไปก่อน”
       ลูกน้องบ่นอุบ “แหม…สมเป็นเจ้านายจริงๆ รู้ทันไปหมด”
       “บ่นอะไรยะ”
       ลูกน้องสะดุ้ง
       ลูกน้องแม่ค้ายิ้มแหยๆ “เปล่าจ้า”
       แดนดื่มน้ำเสร็จกำลังจะเดินออกจากร้าน ยินเสียงแม่ค้าคุยระรื่น
       “เออนี่...ชั้นจะให้ดูอะไร”
       ทันใดนั้น แม่ค้าก็หยิบรูปสมหวังที่มีลายเซ็นต์ออกมาจากลิ้นชักโชว์ลูกน้อง
       “วันนั้นเพื่อนชั้นตามสมหวังไปออกรายการวิทยุนี่แหละ และเค้าขอรูปกับลายเซ็นมาให้ชั้นด้วย”
       แดนเหลือบไปเห็นรูปสมหวังพอดี แดนถึงกับชะงัก!
       แดนถามเอากับแม่ค้า “เจ๊…นั่นรูปใครน่ะ”
       “สมหวัง วทัญญูไง นักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่ไฟแรง เสียงเพร๊าะเพราะ ถ้ายังไม่เคยเห็นนะเปิดทีวีดูสิ วันนี้เค้ามาออกคอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็ม”
       แดนพึมพำ “มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ …. มึงเสร็จกูแน่!”
       แดนยิ้มหน้าเหี้ยม แล้วเดินออกจากร้านไป
     
       เวลานั้นป้าชวนนั่งเย็บผ้า แล้วเปิดวิทยุฟังไปด้วย ป้าชวนได้ยินสปอตโฆษณาคอนเสิร์ตสมหวัง วทัญญูประชันกับจอมขวัญ กตัญญู หญิงชราพึมพำ
       “สมหวัง วทัญญู วันนี้ต้องดูหน้าซะหน่อย! ชื่อก็เหมือนหลานชั้น เสียงยังดันมาเหมือนกันอีก ดูสิว่าจะสวยสู้หลานชั้นได้หรือเปล่า”
     
       ทางด้านแดนหลบอยู่ในซอกตึกอับแห่งหนึ่ง โทรศัพท์คุยกับยอดชาย
       “ผมรู้แล้วว่ามันอยู่ไหน”
       ยอดชายตาโตด้วยความดีใจ
       “จริงเหรอ แล้วมันอยู่ไหน…แกจัดการมันไปหรือยัง”
       “ยังครับ…แต่เย็นนี้มันไม่รอดแน่”
       “แกจะไปจัดการมันที่ไหน”
       “มันได้เป็นนักร้องลูกทุ่ง แล้ววันนี้มันจะขึ้นคอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็ม แล้วออกทีวีด้วย ผมจะไปจัดการมันถึงที่เลย! คุณเปิดทีวีรอดูได้เลย” แดนบอก
       ยอดชายแปลกใจปนตกใจ!
       “มันจะไปเป็นนักร้องได้ไง? มันเป็นพยานในคดีนี้อยู่ แล้วไอ้หมวดนั่นมันก็เอาไปซ่อนไว้ มันไม่ปล่อยให้นังสมหวังมาเป็นนักร้องเด็ดขาด! แกไปเอามาจากไหน”
       “ผมเห็นรูปมันมากับตา แม่ค้าในตลาดมันก็ยืนยันว่านังสมหวังมันเป็นนักร้อง แล้วเมื่อกี้ก็มีโฆษณาว่ามันจะขึ้นคอนเสิร์ตเย็นนี้ด้วย” แดนบอกอย่างมั่นใจ
       ยอดชายยังสับสน “แกตาฝาดหรือเปล่า”
       “ไม่ฝาด…ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณรอดูฝีมือผมในทีวีได้เลย”
       ยอดชายนึกอะไรขึ้นได้
       “เฮ้ย! ไม่ได้ แกจะฆ่ามันออกทีวีได้ยังไง ขืนแกทำแบบนั้นมีหวังโดนลากเข้าตารางตรงนั้นแน่ๆ”
       แดนขัดใจ “แล้วจะให้ผมทำยังไง เหยื่อมาถึงปากแล้วคุณก็ไม่ให้ผมจัดการ แล้วมาบ่นหาว่าผมทำงานพลาด!”
       “แกอยู่เฉยๆ ไว้ก่อน…ชั้นขอดูทีวีเย็นนี้ให้แน่ใจก่อนว่าใช่นังสมจริงๆ หรือเปล่า! แล้วค่อยว่ากันทีหลัง”
     
        ยอดชายกำชับก่อนจะวางสายไปด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด
          ทุกคนมาถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ตตอนเย็นๆ บริเวณเวทีจัดคอนเสิร์ต มีป้าย คอนเสิร์ตลูกทุ่งเอฟเอ็มเด่นหรา ส่วนหลังเวทีเต็มไปด้วยความวุ่นวายของคนที่กำลังเตรียมตัวขึ้นเวที เจ๊จุ๊กำลังแต่งหน้าให้สมหวังอยู่มุมหนึ่ง
     
       สายฟ้ายืนอยู่แถวนั้นแอบมองสมหวังแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างชื่นชมความน่ารัก พอสมหวังหันมามอง สายฟ้าก็รีบหลบสายตาทันที
       เจ๊จุ๊แต่งหน้าสมหวังเสร็จ วางแปรงลงแล้วมองดูฝีมือตัวเองอย่างชื่นชม
       “จุ๊ จุ๊ จุ๊…มันสวยเว๊ย ฝีมือใครว๊า”
       เจ๊เนาว์กำลังเตรียมชุดอยู่บริเวณนั้น
       “มันไม่ใช่ฝีมือแกหรอกยะ…หนังหน้าเค้าดีอยู่แล้ว…ชมฝีมือได้ทุกครั้งจริงๆ นังนี่ แต่งใครก็เห็นว่าสวยทุกคน ลองไปแต่งให้ปลวกสิ ดูสิมันจะสวยมั้ย”
       “แต่งให้ปลวกใช่มั้ย”
       ว่าพลางเจ๊จุ๊ลุกขึ้นทำเป็นไปปัดหน้าให้เจ๊เนาว์
       “นี่ไง…กำลังแต่งให้อยู่ ไปส่องกระจกสิว่าสวยหรือเปล่า”
       สายฟ้า กับสมหวังพาขำไปด้วย
       เจ๊เนาว์กรี๊ด “ว๊ายนังนี่….ด่าชั้นปลวกเหรอ”
       “เปล่านะ…ก็แกด่าตัวเองอยู่เมื่อกี้เนี้ย!”
       “ต๊ายปากคอเราะร้าย เดี๊ยตบไขมันกระเด็นเลย”
       ระหว่างที่หัวเราะกันอยู่ เจ๊จุ๊จับสังเกตได้ว่าสายฟ้าแอบมองสมหวังตลอดเวลา เจ๊จุ๊เลยหาพูดหยอกสายฟ้า
       “น้องสายฟ้า เป็นไงบ้างสมหวังสวยมั้ย”
       สายฟ้าชะงัก เขินๆ ตั้งตัวไม่ทัน ทำหน้าไม่ถูก สมหวัง กะเจ๊จุ๊ รอคำตอบ
       สายฟ้าอึกอัก พูดยิ้มๆ “สวยดี”
       สมหวังได้ยินก็รู้สึกเขินหน้าแดง โดยที่ไม่รู้ตัว
       “ลองไปสวมชุดนะสมหวัง”
       เจ๊เนาว์ยื่นชุดให้ สมหวังรับชุดแล้วเดินออกไปเปลี่ยน
       ครู่หนึ่ง ผู้กับรายการเดินเข้ามา ถามหา
       “คุณสมหวังล่ะครับ”
       “แต่งตัวอยู่ครับ…มีอะไรหรือเปล่าครับ” สายฟ้าบอก
       “ผมจะมาบอกคิวคุณสมหวังน่ะครับ”
       สมหวังสวมชุดเสร็จเดินออกมา
       “มาพอดีเลยครับ…” สายฟ้าหันไปทางสมหวัง “มาฟังคิวของเธอว่าต้องทำยังไงบ้าง”
       “คิวของคุณสมหวังต่อจากคุณจอมขวัญนะครับ…คิวก็ไม่มีอะไรมาก พอถึงเวลามีคนมาตามแล้ว คุณสมหวังก็ออกไป สแตนด์บายที่ข้างเวที พอเอ็มซีประกาศจบ ดนตรีขึ้นอินโทร คุณสมหวังก็ออกไป”
       สมหวังพยักหน้ารับ
       ผู้กับรายการ อธิบายต่อ “ส่วนคิวกล้องก็ไม่มีอะไรมากเช่นกัน กล้องมี 5 ตัว มี มูฟวิ่งแคม มีดอลลี่ มี
       เครน คุณสมหวังก็ต้องคอยดูไฟแดงตรงหน้ากล้อง แสดงว่าไอ้กล้องตัวนั้นกำลังถ่ายอยู่ คุณสมหวังก็ต้องหันมาเล่นมายิ้มกับกล้อง ถ้าไดไอซ์มันมากคุณสมหวังจะเอ้าท์โฟกัส คุณพยายามออกมาข้างหน้าเวที กล้องจะได้เห็น ตามนี้นะครับ”
       “ค่ะ” สมหวังพยักหน้ารับอย่างงงๆ เพราะต้องจำคิวเยอะเหลือเกิน ไหนจะตื่นเต้นอีก
       สายฟ้ามองสมหวังแล้วรู้สึกเป็นห่วง
       “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
       ผู้กับรายการเดินออกไป สมหวังหน้ามึนตึ๊บ เกาหัวยิกๆ
       สายฟ้าเข้ามาพูดให้กำลังใจสมหวัง
       “เป็นอะไร…งงล่ะสิ”
       “คิวเยอะขนาดนั้นใครจะไปจำได้”
       สายฟ้าจับแขนสมหวัง
       “ไม่ต้องห่วงนะ ใจเย็นๆ ไม่ต้องตื่นเต้น ก็เหมือนทุกครั้งนึกว่าเรากำลังซ้อมกันอยู่ก็แล้วกัน ชั้นและทุกๆคนจะคอยเป็นกำลังใจให้”
       สมหวังจ้องสายฟ้า แล้วรู้สึกอุ่นใจ ยิ้มออกทันที และรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
     
       ตรงมุมลับตาหลังเวที จอมขวัญชะเง้อเหมือนรอใครอยู่ สักครู่หนึ่ง ปอยฝ้ายกับสำลีก็เดินเข้ามา
       “เป็นไงบ้าง…ได้หน้ากากมามั้ย”
       “ยังเลย” ปอยฝ้ายบอก
       จอมขวัญเซ็ง “อะไรกัน…ทำงานกันสองคน หน้ากากแค่นี้ยังเอามาไม่ได้อีกเหรอ”
       “พวกชั้นพยายามแล้ว แต่มันหาจังหวะไม่ได้ คนเต็มไปหมด”
       จอมขวัญควักเงินออกมาอีกปึกหนึ่ง ปอยฝ้าย กับสำลี จ้องเงินกลืนน้ำลายอยากได้มาก
       “ไม่อยากได้ใช่มั้ยเงินนี่”
       ปอยฝ้ายกะสำลีประสานเสียง “อยากได้สิ”
       “อยากได้ก็ไปเอาหน้ากากมาให้ได้”
       “เดี๋ยวก่อนมันขึ้นเวที ชั้นจะลองอีกครั้ง” สำลีรับปาก
       “รีบไปเอามาให้ได้เลย”
       ปอยฝ้ายกะสำลีวิ่งจู๊ดออกไป
     
       เฮียตี๋เดินพล่านสีหน้ากังวล โทร.หาจอมขวัญมือเป็นระวิง ผู้กำกับรายการเดินเข้ามาอย่างหงุดหงิด
       “เฮีย…ถึงคิวจอมขวัญแล้วนะ”
       “แป๊ปนึงนะ…ผมตามให้อยู่”
       เฮียตี๋ยิ่งเครียดมากขึ้น ระหว่างนั้นจอมขวัญเดินนวยนาดเข้ามาพอดี
       “ใจเย็นๆสิคะ…มาแล้วค่ะ”
       เฮียตี๋โล่งใจ
       “มาแล้วก็เตรียมตัวเลยครับ…ใกล้ถึงเวลาออกอากาศแล้ว”
       ทีมเสื้อผ้า ช่างผม กรูกันเข้ามารุมจอมขวัญ จอมขวัญมีสีหน้าสมใจที่แผนกระชากหน้าสมหวังกำลังจะสำเร็จ!
     
       เสียงพิธีกรประกาศดังขึ้นที่หน้าเวที “ต่อไปนี้ขอเชิญท่านพบกับน้องร้องสาวพราวเสน่ห์ จอมขวัญ กตัญญู”
     
       เสียงกรี๊ดของคนดูดังสนั่น  พร้อมๆ กับเสียงดนตรีดังกระหึ่ม จอมขวัญกับแดนเซอร์ เฉิดฉายออกมา จอมขวัญร้องเพลงลูกทุ่งสุดฮิต จังหวะแดนซ์สนุกสนานอย่างจับตาจับใจ
         ยอดชายดูทีวีอย่างหงุดหงิดอยู่ที่บ้าน พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับแดนไปด้วย
     
       “คนไหนของแกวะ…นังนี่มันไม่ใช่นี่”
       แดนเองก็ดูทีวีอยู่ด้วยเหมือนกัน
       “ไม่ใช่คนนี้”
       “แล้วมันคนไหน”
       “ดูไปก่อนครับ ผมว่าคนต่อไป”
     
       ป้าชวนอยู่ในชุดเต้นแอโรบิค กำลังเต้นออกกำลังกาย พร้อมดูทีวีไปด้วย ป้าชวนจ้องทีวี เห็นจอมขวัญเล่นคอนเสิร์ตอยู่

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 9 วันที่ 5 ต.ค. 55
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th