อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 4/2 วันที่ 21 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 4/2 วันที่ 21 ก.ย. 55 

“เงินค่าแรงพวกชั้นสามคนล่ะ”
      สายฟ้าหยิบเงินจากสมุดบัญชี ยืนให้ดู สมหวังรับเงินจากสายฟ้าแล้วนับเงิน เห็นเป็นแบงค์ร้อยสามใบ
       “สามคนนะคะ…ไม่ใช่คนเดียว”
       สายฟ้าดูเครียด พูดท่าทีนิ่งๆ ไม่กวนเหมือนวันก่อนๆ
       “เอาไปแบ่งกันก่อนนะ..ที่เหลือไปเอาที่ออฟฟิศนะ”
       สมหวังมองสายฟ้าที่ดูสีหน้าไม่ดีและพูดจาอ่อนโยนเป็นคนละคน สมหวังกำลังจะอ้าปากถามว่าสายฟ้าว่าเป็นอะไร

       “เออ…”
       ระหว่างนั้นสายฟ้าล้วงเงินเงินจากกระเป๋าทั้งสองข้าง มีทั้งแบงค์ยี่สิบ แบงค์ร้อย รวมกันประมาณสามร้อย รวบรวมแล้วยื่นให้สมหวัง
       “ถ้าไม่พอเอานี่ไปแบ่งกันก่อนนะ”
       สมหวังงง “เออ…ไม่เป็นไร…เก็บไว้ก่อนก็ได้”
       “ทำไม…เอาไปสิ ทำงานก็ได้เงิน”
       “แล้วคุณมีติดตัวหรือเปล่า?”
       สายฟ้าชะงัก นิ่งงันไป! เพราะเงินที่ตัวไม่เหลือแล้วจริงๆ
       สายฟ้าอึกอัก “มีสิ!...ไม่ต้องห่วงชั้นหรอก”
       “ชั้นไม่ได้ห่วงสักหน่อย…ชั้นก็แค่ถามดู”
       “นั่นแหละเอาไปแบ่งกันก่อนนะ…ที่เหลือก็อย่างที่บอก ไปเอาที่ออฟฟิศ”
       พูดจบสายฟ้าเดินเศร้าๆ ออกไป สมหวังได้แต่มองตามอย่างงงๆ ปนแปลกใจ
     
       สมหวัง กะกุหลาบเตรียมตัวกำลังนอน กุหลาบบ้นไม่เลิก
       “ทำงานทั้งวัน ร่างจะแตกได้เงินแค่ร้อยห้าสิบ พี่สายฟ้านะพี่สายฟ้า ทำร้ายกันได้ลง”
       “พี่ยังมีเงินเดือนตำรวจอยู่แล้วจะไปกลัวอะไร”
       “ทำงานหนักขนาดนี้ ได้เงินแค่นี้ พี่ไม่เคยเห็นนี่ ตอนสมัยม.ปลายพี่ช่วยแม่ขายขนมยังได้มากกว่านี้เลย พี่สายฟ้านี่เค็มไม่ใช่เล่นนะเนี่ย!”
       “เค้ามีความจำเป็น…ก็ถูกตัดเงินไปเป็นหมื่น … เห็นนายสายฟ้าขรึมๆแบบนั้น ก็มีด้านอ่อนแอเหมือนกันนะพี่ ตอนที่ชั้นไปเอาเงินนะดูสีหน้าไม่สู้ดีเลยลอยๆเบลอๆ และที่สำคัญดูอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย นึกว่าผีสิง” สมหวังว่า
       “คิดแล้วก็เห็นใจเหมือนกันเนอะ อย่างเราก็เข้าใจได้และไม่เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ แต่คนอื่นๆ ในวงน่ะสิไม่รู้จะคิดยังไงกันบ้าง”  
     
       สายฟ้านั่งเหมอลอย คิดอะไรอยู่คนเดียว ที่ศาลาหน้าบ้าน บาสเดินเข้ามาหา
       “พี่สายฟ้า…ผมจบตั้งปริญญาตรี ทำไมผมได้ค่าแรงแค่ร้อยห้าสิบเองละ นี่ยังได้ไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำเลยนะ”
       สายฟ้าหันมาตอบนิ่งๆ “เดี๋ยวชั้นให้เพิ่มนะ”
       บาสเห็นสายฟ้าเครียดๆ ก็อึกอัก “พี่…ผมพูดเล่นนะ…ผมถามตรงๆ นะพี่สายฟ้า วงเรากำลังมีปัญหาเรื่องเงินใช่มั้ย”
       สายฟ้าพยักหน้าแทนคำตอบ
       “ผมได้ยินพวกแด้นเซอร์พูดกันว่าพี่จอมขวัญลาออกแล้ว…จริงเหรอพี่”
       “จริง….เค้าขอเงินค่าตัวเพิ่มแต่ชั้นไม่มีให้เค้า ชั้นกำลังคิดอยู่ว่าจะหาเงินที่ไหนมาเพิ่มให้เค้าดี”
       “พี่จอมขวัญก็ใจดำเกินไป เงินที่ถูกหักวันนี้ก็เพราะว่าเค้า แล้วยังจะมาขอเงินเพิ่มอีก ไม่ช่วยกันเลย นี่ถ้าผมเสียงดีผมขอสมัครเป็นนักร้องแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องไปคอยง้อเค้า…แล้วนี่พี่จะทำยังไงต่อไปล่ะ”
       “มันไม่มีทางอื่นนอกจากตัดเงินคนในวงมาเพิ่มให้”
       บาสตกใจ “แล้วพวกนั้นเค้าจะยอมเหรอพี่”
       “ชั้นไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่จะทำไงได้ มันเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยรักษาวงนี้ไว้ได้ เพื่อจะได้มีงานทำกันต่อไป”
     
       สีหน้าสายฟ้าในยามนี้มีแต่ความหนักใจ!
          สายฟ้า กับเจ๊เนาว์ นั่งปรับทุกข์กันอยู่ในห้องรับแขก หารือเรื่องจอมขวัญ ชูชนะอ่านหนังสือพิมพ์ข้างๆ
     
           ชูชนะตกใจ “หมื่นนึง! นังนี่มันปล้นกูชัดๆ แล้วเอ็งจะเอาเงินที่ไหนให้มันวะ”
           “มีทางเดียวต้องตัดเงินคนอื่นไปให้จอมขวัญ”
           “พวกมันจะยอมหรือวะ” ชูชนะไม่พอใจเท่าไหร่
           เจ๊เนาว์ไม่เห็นด้วย “ไม่ได้นะสายฟ้า! ขนาดเมื่อคืนจ่ายไปครึ่งเดียวยังโวยวายกันใหญ่ แล้ว
       วันนี้จะมาบอกว่าตัดเงินอีก พวกนั้นต้องไม่ยอมแน่ๆ”
       “แล้วจะทำยังไง…เพื่อความอยู่รอดของวงและของทุกๆคน ถ้าไม่มีจอมขวัญก็ไม่มีใครมาดู”
       ชูชนะ เจ๊เนาว์ มองหน้าสายฟ้าทีกำลังครุ่นคิดอย่างหนักด้วยความเห็นใจ.
       สามคนไม่รู้ว่าสำลี แอบได้ยินอยู่หน้าประตู
           “จะตัดเงินพวกกูไปให้พี่จอมขวัญเหรอวะ”
     
       ที่บ้านศรีสมร แจ่มยกถาดกาแฟมาเสิร์ฟให้ทนายความที่นั่งอยู่กับเฉิดฉายในห้องรับแขก
           “วันนี้ผมมาหาคุณยอดชาย ด้วยเรื่องพินัยกรรมนะครับ”
           ยอดชายออกท่าทางตื่นเต้น “ผมว่ารีบเปิดดีกว่าครับ”
           “ครับ”
       ทนายความเตรียมอ่านพินัยกรรม…ยอดชายนั่งฟัง ด้วยท่าทางตื่นเต้นลุ้นสุดขีด
       “ข้าพเจ้านางสาวศรีสมร รุ่งเจริญกิจ ได้กระทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นในขณะที่สติสัมปชัญญะยังสมบูรณ์ครบถ้วนทุกประการดังนี้ ข้าพเจ้ายกทรัพย์สินอันประกอบไปด้วย หนึ่ง หุ้นส่วนอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้านและคอนโด จำนวนแปดโครงการ สอง ธุรกิจทางด้านความงาม ย่านทองหล่อ สาม บ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยปัจจุบัน สี่ เงินฝากธนาคารทั้งหมด รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น แปดร้อยสิบเอ็ดล้านบาท ให้ตกเป็นของนายยอดชาย บารมีส่ง ตามเจตนารมณ์ของข้าพเจ้าทุกประการ
       ยอดชายดีใจ ยิ้มหน้าบาน “มีเท่านี้เหรอครับ”
       “ยังไม่หมดครับ!...คุณนายยังระบุในพินัยกรรมต่อว่า…ถ้าในกรณีที่ข้าพเจ้าเสียชีวิตเนื่องจากถูกฆาตกรรม ผู้รับผลประโยชน์จะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าผู้รับผลประโยชน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของข้าพเจ้า ให้ยกทรัพย์สินของข้าพเจ้าเป็นสาธารณกุศลทั้งหมด”
       ยอดชายโมโหขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าศรีสมรจะไม่ไว้ใจตน เผลอตัวหลุดปากเสียงดัง
       “เฮ้ย..อะไรวะ”
       ทนายมองงงๆ “ทำไมเหรอครับ…คุณจะกลัวอะไรครับ คุณไม่เกี่ยวข้องกับคดีสักหน่อย ยังไงคุณต้องได้รับมรดกทั้งหมดอยู่แล้ว”
       ยอดชายแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน “จริงด้วยผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรสักหน่อย ผมจะกลัวทำไม….เออ…แล้วนี่ผมต้องรออีกนานเท่าไหร่ครับ”
       “ต่อเมื่อตำรวจปิดสำนวนคดีเสร็จแล้วทำหนังสือมายืนยันกับทางสำนักงานทนายความ ผมก็จะรีบเดินเรื่องให้เลยครับ” ทนายว่า
       ยอดชายชักเซ็ง “งั้น…ก็อีกนานเลยนะสิ”
       “อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางตำรวจครับ”
       ยอดชายเซ็งสุดๆ มองทนายอย่างหมดอาลัยตายอยาก
     
       ยอดชายอยู่ในห้องนอน คุยโทรศัพท์กับแดน
           “เรื่องจัดการไอ้พยานไปถึงไหนแล้ว”
           “ตอนนี้มีทางเดียวที่จะรู้ได้ว่ามันอยู่ไหน” แดนอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ตึกร้าง
           ยอดชายยัวะ “ทางไหนก็ได้!..ที่กำจัดมันให้เร็วที่สุด! แกรู้มั้ยถ้าแกไม่รีบกำจัดมันนอกจากจะไม่ได้มรดกยังต้องติดคุกหัวโตอีก”
           “ทำไมเหรอครับเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก”
           “ก็อีแก่นั่นมันฉลาด…ในพินัยกรรมมันระบุไว้ว่าชั้นจะได้รับมรดกก็ต่อเมื่อชั้นไม่มีส่วนรู้เห็นในกรณีที่มันถูกฆาตกรรม!”
           “งั้นผมจะรีบกำจัดมันให้เร็วที่สุด”
           ยอดชายสงสัย “แกจะทำยังไง? ถึงจะรู้ได้ว่ามันอยู่ไหน”
           “เราต้องสะกดรอยตามไอ้หมวดที่ดูคดีนี้ครับ” แดนบอกแผน
           ยอดชายฉุน ไม่เอาด้วย “ไอ้บ้า! สะกดรอยตามตำรวจเนี่ยนะ”
           “ถึงมันจะเสี่ยงหน่อยแต่ก็เหลือวิธีเดียวแล้วจริงๆ” แดนโน้มน้าว
       ยอดชายเครียดขึ้นมาอีกครั้ง!
     
       ขณะเดียวกัน หมวดวันชาติอยู่ในห้องทำงานที่โรงพัก และกำลังโทรศัพท์อยู่
       เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กุหลาบรับโทรศัพท์ จ่ากับหมวดคุยเรื่องสมหวัง
           “ฮัลโหลค่ะ…หมวด”
           “เป็นยังไงบ้าง มีปัญาอะไรบ้างมั้ย”
           “ไม่มีค่ะ…ปกติดีทุกอย่าง ไว้ใจกุหลาบได้”
           “ไม่มีใครสงสัยว่าคุณสองคนเป็นใคร”
           “ก็ไม่มีอีกแหละค่ะ สมหวังกับกุหลาบเล่นละครได้เนียนสุด ไม่มีใครจับได้สักคนว่ากุหลาบเป็นตำรวจและสมหวังเป็นพยาน”
           วันชาติเอ็ด “นี่คุณ! จะพูดออกมาทำไมเล่า”
       กุหลาบตกใจ รีบเอามือปิดปาก มองซ้ายมองขวาไม่มีใคร ค่อยโล่งใจ
           “ระวังให้มากกว่านี้เข้าใจมั้ย”
           “ค่ะ…งั้นแค่นี้ก่อนนะคะหมวด เดี๋ยวใครมาเห็นพอดี”
       กุหลาบวางสาย มองซ้ายมองขวาอีกที เพื่อความแน่ใจว่าไม่มีใครมาได้ยิน
     
       ตรงที่พักหลังโรงครัวเวลานั้น สำลีกำลังคุยกับพวกแด้นเซอร์และนักดนตรี โดยมีสมหวัง นั่งฟังอยู่ด้วย
           “นี่…พวกเอ็งรู้มั้ยพี่สายฟ้าจะตัดเงินพวกเราไปให้ไปให้พี่จอมขวัญ”
           ปอยฝ้ายโวย “อะไรวะเงินยังให้ไม่ครบเลย จะมาตัดเงินอีกแล้ว”
           แด้นเซอร์หนึ่งในนั้นไม่เชื่อ “ไอ้สำลีแกอย่ามั่ว”
           “ข้าไม่ได้มั่ว ได้ยินมาสองรูหูเลย” สำลียืนยัน
           แด้นเซอร์คนหนึ่งโวย “โหย…อะไรวะ แบบนี้ไม่ยอมนะเว๊ย”
           ปอยฝ้ายเอาด้วย “ใช่! พวกเรายอมมามากแล้ว เพราะฉะนั้นต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องบ้าง”
       สำลีปลุกระดม “จริงอย่างที่ไอ้ปอยฝ้ายพูด ถ้าไม่เรียกร้อง ไอ้ปัญหาเก่าๆก็จะเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเอ็งจะยอมเหรอวะ”
           นักดนตรีตอบเสียงเดียวกัน “ไม่ยอม!”
           “เราต้องทำให้พี่สายฟ้าหน้าเลือด รู้ว่าเราจะไม่ยอมถูกเอาเปรียบอีกแล้ว!”
     
       สมหวังเห็นท่าไม่ดี ลุกไปหาเจ๊จุ๊ที่ทำกับข้าวอยู่
        เจ๊จุ๊กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว สมหวังเข้ามาช่วย
     
           “เจ๊มาชั้นช่วย”
       กุหลาบเข้ามาสมทบ
           “มีอะไรให้ชั้นช่วยมั้ย…โห..เจ๊นี่ทำของน่ากินๆทุกวันเลยนะ”
           “ไม่ใช่น่ากินอย่างเดียวนะ อร่อยด้วย” เจ๊จุ๊ฟุ้ง
       กุหลาบไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะ
       สมหวังช่วยยกกับข้าวขึ้นโต๊ะ เจ๊จุ๊ได้ยินสำลีพูดกับนักดนตรี แด้นเซอร์อยู่หลังครัว แว่วมา
           “ไอ้สำลีมันโม้อะไรของมัน”
           “เห็นบอกว่าคุณสายฟ้าจะตัดเงิน” สมหวังบอก
       “ไอ้นี่หาเรื่องอีกแล้ว เรื่องยุแยงตะแคงรั่วชอบจริงๆ หาเรื่องให้หนักใจอยู่เรื่อย” เจ๊จุ๊ส่ายหัว
           กุหลาบแหลมขึ้นมา “แล้วเค้าจะตัดจริงมั้ยเจ๊”
       “ไม่หรอก…จะไปเชื่ออะไรกับไอ้สำลี เดี๋ยวก่อน ทำกับข้าวเสร็จก่อนจะไปแพ่นกบาลมัน…สายฟ้าเค้าก็เครียดอยู่แล้ว ต้องมาเจอไอ้คนแบบนี้อีก สงสารสายฟ้าอุตส่าห์ร่ำเรียนมหาวิทยาลัย”
           สมหวังอึ้ง คาดไม่ถึง “คุณสายฟ้าจบมหาลัยด้วยเหรอเจ๊”
       “เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจ้ะ! ตอนจบใหม่ๆ บริษัทมาจองตัวกันให้พรึบ แต่ก็ไม่ได้ไปทำ ต้องมาคุมวงแทนพ่อ เฮ้อออ! น่าสงสาร น่าจะได้ทำงานที่ดีกว่านี้ จะได้ไม่ต้องต้องมารับฟังปัญหาบ้าๆ บอๆ พวกนี้”
       ทันใดนั้น เสียงกุหลาบก็ดังสวนขึ้นมา
           “มีข่าวจอมขวัญด้วย”
           สมหวังถามทันที “ข่าวอะไรพี่กุหลาบ”
       กุหลาบอ่านข่าวเสียงดัง “เฮียตี๋…เสียใหญ่เจ้าของตี๋มิวสิค ประกาศปั้น “จอมขวัญ” นักร้องเสียงหวาน มาแรงแห่งปี ให้เป็นราชินีเพลงลูกทุ่งของวงการเพลงคนต่อไป”
           เจ๊จุ๊กะสมหวังตกใจร้อง “เฮ้ย” พร้อมกัน
     
       สายฟ้าเองก็อ่านข่าวเดียวกันในหนังสือพิมพ์อยู่ สีหน้าชายหนุ่มตกใจมาก
           “ทำอย่างนี้ได้ยังไง”
       พลางสายฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาจอมขวัญ
           ชูชนะสงสัย “อะไรวะ”
       เจ๊เนาว์หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน ร้องขึ้นด้วยความตกใจ
           “คุณพระช่วย!...” หันมาทางชูชนะ “พ่อนังจอมขวัญจะย้ายค่าย”
           “ย้ายได้ไง”
       ชูชนะปรี่เข้ามาดูหนังสือพิมพ์อีกคน ในขณะที่สายฟ้าพยายามโทร.หาจอมขวัญอยู่
           “ติดหรือเปล่าวะสายฟ้า” ชูชนะถาม
           “ปิดเครื่อง” สายฟ้าบอก
           เจ๊เนาว์นึกได้ “ลองโทร.ไปที่คอนโดสิ”
           “ไม่ต้องโทร.แล้ว ผมไปเองดีกว่า จะได้ไปถามให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไงกันแน่”
       สายฟ้าเดินออกไป อย่างร้อนใจ
     
       สายฟ้าเดินนออกมาหน้าบ้าน สมหวัง กุหลาบ และเจ๊จุ๊ วิ่งเข้ามาจะมาบอกเรื่องข่าวจอมขวัญ แต่สมหวังยังไม่ทันอ้าปาก สายฟ้าก็ขึ้นรถขับออกไป  
           “อ้าว…ยังไม่ทันจะได้บอกเลย” กุหลาบเซ็ง
           “ท่าทางแบบนั้นสงสัยรู้แล้วล่ะ” สมหวังว่า
     
       สายฟ้าเดินดิ่งเข้ามาตรงล็อบบี้คอนโดที่พักของจอมขวัญ ตรงไปหาพนักงานที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
           “ห้อง7013 อยู่หรือเปล่าครับ”
           “อยู่ค่ะ”
           “ขอใช้โทรศัพท์หน่อยนะครับ”
           “เชิญค่ะ”
     
       ส่วนจอมขวัญกับเฮี่ยตี๋กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง ยินเสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น จอมขวัญเอื้อมมือไปรับสาย
           “ฮัลโหล….ว่ายังไงจ๊ะ…รอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวชั้นลงไปหาข้างล่าง”
           “ใครโทร.มาน่ะ” เฮียตี๋สงสัย
           “พนักงานส่งของน่ะค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ”
           “รีบไปไปรีบมานะจ๊ะ เดี๋ยวมันขาดตอน” เฮียตี๋เสียงเยิ้ม
           จอมขวัญยิ้มหวาน “จ้ะ”
       จอมขวัญเดินออกมา ทำหน้าแหวะ แขยงเฮียตี๋!
     
       ไม่นานต่อมา ที่โซฟาตรงล็อบบี้คอนโด สายฟ้ายื่นหนังสือพิมพ์ให้จอมขวัญ พลางถาม
           “นี่มันหมายความว่ายังไง พี่บอกแล้วไงว่าจะเพิ่มให้ แต่เมื่อคืนมันไม่พอจ่ายคนงานก็เลยให้มาแค่นั้นก่อน”
           จอมขวัญบอกไม่ยี่หระ “จะไปเชื่ออะไร ก็รู้ๆ อยู่ว่าหนังสือพิมพ์ ชอบลงเกินความจริง”
           “ถ้ามันไม่มีมูล เค้าคงไม่เอามาเขียนหรอก”
           “ชั้นเคยเจอกันในงาน พูดกันไม่กี่คำ เค้าแค่ลองมาทาบทามเฉยๆ”
           สายฟ้าคาดคั้น “แน่นะ”
       จอมขวัญเดินเข้ามาใกล้สายฟ้า ยกมือเกาะแขน ลูบไล้ตามตัว
       “แหม…เห็นชั้นเป็นคนไม่รู้จักบุญคณคนไปได้ พ่อชูอุ้มชูชั้นมาเหมือนลูกแท้ๆ และดังได้ขนาดนี้ ชั้นจะทิ้งวงไปได้ยังไง ถึงไม่เห็นแก่พ่อ ชั้นก็ต้องเห็นแก่พี่ ชั้นจะใจร้ายใจดำทิ้งพี่ไปได้ยังไง”
       จอมขวัญซบที่หน้าอกสายฟ้า
       สายฟ้ากลัวคนมาเห็น รีบผละตัวออก
           “ตกลงยังเป็นนักร้องให้วงเราใช่มั้ย” สายฟ้าย้ำ
           “เป็นสิจ๊ะ” จอมขวัญยิ้มหวานให้สายฟ้า
       สายฟ้าหยิบเงินส่งให้จอมขวัญ “นี่อีกหมื่นที่เธอขอไว้”
           จอมขวัญหน้าระรื่น “ขอบคุณค่ะ”
       จอมขวัญจะหอมแก้ม แต่สายฟ้าเบี่ยงตัวออก
           “พี่ขอตัวกลับก่อน”
     
       สายฟ้าเดินออกไปทันที จอมขวัญอารมณ์เสีย
          ที่แท้จอมขวัญหลอกสายฟ้า เพราะสัญญาวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ในขณะที่เฮียตี๋นอนรออย่างกระวนกระวาย ชะเง้อมองไปทางประตู รอจอมขวัญตลอดเวลา มือก็กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ไม่มีกระจิตกระใจดู จอมขวัญเดินเข้ามา
     
           “ทำไมลงไปนานจัง”
           “เด็กส่งของมันเอาของมาผิด ให้มันกลับไปเอามาส่งใหม่”
           “ของอะไร”
           “น้ำหอม…หนูสั่งน้ำหอมจากในเว็บไว้”
       ว่าแล้วจอมขวัญโผลงไปซบเฮียตี๋ทันที เฮียตี๋เอื้อมมือไปหยิบสัญญาบนหัวเตียง
           “นี่สัญญา เดี๋ยวหนูเซ็นเลยนะ”
           “แหม…มาคุยเรื่องการเรื่องงานอะไรตอนนี้ เสียบรรยากาศหมด”
           “จริงด้วยเนอะ…เสียบรรยากาศ งั้นมาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า”
       เฮียตี๋โน้มตัวจอมขวัญเข้าหาตัว ทั้งสองหัวร่อต่อกระซิก ก่อนจะเล่นจ้ำจี้ตามเคย
     
       เวลานั้นสำลีกำลังปลุกม๊อบ นักดนตรี แด้นเซอร์ อยู่หลังบ้านพัก
       “สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน ที่มาร่วมชุมนุมกันในวันนี้ พวกท่านทั้งหลายก็รู้อยู่แล้วว่าที่เรามาชุมนุมกันในวันนี้เนื่องด้วยอะไร ตอนนี้เรากำลังถูกเอาเปรียบจากพวกจักรวรรดินายทุน ที่เกื้อกูลแต่พวกพ้องตัวเอง ด้วยการตัดเงินค่าแรงพวกเราที่ได้กันเพียงน้อยนิด แทบไม่พอประทังชีวิตอยู่แล้ว”
       “ไอ้สำลี อย่าเยอะๆ ขอสั้นๆได้ใจความ!” ปอยฝ้ายหมั่นไส้
       “เอ็งไม่เคยดูเค้าประท้วงในทีวีเหรอวะ แกนนำเค้าก็ต้องพูดเยอะๆแบบนี้แหละ มันจะได้น่าเชื่อถือ”
       แด้นเซอร์คนหนึ่งตะโกน “ขอแบบเข้าประเด็นเลยดีกว่า”
       ทุกคนโห่ร้อง เห็นด้วย
       สำลีพึมพำ “กำลังเท่เลย นานๆ จะได้เป็นแกนนำสักที มาขัดความฝันกูซะหมดเลย” หันไปบอกกับทุกคน “โอเคๆ เข้าประเด็นกันเลย พี่สายฟ้ากำลังเอาเปรียบพวกเราให้เงินก็ไม่ครบตามสัญญา แล้วยังจะมาตัดเงินพวกเราอีก แบบนี้ยอมได้มั้ย”
           “ไม่ยอม…ไม่ยอม” ทุกคนตะโกน
           สำลีปั่นหนัก ซึ่งทุกคนก็พร้อมใจเอาด้วย
       “เราต้องลุกสู้ใช่มั้ย”
           “ใช่!...”
           “พวกเราต้องเรียกร้องความเป็นธรรมกลับคืนมาใช่มั้ย”
           “ใช่!...”
       เจ๊จุ๊ยืนมองอยู่ใจคอไม่ดีรีบเข้าไปบอกชูชนะ
     
       ยินเสียงม๊อบดังเอ็ดตะโรมาจากหลังบ้าน มาถึงห้องรับแขก
           “อีเนาว์ มันส่งเสียงเอะอะอะไรกันวะข้างหลังบ้าน” ชูชนะสงสัย
           “ไม่รู้เหมือนกันจ้ะพ่อ เห็นมันซุบซิบอะไรกันตั้งแต่ตอนกินข้าวแล้ว”
       “อะไรของพวกมันวะ ไอ้พวกนี้ ไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจเดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเค้าก็รำคาญเอาอิฐขว้างหลังคาเอาอีก”
       เจ๊จุ๊วิ่งเข้ามาหน้าตื่น “พ่อแย่แล้ว”

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 4/2 วันที่ 21 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th