อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 2 วันที่ 15 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 2 วันที่ 15 ก.ย. 55

วงเราจะได้มีโชว์อะไรใหม่ๆ สถานการณ์วงน่าจะดีขึ้นมาบ้าง”
บาสยิ้มร่า “ยินดีครับพี่”
สายฟ้ากอดคอบาส กำลังจะเดินเข้าประตู บาสรั้งสายฟ้าไว้
“เออ พี่…แล้วผู้หญิงตัวเล็ก เสียงเหน่อๆ เมื่อกี้เป็นใคร”
“ชื่อสมหวัง เป็นช่างตัดชุดที่พ่อเพิ่งรับเข้ามาวันนี้ ยัยนั่นอ่ะตัวแสบเลย” สายฟ้าพูดอย่างหมั่นไส้
บาสยิ้มกริ่ม “น่ารักออกพี่ ผมว่ายัยกุหลาบอะไรนั่นมากกว่าที่แสบ…อัดผมซะน่วมเลย”
“แกไม่ต้องสนใจอะไรมากหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ยัยสองคนนั่นก็ไม่อยู่ให้เรารำคาญกันแล้ว” สายฟ้าบอก

“อ้าว!... ทำไมล่ะพี่?” บาสแปลกใจระคนสงสัย
รุ่งเช้าวันต่อมา ยินเสียงตำพริกดังโป๊กๆ ขึ้นในโรงครัว พร้อมกับเสียงใครคนหนึ่งร้องเพลงตามวิทยุอยู่ เป็นเพลงสนุกสนานจังหวะมันส์ๆ โจ๊ะๆ เนื้อหาเกี่ยวกับสาวโสดอยากมีแฟน

ภายในครัวของบ้านพักวงดนตรียามนั้น เจ๊จุ๊ ช่างแต่งหน้าซึ่งรวบตึงตำแหน่งแม่ครัวประจำวง สาวใหญ่ร่างอวบที่แต่งหน้าและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเจ็บ และฉูดฉาดอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว กำลังทำกับข้าวและร้องเพลงอย่างมีความสุข
จังหวะนั้นเจ๊เนาว์กำลังจะเข้ามาในครัว ได้ยินเสียงเจ๊จุ๊กำลังครวญเพลง ด้วยอารมณ์บรรเจิด เจ๊เนาว์ก็หยุดกึก ออกสเต็ปวาดลวดลายสะดีดสะดิ้งตามอยู่ตรงหน้าประตู โดยที่เจ๊จุ๊ยังไม่เห็น
และบังเอิญว่าระหว่างนั้น เจ๊จุ๊จะเอาน้ำล้างผักมาเททิ้ง พอหันมาเห็นเจ๊เนาว์เต้นอยู่หน้าประตูก็ตกใจ! สาดน้ำใส่เจ๊เนาว์เข้าเต็มๆ!
เจ๊เนาว์กรี๊ดด้วยความโมโห “ว๊ายยย อีจุ๊! เอาน้ำมาสาดชั้นทำไม”
“อีเจ๊! มาทำไม่ให้ซุ่มให้เสียงเล่า มาเต้นยึกยือๆ อยู่หน้าประตู ก็นึกว่าผีน่ะสิ” เจ๊จุ๊บอก
“ผีอะไรจะสวยอะไรขนาดนนี้ยะ…ดูสิเปียกหมดเลย”
“มีอะไรเจ๊” เจ๊จุ๊เปลี่ยนเรื่อง
“จะมาเตือนว่าอย่าลืมทำกับข้าวเผื่อสองคนที่มาใหม่ด้วยนะ” เจ๊เนาว์บอก
“ไม่ลืมหรอก….เออ แล้วเป็นไงบ้างอ่ะเจ๊ สองคนนั้นได้ทำงานต่อหรือเปล่า”
“ไม่รู้…รอดูวันนี้”
เจ๊จุ๊งง “ทำไมต้องรอดูวันนี้ล่ะ”
“เห็นสายฟ้าบอกยังงั้น…เอาเหอะเรื่องของเค้าเราไม่เกี่ยว”

ที่เรือนพักคนงานและลูกวงเช้าวันเดียวกัน สำลีเดินมาเคาะประตูลูกวงตามทางเดิน
“ตื่นได้แล้ว ทำงานได้แล้ว”
ระหว่างนั้นสายฟ้าเดินเข้ามาหาสำลีชี้ห้องสมหวังกับกุหลาบ “ใช่ห้องสองคนที่มาใหม่หรือเปล่า”
“ใช่…ทำไมเหรอพี่สายฟ้า”
สายฟ้ายิ้มกริ่ม อย่างมีแผน “ปอยฝ้ายมานี่”
สายฟ้าเรียกปอยฝ้ายมากระซิบบางอย่าง ปอยฝ้ายยิ้มแหยๆ พลางถาม
“จะดีเหรอพี่!”
“เอาน่า…ไปได้แล้ว” สายฟ้าว่า
ปอยฝ้ายเดินออกไป

ที่หน้าห้องพักของสมหวังกับกุหลาบเวลาต่อมา สายฟ้าตบมือเพื่อเป็นสัญญาณ ปอยฝ้าย เป่าทรัมเป็ต เสียงแปร๋นขึ้นมาคนแรก จากนั้นทั้งกลอง ฉิ่ง ฉาบ ร่วมบรรเลงดังลั่น พร้อมสำลีร้องเพลงอย่างกวนอารมณ์ อยู่หน้าห้องสมหวัง
ส่วนในห้อง สมหวังกำลังนอนคลุมโปงอยู่ พอได้ยินเสียงเพลงก็เปิดผ้าออก
“ใครมาเล่นดนตรีแต่เช้าเนี่ย”
สมหวังงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อออกไปดู
สมหวังกับกุหลาบ เปิดประตูหน้าบูดออกมา
“นี่ๆ อะไรกัน…หยุดได้แล้ว” สมหวังบอกอย่างฉุนเฉียว
สายฟ้ายิ้มเย้ย
สมหวังโมโห “ที่นี่เค้าปลุกคนงานกันแบบนี้เหรอ”
“ใช่ วิธีการปลุกของที่นี่...และโทษฐานที่เธอให้ชั้นไปรอที่ห้องเก็บชุดเกือบยี่สิบนาทีแล้ว! ชั้นนัดกี่โมง ดูนาฬิกาสิว่านี่มันกี่โมงแล้ว”
สมหวังหันกลับไปมองนาฬิกา เห็นว่าเพิ่ง 7โมงเช้าเอง
“นี่มันเพิ่งเจ็ดโมงเอง”
“ก็เจ็ดโมงไง…คนที่นี่เค้าตื่นกันแต่ตีห้าไม่รู้หรือไง หกโมงเค้าเริ่มทำงานกันแล้ว” สายฟ้ากวน
“นี่มันวงดนตรีลูกทุ่งหรือค่ายทหารห๊ะ ชั้นว่าทำงานแปดโมงมันก็ยังเช้าไปด้วยซ้ำ นี่อะไรทำตั้งแต่หกโมง” สมหวังยัวะ
“อย่าบ่นมาก…รีบแต่งตัวแล้วไปเจอชั้นข้างบน ให้เวลายี่สิบนาที” สายฟ้าสั่ง

ไม่นานนัก สายฟ้าเดินยิ้มสะใจออกมาหน้าห้องเก็บชุดแดนเซอร์
เจ๊เนาว์ครวญ “จะไหวเหรอ ชุดมันตั้งเยอะนะนั่น”
“ไม่ไหวสิดี จะได้ออกไปเลย” สายฟ้าบอก
บาสเดินผ่านมาได้ยินก็สงสัย “ใครจะออกไปไหนพี่สายฟ้า”
“ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปสนใจเลย”
“อย่าบอกนะ ที่พี่พูดเมื่อคืนว่าน้องสมหวังเค้าจะไม่ได้อยู่ที่แล้ว เพราะพี่จะไล่เค้าออกใช่มั้ย” บาสซัก
“ชั้นไม่ได้ไล่ แต่มันก็ต้องผ่านบททดสอบอะไรบางอย่างก่อน ถ้าไม่ผ่าน ก็ต้องออกไป” สายฟ้าบอก
“ทำไมพี่ใจร้ายแบบนี้ สมหวังเค้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าสงสารจะตาย พี่ให้เค้าทำอะไร เดี๋ยวผมจะไปช่วยเค้าเอง” บาสด่าเอา
“หยุดเลยไอ้บาส แกไม่ต้องไปยุ่ง! งานของแกจะเริ่มทำเมื่อไหร่ รีบไปทำเลยดีกว่า”

ท่วงทำนองเพลงจังหวะสนุกครื้นเครงดังไปทั่วทั้งห้องเก็บชุด สองสาวเริ่มลงมือช่วยกัน แยกชุดออกมา
กุหลาบลองเอาชุดแดนเซอร์มาลองใส่เล่น สมหวังทำตามบ้างใส่ชุดสวยๆ ทำท่าเป็นนักร้อง...แล้วนั่งลงไปซ่อมชุดต่อ
นาฬิกาบอกเวลาว่าผ่านไปเป็น 11 โมงแล้ว กองผ้าที่ยังไม่ได้ซ่อม เหลือเพียงนิดเดียว
สมหวังยังคงนั่งทำขะมักเขม้น แต่กุหลาบงีบหลับไปแล้ว

เจ๊จุ๊ จัดเตรียมอาหารเที่ยงอยู่ในครัว สายฟ้ากะบาสเดินเข้ามา โดยสายฟ้าแอบย่องเข้ามากอดเจ๊จุ๊
เจ๊จุ๊ตกใจร้อง “อุ้ย” หันมาเห็นเป็นสายฟ้า
“แหม…สายฟ้าเล่นแบบนี้ เจ๊คิดนะ”
“บอกแล้วอย่าเล่นแบบนี้พี่สายฟ้าเดี๋ยวผีผลัก” บาสกัดขำๆ
เจ๊จุ๊มองบาสท่าทีโลมเลีย ยั่วยวน “ปากคอเราะร้ายนะ…เจ๊บอกไว้ก่อนเด็กๆ เจ๊ก็ไม่ปล่อยนะบาส
บาสรีบเอามือป้องทุกส่วนของร่างกายพัลวัน “ชะอุ่ย..สยิว”
สายฟ้าขำๆ ก่อนจะถาม “หอมจังเลยเจ๊ วันนี้ทำอะไรกินเนี่ย”
“ผักบุ้งหมูกรอบ”
“โหน่ากินจัง” บาสยิ้ม
“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยเจ๊” สายฟ้าถาม
“ไม่เป็นไร ใกล้เสร็จแล้ว…เมื่อวานได้ยินว่าถูกคนงานใหม่เล่นงานเอาเหรอจ๊ะ”
“อย่าพูดถึงดีกว่าเจ๊ ตัวเล็กจี๊ดเดียวแต่ด่าได้เป็นปืนกลเลย ผมงี้หน้าชาไปหมด” สายฟ้าเม้าท์
บาสติอีก ที่สายฟ้าว่าสมหวัง “พี่ก็เว่อร์ไป สมหวังเค้าน่ารักจะตาย แต่อีกคนน่ะสิใช้ไม่ได้เลยเจ๊เจอกันวันแรกก็อัดผมซะน่วมเลย” ลงท้ายด้วยการเม้าท์กุหลาบซะเอง
“เอ่อ เจ๊…ทำกับข้าวเผื่อสองคนอีกแค่มื้อเดียวพอนะ” สายฟ้าบอกอย่างมั่นใจ
เจ๊จุ๊งง “อ้าว ทำไมล่ะ!”
“ถ้าก่อนเที่ยงวันนี้ไม่ผ่านการทดสอบ ก็ต้องออกอย่างเดียว” สายฟ้ายิ้มกริ่ม
“จะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ คนเค้าลำบากมาขอที่พึ่งนะ” เจ๊จุ๊ว่า
บาสเห็นด้วย “ใช่เจ๊! พี่สายฟ้าใจร้ายมาก คิดจะไล่ได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ”
“นั่นน่ะสิสายฟ้า ไล่ไปแล้วเค้าจะไปอยู่ไหนล่ะนั่น” เจ๊จุ๊ปรารภ
“ผมไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้นนะเจ๊ คนเพิ่มมาอีกตั้งสองคน เจ๊ก็รู้ว่าวงเรากำลังจะแย่ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ วงเราก็ต้องลำบากไปกว่านี้อีก”

ที่ห้องเก็บชุดแดนเซอร์ นาฬิกาบอกเวลา เที่ยงตรง สายฟ้า เจ๊เนาว์ และบาสเดินมาหน้าห้องเก็บชุด
งง ที่เห็นห้องปิดสนิท
“ทำไมห้องปิดเงียบแบบนี้ล่ะ”
บาสบอกเสียงเศร้า “โธ่...หรือว่าน้องสมหวังหนีออกจากบ้านไปแล้ว”
“ชั้นก็ว่าอยู่ สงสัยจะยอมแพ้ไปแล้ว” สายฟ้าหยัน
“ไม่ต้องพูดเลย พี่มันใจร้าย”
ทั้งlสามเปิดประตูเข้ามาในห้อง สายฟ้าต้องตะลึง เมื่อชุดถูกซ่อมเรียบร้อย และแขวนเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ
เจ๊เนาว์อึ้ง ทึ่ง “ไม่น่าเชื่อ”
บาสยิ้มร่า “เห็นมั้ยล่ะ น้องสมหวังของชั้นทำได้”
สายฟ้าไม่ยอมแพ้ “ต้องตรวจงานก่อน ถ้าไม่เรียบร้อยก็ไม่ผ่านการทดสอบอยู่ดี”
สายฟ้าเดินเข้าไปจับๆ ชุด แล้วก็ต้องทึ่ง เมื่อแต่ละชุดซ่อมแซมอย่างดี

ทุกคนกำลังล้อมวงกินข้าว อยู่ที่โรงครัว ต่างกำลังหัวเราะเฮฮา
ปอยฝ้ายที่งสมหวังสุดๆ “เธอนี่สุดยอด กล้าต่อปากต่อคำกับพี่สายฟ้า ชั้นขอคาราวะ”
“ทำไมหรอ ปกติดุมากนักเหรอ” สมหวังถาม
“ใครโดนด่านะ ขี้หูกระพือ” ปอยฝ้ายบรรยายสรรพคุณจนเห็นภาพ
เจ๊จุ๊ปราม “แกก็เวอร์เกินไป ไม่มีใครดีเท่าสายฟ้าแล้ว”
สำลีเสริม “ใจดีกว่ายักษ์นิดเดียว”
สายฟ้าเดินมาได้ยินพอดี “อยากโดนนยักษ์กระทืบมั้ยไอ้สำลี”
สำลีสะดุ้ง เสียงสั่น “อย่าทำหนูเยย...หนูอ่อนแอ”
สมหวังถาม “ชุดที่ซ่อมไว้ พอใช้ได้มั้ย”
กุหลาบเสริม “อึ้งในฝีมือไปเลยน่ะสิ”
สายฟ้าทำไก๋ “ก็งั้นๆ เอาเป็นว่าผ่าน”
ทุกคนเฮดีใจกับสมหวังและกุหลาบ
“เก่งมากเลยจ้ะ..น้องสมหวัง” บาสยิ้มหน้าบาน
“ใครน้องนายห๊ะ…สมหวังเป็นน้องชั้น” กุหลาบแว๊ด
บาสเสียฟอร์ม “ชั้นเป็นคนมารยาทดี..น้องสมหวังเค้าอายุน้อยกว่าชั้น ชั้นเรียกว่าน้องมันผิดตรงไหน” หันมาจ๊ะจ๋ากับสมหวัง “จริงมั้ยจ๊ะน้องสมหวัง”
สมหวังยิ้มตอบ แต่หุบยิ้มแทบไม่ทัน

“กินข้าวเสร็จแล้วตามไปหาชั้นด้วย เราจะเริ่มงานกันวันนี้เลย” สายฟ้าสั่งเสียงเข้ม
ในเวลาต่อมา สมหวังนั่งหน้าหงิกอยู่ตรงลานซักผ้า สายฟ้ากำลังสั่งงานอยู่

“งานวันนี้ก็คือ ซักชุดหางเครื่องที่จะต้องไปออกงานให้เรียบร้อย”
ชุดหางเครื่องกองโต วางอยู่บนพื้น
“อะไรเนี่ย!...ทนไม่ไหวแล้วนะ!...จะแกล้งกันไปถึงไหน!” สมหวังฉุน
“ใจเย็นสมหวัง ไหนๆ ก็ได้ทำงานที่นี่แล้ว เค้ามันเจ้าของวง รามันลูกจ้าง ไปสู้รบปรบมือกับเค้าก็เสียเปรียบเปล่าๆ เค้าจะแกล้งก็ปล่อยให้เค้าแกล้งไป เดี๋ยวเบื่อเมื่อไหร่ เค้าก็เลิกแกล้งไปเองแหละ” กุหลาบปราม
“ชั้นไม่ยอม” สมหวังฮึดฮัด
“ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไป” สายฟ้าเสียงดัง
บาสปรามสายฟ้า “พอเถอะพี่สายฟ้า” หันมาหวานใส่สมหวัง “น้องสมหวังไม่เป็นไรนะเดี๋ยวพี่ช่วย”
กุหลาบไม่พอใจ “ไม่ต้องยุ่ง…พวกชั้นทำได้”
บาสแยกเขี้ยวใส่กุหลาบ
“บาส แกไปทำงานของแกเถอะไป ตรงนี้ชั้นจัดการเอง” สายฟ้าบอก
“ยังไงก็ขอบใจนะพี่บาส คนมีน้ำใจกับคนแล้งน้ำใจมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด!
บาสมองสมหวังแล้วยิ้มกริ่ม ที่สมหวังชม
“งานแรก ตั้งใจทำกันหน่อย ซักเสร็จแล้วก็ไปตากให้ด้วย และถ้าไม่เสร็จนะเธอต้องทำงานให้ชั้นฟรีสามเดือน เข้าใจมั้ย!”
สมหวังนิ่ง
สายฟ้าย้ำ “ชั้นถามว่าเข้าใจมั้ย”
สมหวังสะบัดเสียง “เข้าใจ”
สายฟ้าเดินขำๆ ออกไป

ส่วนชูชนะกำลังโปรยข้าวเลี้ยงไก่โต้งลานหน้าบ้าน เห็นสายฟ้าเดินหัวเราะอย่างสะใจ
“หัวเราะอะไรของเอ็งวะไอ้สายฟ้า”
สายฟ้ายิ้มอยู่อย่างนั้น บอก “ไม่มีเหตุผล”
สายฟ้ายักคิ้วให้แล้วเดินยิ้มกริ่มจากไป...ชูชนะมองตามอย่างงๆ
“อะไรของมันวะ ไอ้ลูกคนนี้”

สมหวังกับกุหลาบเริ่ม ซักชุดแดนเซอร์ “ไม่นึกเลยว่าชีวิตต้องมาทำอะไรแบบนี้”
กุหลาบปลอบ “อดทนไว้”

ส่วนลานซ้อมเต้นข้างๆ ปอยฝ้ายและนักดนตรีกำลังซ้อมเพลงกันอยู่ สมหวังได้ยินเสียงดนตรี จึงร้องเพลง “อย่างนี้มันต้องขยี้” คลอไปกับดนตรี เป็นทำนองเพลงสนุกสนาน เนื้อเพลงว่ากระทบสายฟ้า
ครู่หนึ่งแดนเซอร์ หลายคน ก็เอาผ้ามาซักด้วย สมหวังเหลือไปเห็นสายฟ้าเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน
สมหวังตั้งใจร้องเพลงให้ดังขึ้น วงดนตรีเห็นสมหวังร้องเพลงได้จึงเล่นดนตรีให้สมหวังร้อง สมหวังร้องเพลง “อย่างนี้มันต้องขยี้” ด่ากระทบสายฟ้าอย่างสะใจ
กุหลาบกับแดนเซอร์ก็ลุกขึ้นมาเต้นเป็นหางเครื่องให้ ขนาดชูชนะที่อยู่ใกล้ๆ ก็พลอยขยับแข้งขยับขาตามไปด้วย

เช่นเดียวกับเจ๊เนาว์กำลังนั่งทำงานอยู่ก็โยกตัวตามจังหวะเพลง บาสเองดูเทปการแสดงอยู่ที่โซฟา ได้ยินเสียงสมหวังก็ลุกพรวดออกไปดู
“สมหวังนี่ก็เสียงดีเหมือนกันนะ” เจ๊เนาว์ชม
“ร้องด่าผมชัดๆ”
พูดไม่ทันขาดคำสายฟ้าก็เดินออกมายืนมองสมหวัง คิ้วขมวดอยู่หน้าบ้าน!

สมหวังยังคงร้องเพลงยั่วอย่างได้อารมณ์ ยิ่งเห็นสายฟ้าออกมายืนมองอยู่ก็ยิ่งร้องยั่ว สายฟ้ามองตาเขียว เข่นเขี้ยวอยู่หน้าบ้าน
บาสเต้นตามสมหวังอยู่ข้างๆ สายฟ้า พอสายฟ้าหันไปมอง บาสก็ชะงัก!
แดนเซอร์หันไปเห็นสายฟ้า พากันแว๊บหายไปทีละคนสองคน กุหลาบรีบสะกิดเตือนแต่สมหวังไม่ฟัง และร้องดังกว่าเดิม กุหลาบเกาหัวยิกๆ แล้วทำเป็นนั่งซักผ้าเหมือนเดิม
นักดนตรี เริ่มหยุดตี หยุดเป่า เสียงกระปอดกระแปด จนเงียบสนิท
สมหวังหันกลับมาไม่เห็นมีใครแล้ว แถมสายฟ้าก็มองไม่ละสายตา สมหวังเริ่มหวั่นๆ และร้องเบาลงเรื่อยๆ ก่อนที่จะหยุดร้อง แล้วนั่งลงซักผ้าต่อ

ด้านชูชนะซึ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟารับแขก เงยหน้าขึ้นมองเมื่อ...เจ๊เนาว์นำเสี่ย “เจ้าภาพงานต่อไป” เข้ามา
“อ้าว เสี่ยชัย…สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนครับ”
“หวัดดีๆ” เสี่ยชัยทักทายกลับ ชูชนะกุลีกุจอขึ้นต้อนรับ เสี่ยนั่งลงที่โซฟา
“แหม่…วันนี้มาเองเลยเหรอครับ”
“มาติดต่อจอมขวัญ ก็ต้องมาเองซิ…จะได้ตกลงกันว่าจะเล่นกี่เพลง”
“แล้วจะติดต่อจอมขวัญไปเล่นงานไหนล่ะครับวันนี้” ชูชนะถาม
“งานกาชาดจังหวัด”
ชูชนะหันไปบอกสายฟ้าที่นั่งงานอยู่ที่โต๊ะ
“สายฟ้าโทร.ถามจอมขวัญสิลูก ว่าอยู่ไหนแล้ว”
“ครับพ่อ...” สายฟ้าหันไปต่อโทรศัพท์
สำลีเดินเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟ
ชูชนะบอก “ดื่มน้ำก่อนนะครับ จะได้ใจเย็น ๆ เดี๋ยวจอมขวัญก็มา”
เสี่ยชัยดื่มน้ำนั่งรอ
โทรศัพท์มือถือจอมขวัญดัง แต่มีมือชุ่มเหงื่อข้างหนึ่งเอื้อมมากดปิดเสียงเงียบลง...จากนั้นมีแต่เสียงออดอ้อน สองแง่สามง่าม เหมือนคนกำลังมีอะไรกันในรถ
“ออกเหรอยัง...” เสียงผู้ชายถาม
“ยังค่ะ มันติดไม่ถนัด” สาวเจ้าตอบ
“ออกแรงอีกหน่อยซิ”
สาวเจ้าร้องขึ้นพร้อมกับเสียงดังกุกกัก รถไหว “ฮ้า อุ้ย อ้า” ถอนใจยาว “ออกซะที”
ที่แท้ในรถ...จอมขวัญนั่งอยู่ข้างๆ เฮียตี๋ และเพิ่งจะปลดเข็มขัดนิรภัยซึ่งฝืดออกได้สำเร็จ
“รถเฮียนะชอบเป็นแบบนี้ทุกที” จอมขวัญบ่น
“แล้วเมื่อกี้โทรศัพท์ใคร” เฮียตี๋สงสัย
“ที่วงนั่นแหละ โทร.มาตาม”
“แล้วหนูจะไปแล้วเหรอ” เฮียตี๋อ้อนไม่ให้ จอมขวัญไป “อย่าเพิ่งไปสิ”
จอมขวัญเลยไม่ไป “ช่างเค้า…ให้รอกันซะบ้าง ทีเวลาอยู่ไม่เคยสนใจ ทีนี้จะมาเร่งชิ! ว่าแต่เฮียให้หนูอยู่ เฮียมีอะไรเหรอ”
“ปิดประตูก่อนสิแล้วเฮียจะบอก”
“แหม..เอะอะก็บอกว่าจะมาคุยเรื่องทำเพลงให้หนู สุดท้ายก็เอยแบบนี้ทุกที” จอมขวัญกระเง้ากระงอด
“แหมหนู จะทำเพลงออกขายทั้งที มันก็ต้องลองเสียงกันหน่อยว่าเสียงยังดีอยู่หรือเปล่า”
“แล้วเป็นยังล่ะคะ…เสียงยังโอเค.หรือเปล่า”
เฮียตี๋บอกด้วยสายตาโลมเลียหน้าอย่างหื่น “ทุกครั้งก็ยังรักษาคุณภาพได้อยู่…แต่วันนี้ไม่รู้ว่าคุณภาพมันจะตกลงไปหรือเปล่า”
จอมขวัญดึงประตูรถปิด เฮียตี๋โน้มตัวจอมขวัญลงไป มีเสียงกุกกัก หัวร่อต่อกระซิก

ส่วนที่โรงพักในห้องหมวดวันชาติบ่ายนั้น วันชาติกำลังทำงานเอกสารบนโต๊ะ ยอดชายเปิดประตูเข้ามา
“สวัสดีครับหมวด”
“สวัสดีครับคุณยอดชาย เชิญนั่งก่อนครับ”
ยอดชายนั่งลงทีเก้าอี้ตรงข้าม “มีอะไรเหรอครับ ถึงได้ตามผมมาถึงที่นี่”
“คือเราพอจะทราบรูปพรรณสันฐานของคนร้ายที่เข้าไปฆาตกรรมคุณนายแล้ว ก็เลยอยากจะให้คุณยอดชายมาดูว่าเคยเห็นหน้าหรือเปล่า”

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 2 วันที่ 15 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th