อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 4/3 วันที่ 22 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 4/3 วันที่ 22 ก.ย. 55

 “อะไรของพวกมันวะ ไอ้พวกนี้ ไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจเดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเค้าก็รำคาญเอาอิฐขว้างหลังคาเอาอีก”
       เจ๊จุ๊วิ่งเข้ามาหน้าตื่น “พ่อแย่แล้ว”
       “อะไรของมึงอีกวะอีจุ๊”
       “ไอ้สำลีน่ะสิ มันเป็นแกนนำยกพวกประท้วงไม่พอใจที่สายฟ้าไปตัดค่าแรงพวกมัน”
           เจ๊เนาว์กะชูชนะร้อง “ห๊ะ” พร้อมกัน
       และไม่ทันขาดคำ ขบวนประท้วงก็เคลื่อนมาที่หน้าบ้าน ทุกคนตะโกนว่า “เราไม่ยอมๆ…!” โดยมีสำลีเป็นแกนนำ
       “เฮ้ย!! มันอะไรกันวะไอ้ พวกนี้จะเอาอย่างตามในทีวีหรือไง เอะอะประท้วงๆ” ชูชนะตะโกนขึ้นมา
       แต่ไม่มีใครฟังเสียงชูชนะ
           “พวกเอ็งจับพ่อไว้เป็นตัวประกัน!” สำลีสั่งการ
       นักดนตรี 2-3 คน เข้าไปจับชูชนะไว้
       “ปล่อยกู จะจับกูทำไม…มีอะไรก็พูดกันดีๆ ใช้สมองแก้ปัญหาสิวะอย่าใช้กำลัง” ชูชนะบอก
       เจ๊เนาว์พยายามช่วยชูชนะ ดึงแขนนักดนตรีออก
           “ปล่อยพ่อเดี๋ยวนี้นะ…ชั้นบอกให้ปล่อย”
       นักดนตรีสลัดเจ๊เนาว์สุดแรง ลงไปก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น กะเทยถึงร้อง “โอ๊ย”
           “ขอโทษนะพ่อ พวกผมไม่อยากทำแต่มันจำใจ” นักดนตรีคนหนึ่งบอก
       ชูชนะถูกมัดด้วยเชือกแล้วถูกพาเข้าไปในบ้าน
           “อีเนาว์ อีจุ๊ ช่วยกูด้วย!!”
           เจ๊จุ๊พยายามกล่อม “พวกแกใจเย็นๆสิวะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน เดี๋ยวสายฟ้ากลับมาละเรื่องใหญ่!”
           “เรื่องใหญ่น่ะดีชั้นชอบ! จะได้รู้ซะบ้างอย่ามาโกงพวกชั้น” สำลีตอกกลับ
           ปอยฝ้ายถามสำลี “แล้วเจ๊จุ๊จะเอายังไง”
           “จับไปด้วย เอาไว้เผื่อต่อรอง” สำลีบอก
           เจ๊จุ๊ตั้งการ์ดมาดนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท “อยากเจองวงฟาดก็เข้ามา”
       ปอยฝ้าย นักดนตรี และแดนเซอร์เข้ามาช่วยจับเจ๊จุ๊
       “อย่าจับกู…จับกูไป แล้วใครจะทำกับข้าวให้พวกมึงกิน”
       ทุกคนชะงักกึก สำลีคิดๆ
           “คิดๆ …เห็นค่ากูขึ้นมาแล้วใช่ม๊า!”
           ผิดคาดสำลี ไม่ง้อ “จับไป! กับข้าวซื้อกันกินเองได้”
           เจ๊จุ๊ตาเหลือก “อ้าวเฮ้ย! ปล่อยกู ไอ้ปอยฝ้าย”
       นักดนตรีลากเจ๊จุ๊เข้าไป
       สำลีมองไปที่เจ๊เนาว์ อย่างเอาเรื่อง
           เจ๊เนาว์กรี๊ด “อย่าข่มขืนเจ๊นะ…เจ๊ยอมแล้วว”
           สำลีหงุดหงิด อารมณ์เสีย “โว้ยย! จะบ้าเหรอเจ๊ ใครจะเอาลง!”
       สำลีเข้าไปลากเจ๊เนาว์ด้วยตัวเอง
           “มานี่ เข้าไปอยู่รวมกัน”
     
           เจ๊เนาว์กรี๊ดแตก แหกปากร้องลั่น “ว้าย... ช่วยด้วย...”
            ในเวลาเดียวกัน สมหวัง บาส และกุหลาบพากันปั่นจักรยานมาซื้อของหน้าปากซอยบ้าน และกำลังปั่นกลับบ้าน กุหลาบปั่นอยู่คนเดียว บาสปั่นจักรยานเหงื่อเต็มหน้า แต่หันมาหวานใส่สมหวังซึ่งนั่งซ้อนท้าย
     
       “เหนื่อยมั้ยจ๊ะน้องสมหวัง”
       “เหนื่อยอะไรเล่า ชั้นไม่ได้ปั่นสักหน่อย ดูพี่บาสเถอะเหงื่อโชกขนาดนั้น ยังมาถามชั้นอีก”
       กุหลาบหมั่นไส้ “หันมาถามชั้นนี่ ว่าเหนื่อยมั้ย”
       ใบหน้ากุหลาบซีดเป็นไก่ต้ม ในตะกร้าจักรยานมีข้าวของเต็มไปหมด แถมยังมีห้อยแขวนอยู่ที่แฮนด์อีกพะเรอ
       “โอ๊ย! เหนื่อย”
       บาสเหน็บ “ผู้หญิงแกร่งอย่างเธอไม่น่าเหนื่อยนะ”
       กุหลาบค้อนปะหลับปะเหลือก “เหรอยะ”
       ระหว่างนั้นรถสายฟ้าแล่นมาด้านหลัง สายฟ้าแกล้งบีบแตรใส่
       บาสตกใจเสียหลัก จักรยานส่ายไปมา
       “เว๊ย”
       สมหวังพลอยตกใจไปด้วย หลับตาปี๋ รีบกอดเอวบาสไว้แน่น!
       สายฟ้ามองจากในรถเห็นสมหวังกอดบาสแน่น ก็อึ้ง รู้สึกหึงโดยไม่รู้ตัว
       กุหลาบก็มองอึ้งไปเช่นกัน ส่วนบาสยิ้มแฉ่งดีใจที่สมหวังกอดซะแน่น
       สายฟ้าขับรถรถแซงหน้าไป
       บาสบ่นอย่างหงุดหงิด “พี่สายฟ้าเล่นอะไรไม่รู้ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ” หันมาหาสมหวัง “โอ๋ๆๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมา ปลอดภัยแล้วจ้ะ…ดีนะพี่เป็นคนปั่นจักรยานแข็ง ไม่งั้นต้องพาน้องสมหวังถลาลงไปกับพื้นแน่ๆ”
       กุหลาบเขม่น “ขี้คุย”
     
       ที่ด้านในบ้าน บรรดานักดนตรี กับแด้นเซอร์ กำลังช่วยกันมัดชูชนะ เจ๊จุ๊ และเจ๊เนาว์ ติดเสา
       “มึงจะมัดกูทำไมวะ” ชูชนะโมโห
       เจ๊เนาว์ร้องโวยวาย “ปล่อยชั้น จะจับไว้ทำไม”
       สำลีหัวหน้าม็อบวางก้าม “ก็อยากตัดเงินพวกเราก่อนทำไมล่ะ”
       “รอไอ้สายกลับมาแล้วพูดดีๆ กับมันสิ” ชูชนะเอ่ยขึ้น
       “ชั้นดีมามากแล้ว…ถ้าวันนี้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการเราจะมาปล่อย”
     
       บรรดาหมู่มวลลูกวง ทั้งหมดคาดหัวถือป้ายประท้วงเต็มกำลัง โดยมีสำลี และปอยฝ้ายเป็นแกนนำ
       โดยใช้ผ้าดิบเขียนข้อความประท้วงต่างๆ ยังคงตะโกนและปรบมือเสียงดัง
       “เราไม่ยอมๆๆๆ”
       สำลีเดินออกมา ชูมือให้ทุกคนเงียบ “ขณะนี้ เราได้ยึดวงไว้ได้แล้ว”
       ทุกคนเฮลั่น
       “เราจะต่อสู้ไปด้วยกัน…เราจะปักหลักอยู่ตรงนี้ จนกว่าเราจะได้สิ่งที่เราต้องการ” ปอยฝ้ายบอก
       ทุกคนเฮอีก
       “เราจะไม่กิน…เราจะไม่นอน…เราจะไม่อาบน้ำ…เราจะอยู่ตรงนี้”
       ฟังแล้วทุกคนเงียบกริบ สำลีกลอกตามองเลิกลั่ก
       ปอยฝ้ายท้วง “ถึงกับไม่กินไม่นอนนี่ไม่ไหวมั้งไอ้สำลี”
       “ที่พูดมาเมื่อกี้แค่เผื่อไว้ก่อน…แต่ชั้นรับรองว่าข้อเสนอของเราต้องผ่านวันนี้แน่นอน” สำลีเปลี่ยนใหม่
       ทุกคนเฮ ชอบใจ
     
       รถสายฟ้าแล่นเข้ามาที่รั้วหน้าบ้าน สามคนปั่นจักรยานตามมาติดๆ
       บาสแปลกใจที่เห็นชาวบ้านมามุงดูเต็มไปหมด “ทำไมคนมามุงเต็มบ้านอย่างนั้น”
       “นั่นสิ…หรือว่าลุงชูเป็นอะไร”
       สมหวังสังหรณ์ใจ บาส กุหลาบ ตกใจ รีบปั่นจักรยาน ตามสายฟ้าเข้าไป
     
       สายฟ้าเห็นมีคนมามุงอยู่เต็มบ้าน ก็รีบลงจากรถ เข้าไปด้านใน บาส กุหลาบ สมหวังตามเข้ามา
       เสียงลูกวงทุกคนยังส่งเสียง “เราไม่ยอมๆ”
       สายฟ้าตวาด “เฮ้ย..หยุด”
       หมู่มวลค่อยๆ เงียบ เหลือเพียงสำลีที่ยังคงพูดอยู่
       สายฟ้าหันไปหาสำลีอย่างเอาเรื่อง
       “ไอ้สำลี ไอ้ปอยฝ้าย …นี่มันอะไรวะ”
       “พวกเราขอประท้วงเรื่องที่พี่สายฟ้าจะตัดค่าตัวพวกเราไปให้พี่จอมขวัญ”
       “ใช่…แบบนี้มันไม่ยุติธรรม” หมู่มวล
       “พวกเราทั้งหมดจะไม่ยอมให้พี่สายฟ้าตัดเงิน….เราไม่ยอมๆ” สำลีบอกขึงขัง
       ทั้งหมดร้องประสานเสียง ใส่สายฟ้าอีกครั้ง
       “เราไม่ยอมๆๆๆ”
       สายฟ้าตะคอก “พอได้แล้ว! แล้วนี่พ่อกับเจ๊เนาว์อยู่ไหน”
       ทุกคนเงียบ สายตามองไปในบ้านเป็นตาเดียวกัน
     
       สายฟ้ารีบวิ่งเข้าไป บาส สมหวัง และกุหลาบตามติด
       สายฟ้าแทบช็อก ที่เห็น ชูชนะ เจ๊จุ๊ และเจ๊เนาว์ถูกมัดอยู่กับเสาบ้าน
       “พ่อ” สายฟ้าตกใจ
       บาสเองก็ตกใจ “เจ๊จุ๊!...เจ๊เนาว์”
       สายฟ้าพุ่งเข้าไปแก้มัดให้ชูชนะ ส่วนสมหวัง กุหลาบ บาส ช่วยแก้มัดเจ๊เนาว์กับเจ๊จุ๊
       “พ่อเป็นอะไรหรือเปล่า” สายฟ้าถามอย่างห่วงใย
       “ไม่เป็นไร” ชูชนะบอก
       สายฟ้าโมโหมาก “แบบนี้มันทำกันเกินไปแล้ว”
       ชูชนะปราม “ค่อยพูดค่อยจากันนะ พวกมันคงไม่อยากทำแบบนี้หรอก”
       สายฟ้าไม่ฟัง วิ่งออกไป
     
       บรรดานักดนตรี แด้นเซอร์ยังประท้วงกันไม่เลิก สำลียังคงเป็นแกนนำ
       ทุกคนร้องตะโกน “เราไม่ยอมๆ”  
       สายฟ้าเดินออกมาด้วยความโมโห ตรงเข้าไปชกหน้าสำลีเต็มแรง สำลีหงายเงิบลงไปกองที่พื้น
       สายฟ้าจะหันไปต่อยปอยฝ้าย ทว่าปอยฝ้ายหลบฟุบลงไปที่พื้นแล้ว
       สมหวัง บาส กุหลาบ ชูชนะ เจ๊เนาว์ ลุกตามออกมาเห็นเหตุการณ์ก็ตกใจ
       ทุกคนเงียบกริบ คล้ายจะสลายตัว
       “มึงจะมากไปแล้วนะไอ้สำลี” สายฟ้าคำราม
       สำลีสลัดความมึนแล้วลุกขึ้น ตาเขียวทั้งเบ้า
       “พี่สายฟ้า ทำไมถึงต้องลงไม้ลงมือกันด้วย”
       “ถ้าพ่อเป็นอะไรไปจะทำยังไง”
       สำลีนิ่ง เงียบกริบ
       สายฟ้าถามออกมา “พวกแกจะเอายังไงว่ามา”
       “ชั้นก็แค่อยากได้เงินของชั้น มันมาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเรานะ” สำลีหันไปทางหมู่มวล
       “ใช่!” ทุกคนบอก
       “ได้! ในเมื่อทุกคนยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ชั้นทำ จะได้ไม่ต้องยื้อกันต่อไป”
       ทุกคนเงียบกริบ มองอย่างงๆ หวั่นๆ ว่าสายฟ้าจะทำอะไร
       “ไอ้บาส สมหวัง กุหลาบ เข้ามาช่วยชั้นหน่อย”
     
       สายฟ้า บาส สมหวังและกุหลาบเดินตามเข้าไปในบ้านอย่างงงๆ
         สักครู่หนึ่ง ทั้งสามก็เดินตามสายฟ้าออกมาพร้อมเครื่องดนตรี และของมีค่าอีกหลายชนิด
     
       สายฟ้าถามปอยฝ้าย “เป็นหนี้แกเท่าไหร่”
       ปอยฝ้ายบอก “แปดพัน”
       สายฟ้าหยิบแซก กับ ทรัมเป็ตแล้วยื่นให้ปอยฝ้าย
       สายฟ้าหันมาหาสำลี “ของแกเท่าไหร่”  
       “แปดพันเหมือนกัน”
       สายฟ้าหยิบกีร์ต้ายื่นให้ พร้อมฉาบอีกหนึ่งคู่
       “เผื่อไม่พอ” สายฟ้าว่า ก่อนจะหันมาทางแดนเซอร์นางหนึ่ง “ของเธอเท่าไหร่”
       “สองพัน”
       สายฟ้าหันไปหยิบเครื่องดนตรีอีกชิ้นส่งให้
       ปอยฝ้ายงง “นี่มันอะไรพี่สายฟ้า”
       “ก็ชั้นเป็นหนี้พวกแกไง ชั้นก็ใช้หนี้ไง พวกแกก็เอาไปขายแล้วก็เอาเงินไปแบ่งกัน ใครยังไม่ได้ไปเอาในบ้านนะ อยากได้อะไรก็เอาไปให้หมด!”
       สำลีทะแม่งๆ หู “ขายแล้วคราวหน้าจะเอาอะไรเล่นล่ะ”
       “เลิก! ไม่ต้องเล่น”
       สายฟ้าประกาศก้อง แล้วเดินผ่านหน้าสมหวังเข้าบ้านไป
       สมหวังมองสายฟ้าอย่างเป็นห่วง
       ทุกคนพากันอึ้ง และมองสำลีกับปอยฝ้ายเป็นตาเดียว
       “แล้วทำไงละคราวนี้” ปอยฝ้ายถามเสียงอ่อยๆ
       สำลีหันมาทางชูชนะ “พ่อ จะเลิกวงจริงๆ เหรอ”
       “เดี๋ยวข้าไปคุยกับไอ้สายฟ้ามันเอง”
       ชูชนะรีบตามสายฟ้าเข้าไปในบ้าน
       แดนซ์เซอร์นางหนึ่งลุกขึ้นโวยใส่สองสหาย “แกสองคน หาเรื่องจนพวกชั้นตกงานจนได้”
       สำลีอึ้ง “อ้าว…ไหงเป็นงี้”
       ปอยฝ้ายด่า “เสียงมึงอ่ะดังที่สุดเลยอีเป็ด!”
       “ทำอะไรไม่คิด แล้วคราวนี้จะทำยังไง” เจ๊เนาว์ด่าซ้ำ
       “อยู่ดีไม่ว่าดี เป็นไงคราวนี้ ได้ตกงานกันทั่วหน้า” เจ๊จุ๊จัดให้อีกดอก
       สำลีทำเป็นกร่าง “กลัวอะไร อย่างมากก็หางานใหม่!”
       เจ๊จุ๊แว๊ดใส่ “ทำเป็นปากดี ขี้เกียจก็อย่างเอ็ง ใครเค้าจะจ้าง”
       สำลีจ๋อย หน้าสลดลง
     
       สายฟ้าเดินเข้ามานั่งสงบสติอารมณ์ในบ้าน นั่งเอามือกุมหน้า แบบหมดอาลัยตายอยาก ชูชนะตามมา ส่วนสมหวังเดินตามมายืนฟังอยู่ตรงหน้าประตู
     
       “ไอ้สายฟ้า ทำอย่างนี้ได้ไงวะ อยู่ดีๆ จะเลิกวง พ่อไม่ยอมนะโว๊ย”
       สายฟ้าเงยหน้าขึ้นมามองพ่อ ตาแดงๆ เหมือนคนร้องไห้
       “พ่อก็เหมือนกัน เมื่อไหร่ถึงจะเข้าใจ วงเรากำลังจะเจ๊ง ที่ผ่านมาขาดทุนตลอด พ่อเลิกฝันลมๆ แล้งๆ ซะที ว่าวงเราจะกำไรมหาศาล เหมือนสมัยพ่อยังเป็นนักร้อง มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด พอคิดว่าผมสนุกนักเหรอ ที่ผมต้องไปตามง้อจอมขวัญทุกวันๆ ผมทำงานตรงนี้มาเจ็ดปี นึกว่าพ่อจะนึกได้ว่าผมไม่มีความสุขเลย แต่เปล่าเลย พ่อไม่เคยสนใจผมเลย พ่อยึดติดกูกับสิ่งเดิมๆ ยึดติดอยู่กับอดีตอยู่นั้นแหละ พ่อเข้าใจมั้ย ว่าวงเรามันตกยุคไปแล้ว”
       ชูชนะอึ้งในสิ่งที่สายฟ้าพูด ชูชนะลงนั่งที่เก้าอี้อย่างหมดแรง นึกสะท้อนใจ
       “เอ่อ…พ่อรู้ว่าพ่อตกยุคไปแล้ว พ่อมันแก่ มันหมดความหมายมานานแล้ว…พ่อผิดด้วยเหรอที่พ่ออยากรักษาวงลูกทุ่งนี้ไว้ เอ็งเป็นลูกพ่อแท้ๆ เอ็งยังไม่รู้เลยว่าพ่อรักและศรัทธาลูกทุ่งมากขนาดไหน แล้วจะให้ใครมาเข้าใจ เอ็งอย่าลืมสิ ว่าเรามีวันนี้ได้ก็เพราะวงลูกทุ่ง มันเป็นสิ่งล้ำค่าสิ่งสุดท้ายที่พ่อเหลืออยู่ พ่ออยากให้เอ็งรักษามันเอาไว้ให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน คนที่รักลูกทุ่งก็เหลือน้อยเต็มที ที่ผ่านมาพ่อหวังว่าเอ็งจะรักมันเหมือนที่พ่อรัก ที่ไหนได้ มันก็เป็นแค่สิ่งที่เอ็งฝืนทำ! ต่อไปนี้เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง ข้าเหนื่อยมามากแล้ว มันคงถึงเวลาของมันแล้ว ที่จะสิ้นสุดวงลูกทุ่งชูชนะ วทัญญูเสียที!”
       สายฟ้านั่งฟังอย่างสะเทือนใจ
       สมหวังมองดูสองพ่อนั่งซึมอยู่คนละด้านแล้วยิ่งเห็นใจ
     
       สมหวังเดินเข้ามาหาเจ๊เนาว์ที่หน้าบ้าน
       “เจ๊เนาว์ขอยืมโน๊ตบุ๊คหน่อย”
       “โน๊ตบุ๊คเหรอได้ๆ”
       เจ๊เนาว์เดินไปหยิบโน๊ตบุ๊คให้
       “พี่บาส ชั้นวานเอาจอโปรเจคเตอร์ไปติดให้ชั้นในโรงซ้อมเต้นหน่อย”
       “ได้จ้ะ…สำหรับน้องสมหวังพี่ทำได้ทุกอย่าง”
       กุหลาบงง “สมหวังจะทำอะไรน่ะ”
       “เดี๋ยวพี่กุหลาบไปกับชั้นที่โรงซ้อมเต้น”
       เจ๊เนาว์เอาโน๊ตบุ๊คมาให้สมหวัง  
       สมหวังบอกกับทุกคนที่นั่งจ๋องกันอยู่ “พี่ๆ ทุกคนจ๊ะ เดี๋ยวช่วยรบกวนตามชั้นไปที่โรงซ้อมเต้อนหน่อยนะ”
       สมหวังเดินนำไป ทุกคนงงๆ แต่ก็เดินตามสมหวังไป
     
       บาส กุหลาบ และสมหวัง กำลังช่วยกันต่อโน๊ตบุ๊คเข้ากับจอโปรเจคเตอร์
       “สมหวังเอ็งจะเปิดอะไรให้พวกชั้นดูวะ” ปอยผ้าสงสัย
       สำลีบ่น “จะให้ดูอะไร ตอนนี้ไม่มีอารมณ์หรอกนะ”
       “เอาน่า…ชั้นรบกวนพวกพี่แป๊ปเดียว”
       สมหวังเปิดคลิปการแสดงชุดหนึ่งของยูทูปให้ทุกคนดู เป็นการแสดงของต่างประเทศ ที่ดูอลังการ ทั้งแสงสี เสื้อผ้า ขึ้นบนจอ
       จากที่ทุกคนไม่ค่อยสนใจ ก็เริ่มสนใจ และเริ่มวิจารณ์การแสดงว่าสวย
       ครู่ต่อมา ขณะที่ทุกคนกำลังดูเพลินๆ สมหวังก็กดสต๊อป ทุกคนหันมามองสมหวัง แล้วโวยวาย
       “หยุดทำไมวะสมหวัง…กำลังดูเพลินๆ” แด๊นเซอร์นางหนึ่งโวย
       นักดนตรีอีกคนบ่นตาม “นั่นสิกำลังสนุกเลย”
       “รู้มั้ยว่าทำไมวงเราถึงไม่พัฒนาแบบวงอื่นเค้า” สมหวังเริ่มตั้งคำถาม
       ทุกคนส่ายหัว
       “ก็เพราะเราไม่มีแบบนี้ไง” สมหวังบอก
       “อีกกี่ปีถึงจะทำแบบนั้นได้ นั่นมันฝรั่งเรามันคนไทย จะเทียบกันได้ยังไง” สำลีว่า
       ปอยฝ้ายเห็นด้วย “อีกอย่างมันต้องลงทุนอีกเยอะ แล้วดูสภาพวงเราตอนนี้”
       เจ๊จุ๊หมั่นไส้ “ก็มันปากดีอย่างนี้ไง…เค้ากำลังคิดหาทางออกให้ ก็มาขัดเค้า เอาอีกสักผัวะมั้ย”
       ไม่พูดเปล่า เจ๊จุ๊ง้างหมัด สำลีหลบวูบ
       สมหวังพูดต่อ “ฝรั่งแล้วยังไงไม่ใช่คนเหรอ เราก็มีหนึ่งสมอง สองมือ สองเท้า เท่าเค้า ทำไมเราจะทำไม่ได้ ส่วนเรื่องลงทุนก็อย่าเพิ่งไปพูดถึงเราค่อยเป็นค่อยไปก็ได้”
       ทุกคนอึ้ง! บาสกะกุหลาบมองสมหวังอย่างภูมิใจ
       “ถ้าวงเราทำได้แบบนี้ จะเรียกค่าตัวเป็นแสนก็ได้ เค้าต้องยอม พอวงเรามีเงิน ทุกคนก็จะได้เงินเพิ่มไปด้วย นี่เป็นหนทางเดียวที่เราจะรอด”
       ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เจ๊เนาว์ที่ยืนฟังปลีกตัว เดินดิ่งไปยังบ้าน
       “เพราะฉะนั้นเราทุกคนก็ต้องร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันทำให้มันดียิ่งขี้น”
       ทุกคนยิ้มอย่างมีความหวัง
     
       ขณะเดียวกันสายฟ้ากับชูชนะ ยังคงนั่งเงียบงันอยู่คนละด้าน เจ๊เนาว์เดินเข้ามาหา
       “สายฟ้า…ไปกับเจ๊หน่อย”
       “มีอะไรอีกล่ะเจ๊ ใครจะเอาอะไรก็ให้เอาไป ผมไม่ยุ่งแล้ว”
       “เอาน่าลงไปก่อนเถอะน๊า” เจ๊เนาว์ดึงแขนสายฟ้าลงไป บอกขณะจะผ่านชูชนะ “พ่อด้วย”
       เจ๊เนาว์คว้าแขนชูชนะให้ลุกตามมาอีกคน
     
       “อะไรของมึงวะอีเนาว์” ชูชนะตามแรงลากของเจ๊เนาว์ไปแบบงงๆ
          ที่โรงซ้อมเต้น สมหวังยังคงพูดปลุกใจลูกวงทุกคนอยู่
     
       “แล้วที่พวกเราไปต่อว่าคุณสายฟ้าว่าเป็นนายทุนคอยเอาเปรียบพวกเรา ลองคิดดูดีๆ ซิว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเอาเปรียบ ทุกคนลองถามใจตัวเองซิว่า ที่ทำงานกันอยู่ทุกวั้นนี้เคยให้ใจเต็มร้อยกับวงมั้ย”
       สมหวังกวาดตามองทุกคน…ซึ่งเริ่มท่าทีที่สลด บาสหันไปพูดกับกุหลาบ
       “น้องสมหวังนี่เจ๋งจริงๆ เลยเนอะ…ตัวเล็กแค่เนี้ย แต่ดูมีพลัง สามารถทำให้พวกคนงานสงบได้”
       กุหลาบได้ทีคุยฟุ้ง “น้องชั้นเก่งปะละ”
       “เก่งสิ…เก่งกว่าเธอเป็นร้อยเท่า”
       กุหลาบเชิดใส่ บาสหัวเราะ
       เจ๊เนาว พาสายฟ้ากับชูชนะเข้ามา เห็นสมหวังกำลังพูดกับลูกวง
       “ทุกคนเอาแตถามว่าวงจะให้อะไรเรา แต่เราเคยถามตัวเองบ้างมั้ย เราให้ใจกับวงหรือยัง เราทำงานเต็มกำลังเพื่อวงเราหรือยัง ทุกคนลองนึกกลับไปวันที่พวกเราเข้ามาในวันแรกว่าเราเข้ามาเพราะอะไร เพราะเรารักที่จะทำอาชีพนี้ใช่มั้ย รักที่จะเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ใช่มั้ย แล้วทำไมเราไม่กลับมาสู้ด้วยใจเหมือนวันแรกที่เราเข้ามากันอีกครั้ง”
       ทุกคนต่างมองกัน และจับมือกัน เหมือนว่าจะเริ่มต้นกันใหม่
       ระหว่างนั้น สมหวังเหลือบไปเห็นสายฟ้า
       “ถ้าคุณสายฟ้าเอาเปรียบพวกเรานะ…เค้าคงไม่ปล่อยตัวให้โทรมขนาดนี้” ทุกคนหันไปมองสายฟ้า สายฟ้าทำตัวไม่ถูก “เสื้อผ้าทั้งเชยทั้งเก่า นึกว่าชาวไร่ชาวนา หน้าก็เริ่มเหี่ยว ขอบตาดำ ผมก็กระเซอะกระเซิง เป็นลุงแก่ๆ คนนึง”
       ทุกคนยิ้มๆ
       สายฟ้าสะอึก เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง พยายามเอามือลูบหน้า เช็คเสื้อผ้า ว่าเป็นอย่างที่สมหวังพูดหรือเปล่า
       “ถ้าเป็นเจ้าของวงคนอื่นป่านนี้แต่งตัวหล่อ คอยนั่งนับเงิน มีผู้หญิงมาคอยปรนนิบัติไปนานแล้ว ไม่ต้องมาคอยจ้ำจ้ำไชกับพวกเราอย่างนี้”


อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 4/3 วันที่ 22 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th