อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5/3 วันที่ 25 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5/3 วันที่ 25 ก.ย. 55 

 “ใช่…เมื่อไหร่จอมขวัญจะออกซะที”
       ปอยฝ้าย กับเหล่าแด๊นเซอร์เริ่มหวั่นๆ บรรยากาศเริ่มมาคุเห็นๆ
     ที่ข้างเวที ชูชนะแอบมองอย่างวิตก ข้างๆ เป็นสายฟ้ากำลังพยายามโทร.หาจอมขวัญ มือเป๋นระวิง
       “ติดต่อได้หรือยัง”
       “ยังเลยพ่อ ไม่ยอมเปิดโทรศัพท์” สายฟ้าเริ่มใจเสีย
     
       ปอยฝ้ายสำลีเล่นตลกกันอยู่ แต่คนดูนิ่งๆ ไม่ขำ
       “ลงไป….จะเอาจอมขวัญ”
       คนดูเริ่มปาเศษกระดาษขึ้นไปบนเวที พร้อมกับโห่ไล่
       รองเท้าข้างหนึ่งปลิวตกใส่ปอยฝ้าย
       “ไนกี้ด้วยมึง!”
       อีกฝั่ง ถุงน้ำอัดลมก็ลอยมาตกข้างๆ สำลี
       “ส่วนกรูได้น้ำแข็งว่ะ” สำลีว่า
       ปอยฝ้ายกับสำลีเริ่มหวั่นๆ และค่อยๆ ถอยลงข้างล่าง
     
       ชูชนะตกใจร้องเรียกสายฟ้า “เฮ้ย..ไอ้สายฟ้า แย่แล้วโว้ย”
       สายฟ้าหันมองเห็น ปอยฝ้ายกับสำลี ถอยกรูด หนีลงมา
       สายฟ้าเอ็ดกับสำลีกับปอยฝ้าย “จะลงมาทำไมวะ…เล่นไปก่อน”
       สำลีไม่เอาด้วย “ไม่ไหวมั้งพี่ ดูสิทั้งไนกี้ ทั้งน้ำแข็งหัวผมจะแตกเอา”
       “ก็หลบๆ เอา ขึ้นไปเล่นอีกรอบ ลองเอามายากลขึ้นไปเล่นสิ!”
       สำลี ปอยฝ้าย มองหน้ากัน แล้วเกาหัวแกรกๆ ไม่รู้จะทำยังไง
       “พ่อขึ้นไปพูดขัดตาทัพก่อน เดี๋ยวให้ไอ้สองคนนี่ลองขึ้นไปอีกครั้ง” สายฟ้าบอกพ่อ
       ปอยฝ้ายท้วง “จะดีเหรอพี่”
       “เอาน่าถ่วงเวลาไปก่อน” สายฟ้าบอก
     
       ส่วนที่ข้างเวทีเจ๊เนาว์ปวดตับ “คนดูลุกฮืออีกแล้ว”
       สมหวังตกใจเช่นกัน “แล้วจะทำยังไงดีล่ะ”
       กุหลาบบ่นอุบ “ยัยจอมขวัญทำไมเหลวไหลแบบนี้เนี่ย”
       บาสอารมณ์เสีย ด่าว่าจอมขวัญ “ไอ้เรื่องที่ทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนเนี่ยต้องยกให้ยัยนี่เลย”
       ทุกคนมองออกไปหน้าเวทีอย่าเป็นห่วง
     
       “ใจเย็นครับใจเย็น” ชูชนะพยายามปลอบ
       พ่อยกคนหนึ่งตะโกนถาม “จอมขวัญเมื่อไหร่จะออกสักที”
       ม็อบคนดูร้องหาแต่จอมขวัญ “จอมขวัญๆๆๆๆ”
       “จอมขวัญใกล้ถึงแล้วครับ…อดใจรออีกนิด ช่วงนี้ผมขอเสนอโชว์ที่ตื่นตาตื่นใจ เมื่อท่านได้รับชมแล้วต้องร้องโอ้โห! ขอเชิญท่านพบกับโชว์มายากลกับสองแสบซุปเปอร์ฮาได้นะบัดนี้!”
     
       สำลีกับปอยฝ้ายมองออกไปด้านหน้าเวที แล้วใจไม่ดี สองคนไม่กล้าออกไป
       สำลีบ่นพึมพำ “กรูไม่เสี่ยงดีกว่า”
       สำลีหลุกหลิกดูมีพิรุธ ผิดสังเกต เจ๊เนาว์สงสัย “เป็นอะไรสำลี”
       “ปวดท้องเจ๊….ไม่ไหวแล้ว ไปก่อนนะ!”
       ปอยฝ้ายอู้ด้วย “ผมก็ปวด”
       ขาดคำสำลี กับปอยฝ้าย วิ่งจู๊ดออกไป
       เจ๊เนาว์ตาเหลือก “อ้าว…แล้วใครจะขึ้นล่ะ”
       ชูชนะเดินเข้ามาถาม
       “ไอ้สำลีกับไอ้ปอยฝ้ายไปไหน….ทำไมมันยังไม่ขึ้นอีกวะ…ประกาศไปตั้งนานแล้ว”
     
       เจ๊เนาว์หน้าเจื่อนๆ
           ครู่ต่อมาชูชนะกระซิบนักดนตรีอะไรบางอย่าง เสียงดนตรี เปลี่ยนทำนองไปในทันที หมู่มวลแด๊นเซอร์หญิงชายงวยงง ที่นักดนตรีเล่นเพลงใหม่โดยไม่ให้สัญญาณ สักครู่หนึ่งชูชนะก็เดินออกมาหน้าเวที
     
       “ต้องขออภัยท่านผู้ชมจริงๆ ครับ ตลกซุปเปอร์ฮาของเราเกิดไม่สบายกะทันหัน กระผมจึงขอรับหน้าที่ขับกล่อมท่านผู้มีเกียรติแทนนะครับ เชิญรับชมรับฟังครับ”
       ทุกคนที่อยู่ข้างเวทีต่างลุ้นชูชนะ
       ชูชนะตั้งท่าจะร้องเพลง ขุดเพลงลูกทุ่งคลาสสิคขึ้นมา ทุกคนตั้งท่าฟัง แต่พอขึ้นเสียงสูง เสียงชูชนะเริ่มเพี้ยนโหนตามคีย์เพลงไม่ไหว
       คนดูตะโกนด่า “ลงไปๆ ไม่เอา”
       แม่ยกบ่นดังขรม “เสียตังค์มาดูจอมขวัญ ไม่ได้มาดูตาแก่ร้องเพลง”
       จากนั้นคนดูเริ่มโห่ฮาอย่างไม่พอใจ หนักถึงขั้นเริ่มมีปาข้าวของและลุกฮือประท้วงไล่ ประหนึ่งว่าจะบุกทลายเวที
       ชูชนะผงะ ถอยกรูดไปชนปอยฝ้าย ที่ตั้งท่าจะวิ่งหนีเช่นกัน
       ทุกคนลุ้นๆ ที่ข้างเวที มองหน้ากันด้วยความกลุ้มใจ
       เจ๊เนาว์เครียดปนกังวลหนัก คิดหาทางแก้ไขสถานการณ์ “เอายังไงดี”
       ทันใดนั้นสายฟ้าคิดออก มองไปที่สมหวัง แล้วเดินมาหา
       “เธอร้องเพลงได้นี่….เธอต้องช่วยพ่อนะ!”
       สมหวังตกใจตาโต! ส่ายหัวดิกๆ
     
       ชูชนะ ถูกคนดูปาของใส่จนต้องถอยร่นมาติดหลังเวที สมหวังยังอึ้งๆ ไม่รู้ต้องทำยังไง!
       สักครู่หนึ่ง ก็มีเสียงร้องใสกังวานของของใครคนหนึ่งดังขึ้นอีก เป็นท่อนแรกของเพลง ใจสารภาพ ของ ก๊อต จักรพันธ์ นักร้องซุปตาร์ของวงการ
     
       “แค่เพียงสมมุติว่าเรารักกัน ใจฉันก็สั่นเหมือนคนเป็นไข้”
       เป็นสมหวังนั่นเองยืนถือไมค์ร้องเพลงอยู่ข้างเวที! ทุกคนถึงกับอึ้ง!
     
       พ่อยก แม่ยกตลอดจนคนดูทุกคนเงียบกริบ เหมือนถูกมนต์สะกด คนดูเริ่มลุกฮืออีกครั้ง แต่คราวนี้อยากจะดูหน้าต้นเสียง
       “ใครร้อง!” คนดูคนหนึ่งตะโกนขึ้น
       อีกคนเสริม “เอาคนร้องขึ้นมา”
     
       สมหวังหยุดร้อง เมื่อเห็นเหตุการณ์บานปลาย
       บาสกังวล “เอายังไงดีล่ะพี่สายฟ้า”
       สายฟ้าหันไปคว้าชุดจอมขวัญมายื่นให้สมหวัง “ใส่ซะ”
       “ใส่ทำไม” สมหวังงง
       “เธอต้องขึ้นไปร้อง”
       สมหวังตกใจ ทั้งสับสนทั้งหวาดหวั่นใจ และบอกปฏิเสธไป “ไม่เอา…ชั้นขึ้นไปร้องไม่ได้หรอก”
       “ถ้าเธอไม่ขึ้นไปทุกอย่างก็จบ! ไหนๆ ก็ช่วยชั้นมาถึงขนาดนี้แล้ว ช่วยชั้นอีกหน่อยนะ” สายฟ้าขอร้อง
     
       คนดูโห่ไล่ชูชนะ
       “พ่อ…เดี๋ยวพ่อขึ้นไปประกาศให้สมหวังขึ้นเลยนะ” สายฟ้าบอก
       ชูชนะทึ่ง “เมื่อกี้เสียงนังสมหวังเรอะ”
       สายฟ้าพยักหน้ารับ
       “แล้วจะประกาศบอกคนดูว่านักร้องชื่ออะไรวะ”
       สายฟ้าครุ่นคิด “สมหวัง วทัญญูไงพ่อ!”
       ชูชนะเดินกลับขึ้นไปบนเวที
       สายฟ้าส่งซิกบอกกับนักดนตรี “เพลงเดิม”
     
       ชูชนะออกมาประกาศที่หน้าเวทีอีกครั้ง
       “ใจเย็นๆ ครับพ่อแม่พี่น้อง เมื่อกี้เป็นมุกครับมุก แต่คราวนี้ท่านจะได้พบกับดาวรุ่งดวงใหม่ ขอฝากไว้ในอ้อมกอดอ้อมใจของพ่อแม่พี่น้องอีกคน ...สมหวัง วทัญญู”
       ดนตรีขึ้น คนในวงทุกคนช่วยกันปรบมือให้แรงใจดังสนั่น แด้นเซอร์วิ่งออกมาเริ่มวาดลีลาเต้น
       สมหวังปรากฏตัวพร้อมเปล่งเสียงร้องใสกังวาน ไพเราะเพราะพริ้งเหมือนมนต์สะกดให้ทุกคนต้องฟัง
     
       “ขาดเธอไม่ได้ หัวใจขอสารภาพ กดโทรศัพท์
       รับช้าก็ยังน้อยใจ อยู่ใกล้จนชิน
       ไม่อยากได้ยินคำว่าห่างไกล
       ขอร้องอย่าทำร้ายใจ ด้วยการหนีไปจากกัน
       ** ถ้าสิ่งใดนั้นที่ผ่านเข้ามา
       หนักหนาจนเธอไร้ความเชื่อมั่น
       เจ็บจนเหลืออด ก็โกรธได้แต่อย่านาน
       เพราะใจที่ทรมาน คอยนานจะพาลสิ้นลม”
     
       สมหวังร้องไปอย่างเก้ๆ กังๆ ขัดเขินไปมาด้วยอาการตื่นเวที ทุกคนในวงต่างยิ้มหน้าบาน ที่ได้ยินน้ำเสียงของสมหวัง
     
       เสียงไพเพราะหวานเสนาะโสต สะกดคนดูนิ่งไปราวต้องมนต์ ทุกคนเงียบกริบ ต่างพากันเหลียวมองไปยังสมหวังบนเวทีเป็นตาเดียว ด้วยความสนใจ
          เสียงเพลงจากเสียงร้องของสมหวังจบลงแล้ว แต่คนดูยังคงนิ่งงันกันอยู่ สมหวังมองลงไปเบื้องล่างด้วยความรู้สึกหวั่นๆ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น สมหวังเก้ๆ กังๆ กำลังจะเดินลงเวที
     
       จู่ๆ พ่อยกคนหนึ่ง ยืนขึ้นและปรบมือให้ ตะโกนก้อง
       “สุดยอด! เสียงดีจริงๆ”
       จากนั้นคนดูทั้งหมดก็พากันปรบมือให้
       สมหวังชะงักกึก ยังรู้สึกงงๆ และยิ้มแย้มพร้อมกับพูดขอบคุณคนดู
       “ขอบคุณค่ะ”
     
       สายฟ้ายืนยิ้มอย่างภูมิใจ กุหลาบ บาส เจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ และชาวคณะทุกคนปรบมือให้สมหวัง
       “เสียงก็ดี มีเสน่ห์ เก่งสุดๆ ไปเลยน้องชั้น” กุหลาบยิ้มแก้มแทบแตกคุยฟุ้ง
       บาสยิ้มย่อง “ใช่! น้องสมหวังนี่เก่งไปซะทุกอย่างจริงๆ ร้องเพลงก็เก่ง ตัดชุดก็สวย ความคิดก็เป็นผู้ใหญ่” จังหวะนั้นบาสมองไปที่กุหลาบพูดเหน็บ “ไม่เหมือนกับเธอเลยเนอะ”
       กุหลาบหมั่นเขี้ยว “หาเรื่องแขวะชั้นได้ตลอดเลยนะ…อย่าให้ถึงทีชั้นก็แล้วกัน!”
       เจ๊เนาว์ ยืนตื่นเต้นอยู่กับเจ๊จุ๊
       “ราศีจับให้เป็นนักร้องมากๆ” เจ๊เนาว์ปลื้มปริ่ม
       “นั่นสิ…เสียงดี๊ดีเนอะ” เจ๊จุ๊เคลิ้ม
       สายฟ้า เดินไปบอกชูชนะ
       “พ่อออกไปประกาศให้สมหวังร้องต่อเลย”
       ชูชนะยิ้มหน้าบาน เดินออกไปหน้าเวที
       “เป็นยังไงบ้างครับ สมหวัง วทัญญู นักร้องน้องใหม่ของเรา ถ้าถูกใจขอเสียงปรบมืออีกสักครั้งครับ”
       แม่ยก พ่อยก และคนดูต่างปรบมือและส่งเสียงกรี๊ดสนั่น
       “เอาอีก…เอาอีกๆๆ”
       สมหวังหันไปสบตากับสายฟ้าที่อยู่ข้างเวที สายฟ้ายิ้มให้และยกนิ้วให้แสดงความชื่นชม สมหวังเริ่มยิ้มออกและมั่นใจมากขึ้น
       “ขอบคุณครับๆ…และผลงานเพลงในลำดับต่อไป ขอเสนอเพลง…”
       ชูชนะหันมาคว้าตัวสมหวังออกมายืนกลางเวที
       “เชิญรับฟังได้เลยครับ”
       สมหวังยังเขินๆ ทำตัวไม่ถูก ทำนองเพลงขึ้น สมหวังเริ่มร้องเพลง
       คนดูทุกคนปรบมือ
       ข้างๆ เวที สมควรยืนโยกตัวไปตามเพลง และมองสมหวังด้วยความสนใจในเสียงของสมหวัง!
       สมหวังร้องเพลงด้วยความมั่นใจมากขึ้น
       พ่อยก แม่ยก เอาพวงมาลัยมาให้ติดขอบเวที สมหวังลังเลๆ ไม่กล้ารับ
       สมหวังหันไปมองสายฟ้าอีก สายฟ้าทำมือออกให้ไปรับ สมหวังจึงเดินออกไป
     
       ระหว่างนั้นรถจอมขวัญแล่นเข้ามาจอด หลังเวทีจอมขวัญลงจากรถ
       เสียงร้องของสมหวังดังแว่วมา
       จอมขวัญฟังอย่างงงๆ “เสียงใครนะ”
     
       จอมขวัญเดินเข้ามาหลังเวที มองขึ้นไปบนเวที เห็นสมหวังกำลังร้องเพลงอยู่ จอมขวัญโมโห เดินเข้าไปหาสายฟ้าอย่างเอาเรื่อง
       “พี่สายฟ้า!”
       สายฟ้าหันมามอง
       “ทำแบบนี้ได้ยังไง”
       สายฟ้าย้อน “ทำอะไร พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
       “ก็เราเคยตกลงกันแล้วว่าวงเราจะมีนักร้องผู้หญิงได้คนเดียวเท่านั้น คือชั้น แล้วนี่เอานังบ้านั่นขึ้นไปร้องได้ยังไง” จอมขวัญของขึ้นเต็มที่
       สายฟ้าสวนกลับเป็นชุด “ใช่! เราเคยตกลงกันไว้แบบนั้น แล้วพี่ก็ทำตามสัญญา เห็นพี่เคยเอานักร้องผู้หญิงคนไหนขึ้นบ้างมั้ย!…แต่คนที่ไม่เคยทำตามข้อตกลงเลย คือเธอ เวลาให้ซ้อมก็ไม่ยอมมาซ้อม มาเล่นคอนเสิร์ตก็สายทุกครั้ง แล้วจะให้พี่ทำยังไง ถ้าวันนี้ไม่ให้สมหวังขึ้นไปร้อง รู้มั้ยว่าโดนคนดูพังเวทีแน่ๆ”
       จอมขวัญเถียง “อ๋อ…นี่หมายความว่า ชั้นเป็นคนผิด ที่มาช้าใช่ไหม”
       สายฟ้าถอนหายใจ “พี่ก็แค่อธิบายเหตุผลให้ฟัง”
       “นั่นแหละ…ยังไงความหมายมันก็คือโทษชั้นอยู่ดี”
       “มีเหตุผลหน่อยสิจอมขวัญ”
       “ชั้นจะไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว! พี่ลองคิดดูดีๆนะ ถ้าไม่มีชั้นสักคน วงวทัญญูมันจะอยู่มาได้ถึงป่านนี้เหรอ พี่ไม่เคยเห็นบุญคุณชั้นเลย!” จอมขวัญทวงบุญคุณ
       สายฟ้ามองจ้องอย่างไม่พอใจ
       “บุญคุณงั้นเหรอ?…เธอมาร้องเพลงพี่ก็จ่ายค่าตัวให้ ก็เกิดประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
       “เงินแค่นิดเดียวเนี่ยนะ…ชั้นจะบอกอะไรให้นะเงินแค่นั้นน่ะ ยังไม่พอจ่ายค่าเครื่องสำอางชั้นเลย”
       “แล้วจะเอายังไง…เงินก็รับมากกว่าเค้า แต่งานไม่เคยทำเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้ารักจะอยู่ด้วยกัน ก็ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เอาตัวรอดคนเดียว” สายฟ้าเหลืออด
       “หาว่าชั้นเห็นแก่ตัวใช่มั้ย อ๋อ..ใช่สิ…ถือว่ามีนักร้องใหม่แล้ว ไม่ต้อง    แคร์ชั้นแล้วนี่…อีนังนั่นมันคงอ่อยพี่ จนพี่ใจอ่อนยอมให้มันเป็นนักร้องสินะ…เห็นหงิมๆแบบนั้นร้ายไม่เบานะ!” จอมขวัญพาลพาโล
       สายฟ้าชักสีหน้า “พูดอะไรจอมขวัญ ที่สมหวังเค้าขึ้นไปร้องเพลง พี่บังคับให้เค้าขึ้นไปเอง จะคิดอะไรหรือจะว่าใคร พี่ว่าลองดูตัวก่อนดีกว่า อย่าไปพาลคนอื่น!”
       จอมขวัญแทบจะกรี๊ด ประกาศกร้าว “นี่พี่ว่าชั้นเหรอ! ก็ได้ในเมื่อไม่ต้องการกันแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เราขาดกัน จะไม่มีจอมขวัญ วทัญญู อีกต่อไป”
       จอมขวัญเดินสะบัดออกไป สายฟ้ามองตามแบบหนักใจ!
       ชูชนะเดินเข้ามาพอดี
       “เสียงเอะอะโวยวายอะไรกันวะ”
       “ไม่มีอะไรหรอกพ่อ”
       “ไม่มีอะไร….ทำไมนังจอมขวัญมันถึงเดินแพดๆออกไปแบบนั้น…แล้วมันจะไม่ขึ้นร้องเพลงหรือไง”
       ชูชนะเดือดดาล ระหว่างนั้น สมควรเดินเข้ามา
       “แหม…ไอ้ชู มีของดีแล้วไม่ยอมบอกกันบ้างเลยนะ”
       ชูชนะงงๆ “ของดีอะไรพี่”
       สมควรยิ้มร่า พูดชมไม่ขาดปาก “อ้าว…ก็สมหวังที่กำลังร้องเพลงอยู่นี่ไง…ตั้งแต่ข้าทำงานอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งนี้มาเกือบ 30 ปี เห็นมีเพียงไม่กี่คนที่ขึ้นไปร้องเพลงครั้งเดียว แล้วคนดูให้การต้อนรับขนาดนี้”
     
       สายฟ้ากับชูชนะ มองไปที่สมหวังบนเวที อย่างภูมิใจๆ
          คราวนี้สมหวังขึ้นเพลงใหม่ สมหวังนะจ๊ะ ซึ่งเป็นท่วงทำนองคึกคัก สนุกสนาน คนดูลุกขึ้นมาเต้นตามอย่างครื้นเครง
     
       ลีลาการร้องของสมหวังดูผ่อนคลาย และกล้าเต้นมากขึ้น
       ส่วนที่ข้างเวที บาส กุหลาบ เจ๊เนาว์ และเจ๊จุ๊ เต้นตามเพลงอย่างสนุกสนาน
     
       จอมขวัญเดินหงุดหงิดมาหยุดยืน คุยโทรศัพท์
       “ฮัลโหล…เฮียตี๋เหรอคะ หนูยอมตกลงเซ็นสัญญากับเฮียแล้วนะคะ หนูออกจากวงเรียบร้อยแล้ว เฮียเตรียมจัดแถลงข่าวได้เลย ยิ่งเร็ว ยิ่งดี”
       จอมขวัญวางสาย เหลียวมองขึ้นไปบนเวที เห็นสมหวังร้องเพลงแล้วรู้สึกเจ็บใจ!
       สีหน้าจอมขวัญบึ้งตึงเคืองแค้นสุดๆ พึมพำออกมา
       “ทำชั้นก่อนนะพี่สายฟ้า! ช่วยไม่ได้ ดูสิต่อไปจะอยู่ยังไงกัน”
     
       สมหวังผ่อนคลายหายเกร็ง แล้วร้องเพลงอย่างสนุกสนาน สายฟ้า มองสมหวังด้วยสายตาชื่นชม จังหวะเดียวกันสมหวังเหลือบมาเห็น ยิ้มเยื้อนตอบสายฟ้า
       การแสดงค่ำคืนนั้นจบลง ท่ามกลางความอิ่มอกอิ่มใจของคนดู และความปลื้มปิติของชาวคณะวทัญญู
     
       เช้าวันต่อมา กุหลาบถือถ้วยโจ๊กและแหกปากร้องเพลงเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์ดี
       สมหวังยังนอนอยู่บนเตียงต้องตื่นเพราะเสียงของกุหลาบ
       “ทำไมวันนี่ตื่นไวจังพี่กุหลาบ”
       กุหลาบเอาถ้วยโจ๊กมาวางข้างๆ สมหวัง
       “พี่ไปตักโจ๊กในครัวมาให้สมหวังนี่ไงจ๊ะ…เร็วลุกขึ้นมากินได้แล้ว”
       สมหวังงง “ทำไมต้องตักมาด้วยล่ะ…เดี๋ยวชั้นไปกินในครัวก็ได้”
       “แหม! ก็ต้องบริการให้ดีหน่อย…อีกหน่อยถ้าสมหวังดังแล้วจะได้ไม่ลืมพี่ไง อย่าลืมนะ พี่ชื่อ กุหลาบ จิตรสำราญ นะจ๊ะ”
       สมหวังขำๆ “พี่กุหลาบพูดอะไร…ดงดังอะไรกัน…เมื่อคืนชั้นอายแทบตาย เกือบจะไม่รอดแล้ว”
       กุหลาบอวยเต็มที่ “จะบอกอะไรให้….เมื่อคืนน่ะสมหวังสุดยอดที่สุดเลยนะ เสียงของสมหวังทำพี่เก็บเอาไปฝันเลย”
       สมหวังยิ้ม “ขนาดนั้นเลยเหรอ…ฝันว่าอะไร”
       “ฝันว่าสมหวังได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงน่ะสิ แต่ที่สำคัญนะพี่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวสมหวัง พี่ก็เลยพลอยดังไปด้วย เราสองคนนะมีนักข่าวมารุมถ่ายรูปเต็มไปหมด แต่เสียดายพี่กำลังจะให้สัมภาษณ์เกิดปวดฉี่สะดุ้งตื่นก่อนน่ะสิ”
       สมหวังหัวเราะคิก
       “พี่กุหลาบฝันอะไรประหลาดๆ อยู่เรื่อยเลย”
       “ก็ไม่แน่นะ...ใครจะไปรู้สมหวังอาจจะดังขึ้นมาจริงๆ ก็ได้”
       “จะเป็นไปได้ยังไง…พี่อย่าลืมสิชั้นกำลังถูกตามล่านะ เกิดพวกนั้นมันรู้ว่าชั้น    อยู่ที่นี่ล่ะ” สมหวังหน่าสลดลง
       กุหลาบนึกขึ้นได้ “จริงด้วย!...ไม่ได้ๆ ดังไม่ได้…โธ่เอ้ย…เสียดาย โอกาสเป็นราชินีลุกทุ่งอยู่ข้างหน้าแท้ๆ แบบนี้ก็พังหมดน่ะสิ!”
       สมหวังหัวเราะกุหลาบ ที่ฝันสลาย
       “เดี๋ยวชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวกลับมากินโจ๊ก”
       สมหวังเดินออกไป
     
       ตอนสายวันเดียวกัน ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง    หมวดวันชาตินั่งอยู่ที่โต๊ะในร้าน และกดโทรศัพท์หาใครบางคน
       พร้อมกันนั้นเสียงโทรศัพท์กุหลาบดัง กุหลาบกดรับ สองคนคุยกันเรื่องสมหวัง
       “สวัสดีค่ะหมวด”
       “นี่จ่า นับจากนี้ไปคุณต้องระวังตัวและคุ้มกันสมหวังให้มากขึ้นนะ”
       กุหลาบตกใจ “ทำไมล่ะคะ”

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5/3 วันที่ 25 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th