อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5 วันที่ 23 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5 วันที่ 23 ก.ย. 55 

“ถ้าเป็นเจ้าของวงคนอื่นป่านนี้แต่งตัวหล่อ คอยนั่งนับเงิน มีผู้หญิงมาคอยปรนนิบัติไปนานแล้ว ไม่ต้องมาคอยจ้ำจ้ำไชกับพวกเราอย่างนี้”
      สายฟ้าปลื้มสุดๆ สมหวังเรียก “เชิญคุณสายฟ้าตรงนี้ดีกว่าค่ะ”
       หมู่มวลแหวกทางให้สายฟ้าเดินไปข้างหน้า ท่ามกลางสายตาอันสำนึกผิดของทุกคน
       “ชั้นคิดว่า พี่สำลีกับพี่ปอยฝ้ายมีอะไรจะพูดกับคุณสายฟ้านะ” สมหวังบอก
       สำลีกับปอยฝ้ายหันขวับ ไม่รู้ตัวว่าจะมีคิวที่ต้องพูดด้วย ทำอะไรไม่ถูก หน้าตาเลิ่กลั่ก
       “ชั้นเหรอ”
       “มึงอ่ะไปคนเดียว ไอ้ตัวต้นคิด” ปอยฝ้ายชิ่งเห็นๆ
       สำลีโวย “มึงก็คิด”
       สมหวังร้องบอก “ทั้งสองคนนั่นแหละ”
       สำลีกับปอยฝ้ายเดินหน้าละห้อย เข้ามาหาสายฟ้า
       สำลีนิ่ง ยกมือไหว้ชูชนะ “พ่อผมขอโทษที่ผมล่วงเกินพ่อในวันนี้” ไหว้สายฟ้า “พี่สายฟ้า ผมสองคนขอโทษ”
       ปอยฝ้ายยกมือไหว้ขอโทษด้วย
       “เรื่องวันนี้ไอ้สำลีเป็นคนคิดคนเดียวผมไม่เกี่ยว”
       สำลีจ้องหน้า “ไอ้เพื่อนชั่ว! มึงด้วย!”
       “ครับ…ผมด้วย! ผมสองคนผิดเอง ที่ไปยุยงพวกนี้ให้มาประท้วง ต่อไปนี้ผมสัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหาขึ้นอีกแล้ว และจะช่วยกันพัฒนาวงของเราให้มันดีขึ้น”
       สายฟ้ายังคงนิ่งๆ อยู่ ไม่ได้พูดอะไร ปอยฝ้ายกับสำลีรอลุ้นว่าสายฟ้าจะให้อภัยหรือเปล่า
       “เรื่องแล้วก็ให้มันแล้วไป…เราจะช่วยกันพัฒนาวงให้มันดีขึ้น ใช่มั้ยพวกเรา”
       ทุกคนร้องพร้อมกัน “ใช่”
       ทุกคนยิ้มและปรบมือด้วยความปลาบปลื้ม
       สายฟ้าหันไปสบตาสมหวังแล้วยิ้มให้เป็นเชิงขอบคุณ
       สมหวังเห็นบรรยากาศชื่นมื่น จึงเริ่มร้องเพลง “สมหวังนะจ๊ะ” ท่วงทำนองสนุกสนานร่าเริง ทุกคนดีใจลุกขึ้นมาเต้น รวมใจเป็นหนึ่งเดียวที่จะเริ่มพัฒนาวงกันใหม่
     
       สมหวังกดโทรศัพท์หาป้าชวน สองป้าหลานคุยโทรศัพท์ตัดสลับกับยายชวน
       “ฮัลโหล…ยาย”
       ป้าชวนทาแป้งหน้าขาววอก นั่งดูทีวีอยู่
       “นังสมหวัง….เป็นยังไงบ้างวะ”
       “สบายดีจ้ะยาย…แล้วยายล่ะเป็นไงบ้าง”
       “สบายสุดๆ นั่งกินนอนกิน …ยายโทรไปหาเอ็งทีไร ทำไมปิดโทรศัพท์ทุกที”
       “ก็เค้าไม่ให้ใช้โทรศัพท์นี่”
       “เออ…ลืมไป”
       สมหวังนิ่งไปแล้วจู่ๆ ตาแดงๆ “ยาย….ชั้นคิดถึงยายนะ”
       ป้าชวนน้ำตาคลอเช่นกัน “ยายก็คิดถึงเอ็ง”
       “เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านสักทีก็ไม่รู้”
       “คงอีกไม่นานหรอก…เอ็งอดทนไปก่อนนะ…อยู่ที่นั่นน่ะมันปลอดภัยดีแล้ว”
       “จ้ะยาย”
       “อยู่ที่นั่น มีเรื่องลำบากใจบ้างมั้ย”
       “ไม่มีเลยจ้ะ คนที่นี่น่ารัก”
       “ดีแล้ว…ส่วนยายเอ็งไม่ต้องห่วงเลยนะ หมวดวันชาติเค้าแวะมาดูยายอยู่เสมอ”
       “เดี๋ยวชั้นจะลองขอให้หมวดวันชาติพาไปชั้นไปหายายนะ”
       ป้าชวนยิ้มร่า “ดีๆ ถ้าเอ็งมาไม่ได้ เดี๋ยวยายให้หมวดพาไปหาเอ็งเลย”
       สมหวังหันไปเห็นกุหลาบเดินเข้ามา
       “ยาย…แค่นี้ก่อนนะ ว่างๆเดี๋ยวชั้นโทรหาใหม่”
       สมหวังวางโทรศัพท์ กุหลาบเดินมาถึงตัวสมหวังพอดี
       “มายืนทำอะไรตรงนี้…แม่ฮีโร่ของพี่” กุหลาบแซว
       “ฮีโร่อะไรกันพี่กุหลาบ…”
       “ถ้าวันนี้ไม่ได้สมหวัง…ไม่รู้ว่าเรื่องจะจบยังไง มีหวังต้องยุบวงแน่ๆ”
       “ชั้นสงสารพ่อชูกับคุณ….” สมหวังอึกอัก
       “สายฟ้า” กุหลาบต่อให้
       “อืม…ชั้นเห็นพ่อกับคุณสายฟ้าทำเพื่อทุกคน แต่ทุกคนไม่เคยเห็นใจพวกเค้าเลย”
       “คนเราก็คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่เคยคิดถึงส่วนร่วมเลย อย่างน้อยวันนี้พวกนั้นคงคิดได้บ้าง..และต้องหันกลับมาร่วมมือกัน…เก่งมากน้องพี่ …ไปกันเถอะ คุณสายฟ้าให้มาตามไปในบ้าน”
       “ไปทำไมอีกอ่ะ” สมหวังแปลกใจ
       กุหลาบส่ายหน้า...บ่ฮู้
     
       ภายในห้องรับแขก โน๊ตบุ๊คเป็นภาพโชว์ที่สมหวังเปิดให้ดู และกำลังจบพอดี
       สมหวัง สายฟ้า เจ๊เนาว์ บาส ชูชนะ กุหลาบ นั่งดูอยู่ด้วยกัน
       “เป็นอันว่าเราตกลงจะปรับปรุงให้มันเป็นแนวนี้ใช่มั้ย” สายฟ้าถามขึ้น
       “มันก็ดีนะ แต่เราจะทำแบบนี้ได้ยังไง…เจ๊ยังห่วงอยู่” เจ๊เนาว์บอก
       “ได้สิเจ๊ ถ้าทุกคนรวมกัน” บาสว่า
       สายฟ้าหันมาทางสมหวัง “เธอคิดว่าเราจะปรับปรุงอะไรก่อนดี”
       สมหวังสบตากับสายฟ้า
       “ชั้นคิดว่ามีเรื่องใหญ่ๆ ที่เราต้องปรับปรุงคือ เสื้อผ้ากับการแสดงหน้าเวที”
       “ชั้นเห็นด้วยกับเธอ”
       สมหวังบอกต่อ “เรื่องเสื้อผ้าชั้นกับพี่กุหลาบจะเป็นคนจัดการเอง”
       บาสรีบบอก “ส่วนเรื่องการแสดง ผมกับเจ๊เนาว์จะเป็นคนจัดการ”
       ชูชนะงง “แล้วข้าต้องทำอะไรวะ”
       เจ๊เนาว์บอกขำๆ “พ่อก็นั่งเฉยๆ คอยเป็นคอมเม้นเตเตอร์”
     
       สายฟ้านั่งคิดไปคิดมา แล้วจู่ๆ สีหน้าก็เหมือนจะหนักใจขึ้นมาอีกครั้ง
       “ถ้าเราจะปรับปรุงกันขนาดนี้ ยังไงก็ต้องใช้เงินอยู่ดี ตอนนี้เงินในวงก็เหลือแค่ซื้อกับข้าวเลี้ยงทุกคนไปวันๆ เท่านั้นเอง”  
       ทุกคนนิ่ง เงียบงันกันไป
       “เป็นอะไรกัน”
       ทุกคนหันมามองชูชนะเป็นตาเดียว
       สายฟ้าบอก “ก็เราไม่มีเงินไงพ่อ”
       “ใครบอกเอ็งว่าไม่มี”
       ทุกคนยิ่งเพ่งมองชูชนะอย่างงๆ
     
       สักครู่หนึ่ง ชูชนะเดินถือกล่องอะไรบ้างอย่างเข้ามา
       “อะไรนะพ่อ” สายฟ้าสงสัย
       “นี่แหละโว้ย…เงินที่จะเอามาพัฒนาวง”
       พอชูชนะเปิดกล่องเล็กๆ ออก ก็เห็นสร้อยคอทองคำเส้นโต 4-5 เส้น แต่ละเส้นหนัก ไม่ต่ำกว่า 5 บาทขึ้นไป
       ทุกคนตาโตร้อง “ว้าว”
       “ตอนแรกข้าจะเก็บไว้เป็นมรดกให้เอ็ง ในเมื่อมันจำเป็นก็เอามาใช้ก่อน” ชูชนะว่า
       “พ่อ…ขืนรอถึงตอนนั้นรับรองหนี้ท่วมหัวแน่”
       บาสคันมือ หยิบเอาเส้นหนึ่งขึ้นมาดู
       “อู้หู้…เกิดมายังไม่เคยเห็นทองเส้นใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยอ่ะ…” บาสจับพระที่ห้อยอยู่กับสร้อย “พ่อ…นี่หลวงพ่ออะไร”
       “ไหนดูสิ…อ๋อ..สมเด็จวัดปากน้ำรุ่นสอง หายากแล้วนะเว๊ย”
       “อย่างนี่อย่าว่าแต่ปรับปรุงวงเลย ตั้งวงใหม่ก็ยังได้” บาสว่า
       “เฮ้ยๆๆ ข้าให้แต่สร้อยกับกรอบ….หลวงพ่อท่านไม่ธุดงค์!” ชูชนะพูดจบยกพระขึ้นเหนือหัว
       “ลูกช้างขอยืมจีวรหลวงพ่อไปต่อชีวิตก่อนนะหลวงพ่อ ต่อเมื่อมีเมื่อไหร่แล้วลูกจะเลี่ยมคืนให้กรอบใหญ่กว่าเดิม…สาธุ”
     
       ทุกคนมองชูชนะแล้วหัวเราะ อย่างตื้นเต้น เห็นทางออกของวงแล้ว
      ตอนสายวันต่อมาหมวดวันชาติเดินออกมาหน้าโรงพัก
           “ถ้าสารวัตรถามถึงผม บอกว่าเดี๋ยวผมกลับมา ผมไปทำธุระแป๊ปนึง”
       วันชาติบอกลูกน้อง เดินไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป
       แดน นั่งซุ่มอยู่บนมอเตอร์ไซค์ พอเห็นรถหมวดวันชาติขับออกไป ก็สตาร์ทเครื่องขี่ตามไป!
       รถหมวดวันชาติแล่นมาตามทาง แดนขี่ตามไปติดๆ!
     
       รถหมวดวันชาติแล่นมาจอดที่หน้าร้านชวนชมภูษา ตามมาด้วยรถแดนที่ขับมาเทียบอยู่อีกฝากหนึ่ง
       หมวดวันชาติกดกริ่งหน้าร้าน ป้าชวนเดินออกมา
           “สวัสดีครับป้า” หมวดยื่นถุงขนมให้ป้า
           “ขอบคุณมากค่ะหมวด…แล้วนี่ไปหาจ่ากุหลาบกับสมหวังมาด้วยหรือเปล่าคะ”
           “ยังเลยครับ…กะว่าจะไปอยู่เหมือนกัน”
           “ชั้นคุยกับสมหวังมัน มันอยากจะมาหาชั้นผู้หมวดพอจะมีทางให้ชั้นกับนังสมหวังได้เจอกันบ้างได้มั้ยคะ” ป้าชวนคร่ำครวญ คิดถึงสมหวัง
           วันชาติลำบากใจ “ผมว่าอย่าเพิ่งดีกว่านะครับ ขอให้คดีมันคลี่คลายมากกว่านี้ก่อนดีกว่า”
           ป้าชวนหน้าละห้อย “ก็ได้ค่ะ”
       แดน เห็นหมวดวันชาติกับป้าชวนคุยกันอยู่ ก็สงสัย
           “ทำไมไอ้หมวดนนั่นมันมาที่นี่วะ”
       ครู่หนึ่ง แดนก็เห็นหมวดวันชาติขับรถออกไป
     
       ป้าชวนกำลังจะเดินเข้าบ้าน แดนเดินเข้าหา
           “ป้า”
       ป้าชวนหันมาก็ตกใจ “มาหาใคร?”
           “เปล่า….ป้าอยู่ร้านนี้คนเดียวเรอะ”
       ป้าชวนมองแดนหัวจรดเท้าอย่างไม่ไว้ใจ
           “ใช่! ชั้นอยู่คนเดียว..มีอะไร…จะตัดชุดก็เข้ามาวัดตัวก่อน”
           “แล้วเมื่อก็ตำรวจมาทำอะไร”
           “เค้ามาตัดชุด…ถามทำไม”
           “ก็ถามดู…ดีนะร้านป้ารับตัดชุดทุกอย่างเลย ชุดตำรวจก็ตัดด้วย”
           “ตำรวจเมื่อกี้เค้ามาตัดสูท ไม่ใช่ตัดชุดตำรวจ…แล้วสรุปเอ็งจะตัดหรือเปล่า” ป้าชวนว่า
           “ไม่ดีกว่า…เดี๋ยวค่อยมาวันหลัง”
       แดนเดินออกไป ป้าชวนมองตามอย่างจับสังเกต ท่าทางเป็นกังกล!
     
       ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์ยอดชายดัง ยอดชายรับโทรศัพท์ ยอดชายคุยโทนศัพท์กับแดน
           “ว่ายังไง”
           “ผมสะกดรอยตามไอ้หมวดนั่นอยู่” แดนรายงาน
           “ได้เรื่องยังไงบ้าง”
           “มันมาที่ร้านตัดเสื้อร้านนึง ชื่อร้านชวนชมภูษา ไม่รู้ว่ามาทำไม” แดนบอก
           “ร้านชวนชมภูษา…ร้านนั้นที่อีแก่มันไปตัดชุดนี่…ไอ้หมวดนั่นมันไปทำอะไรของมัน…แกตามมันต่อไปอย่าให้คาดสายตานะ”
           “ครับ”
       ยอดชายวางโทรศัพท์ สีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด ก่อนจะพึมพำออกมา
       “ร้านชวนชมภูษา…มันไปทำอะไรของมัน”
       ระหว่างที่ยอดชายคิดไปคิดมาอยู่นั้น ดันเหลือบไปมองกรอบรูปศรีสมรที่ยิ้มสง่าอยู่บนหัวเตียง
           “มองทำไม!...หัวเราะเยาะกูเหรอ”
       ยอดชายเข้าไปกระชากรูปศรีสมรลงมา แล้วปาลงพื้น!
       “ตายไปแล้วยังสร้างความลำบากไว้ให้กูอีก แค่ยกมรดกให้กูมันมีปัญหามากนักใช่มั้ย ไหนมึงบอกว่าไว้ใจกู รักกูไง อีแก่!”
       ยอดชายหยิบคัตเตอร์แถวนั้นมากรีดภาพ “เห็นแล้วหมั่นไส้”
       ยอดชายนั่งสงบสติอารมณ์
       สักครู่หนึ่ง ยอดชายนึกอะไรออก แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาใครบางคน
     
       หมวดวันชาติกลับถึงสน.แล้ว กำลังรับโทรศัพท์จากยอดชาย
       “สวัสดีครับ ผมวันชาติพูดครับ….คุณยอดชายเหรอครับ…ครับ….อยากพบผม…ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าครับ…ได้ครับ…งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ”
     
       ที่โรงซ้อมเต้นในวันต่อมา ยินเสียงเพลงจากวิทยุดังกระหึ่มขึ้น โดยมีบาสกำลังแกะท่าเต้นอยู่ ในขณะที่บรรดาแด้นเซอร์สาวๆ กำลังฝึกสเตป ตามที่บาสเพิ่งสอนไป
       ส่วนเจ๊เนาว์คอยเดินตรวจดูความเนี้ยบและเป๊ะของท่าเต้นแต่ละคน บาสคิดท่าใหม่เสร็จพอดี บาสเดินไปกดปิดเครื่องเล่นซีดี
       “อ้าว…พวกเรา มารวมตรงนี้ เดี๋ยวเราจะทวนท่ากันตั้งแต่แรกก่อนนะ แล้วพี่จะเพิ่มท่าใหม่ให้”
           “พี่บาสปล่อยท่าเร็วแบบนี้ ยัยจอมขวัญจะตามทันเหรอ” แด้นเซอร์นางหนึ่งเอ่ยขึ้น
           เจ๊เนาว์    ตอบแทน “ช่างมันแล้ว…ถ้าเต้นไม่ได้ก็ให้อายเหมือนงานวันก่อน”
           “แล้วเค้าจะมาปะเนี่ยเจ๊” บาสสงสัย
           “บอกจะมาๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลย” เจ๊เนาว์บอกอย่างหมั่นไส้
           “งั้นไม่ต้องสนใจแล้วเรามาซ้อมต่อเลย” บาสบอก
       แด้นเซอร์ ตั้งแถวตามบล็อกกิ้งที่บาสจัดไว้ ดูแปลกตาและน่าสนใจกว่าเก่ามาก แด้นเซอร์ตั้งท่าเตรียมพร้อม
       บาสกดเปิดเพลง แด้นเซอร์ทุกคนออกลวดลายอย่างสวยงาม และพร้อมเพียง ท่าแต่ละท่าดูแปลกใหม่ขึ้น
       บาส กะเจ๊เนาว์ มองอย่างภูมิใจ
     
       ส่วนที่ห้องเก็บชุดแด้นเซอร์ ยินเสียงเพลงจากโรงซ้อมเต้นดังคลอมา สมหวังนั่งร่างแบบชุดแด้นเซอร์อยู่ พร้อมกับฮัมเพลงไป ตามเสียงที่ได้ยินมา อย่างอารมณ์ดี สายฟ้าเดินเข้ามาใกล้ได้ยิน สมหวังร้องเพลง จึงหยุดฟัง
           “เสียงดีนะเรา”
       สมหวังยิ้มรับแทนคำขอบคุณ “คุณ มีอะไรหรือเปล่า”
           “ชั้นยังไม่ได้ขอบใจเธอเรื่องเมื่อวานเลย” สายฟ้าบอกอย่างซึ้งใจ
       “ไม่เป็นไรหรอก..ชั้นทำไปเพราะไม่อยากเห็นทุกคนต้องทะเลาะกัน และไม่อยากเห็นใครบางคนเครียดจนหน้าย่นไปมากว่านี้”
           สายฟ้าชะงัก “นี่เธอหาว่าชั้นแก่เหรอ”
           สมหวังยิ้มขำๆ “เปล่าสักหน่อย”
           สายฟ้าไม่โกรธอะไร “ยังไงก็ขอบใจเธอมากนะ ที่ช่วยพูดจนทุกคนเข้าใจ”
       สมหวังยิ้มรับที่ถูกชม
       สายฟ้ามองไปเห็น “กำลังร่างแบบชุดอยู่เหรอ”
           “ค่ะ…ลองวาดไปเรื่อยไปเรื่อยๆ ก่อน จะหาว่าอันไหนเหมาะที่สุด”
       สายฟ้ามองดูแบบที่สมหวังสเก็ตดูราวกับมืออาชีพ ก็แปลกใจขึ้นมา
           “ว่าแต่ เธอออกแบบชุดเป็นด้วยเหรอ”
       สมหวังชะงัก อ้ำอึ้ง “คือ…ชั้นจำเค้ามา เคยเห็นดีไซเนอร์ที่ร้านทำ”
           “เธอก็มีความรู้เรื่องเสื้อผ้าเยอะเหมือนกัน น่าจะเปิดร้านตัดเสื้อมากกว่า”
       สมหวังนิ่งงันไป แล้วพยักหน้าเห็นด้วย
           “แต่อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้คอยช่วยชั้น”
       สมหวังหันมองสายฟ้า เห็นสายฟ้ามองมาที่ตนอยู่เลยรีบหลบสายตา
           “อ้อ…มีอีกเรื่องหนึ่ง”
       สมหวังหันมามองอีกครั้ง
           “ชั้นโทรมมากเลยเหรอ” สายฟ้าถาม
       สมหวังนึกหาทางออก “ไม่หรอก…ชั้นก็พูดไปอย่างงั้นเอง อย่างคุณเค้าเรียกว่าดูดีแบบธรรมชาติ”
     
       สายฟ้ามั่นใจขึ้น แอ่นอกขึ้นอยากภูมิใจ แอบปลื้มใจ!
         ภายในห้องรับแขก สายฟ้า เจ๊เนาว์ และกุหลาบ กำลังดูแบบสเก็ตชุดแด้นเซอร์ที่สมหวังออกแบบใหม่ เป็นดีไซน์ที่ดูเก๋เซ็กซี่และทันสมัย อยู่ด้วยกัน โดยมีสมหวังพรีเซ้นต์
     
       “นี่คือตัวอย่างชุดหางเครื่องใหม่ที่ชั้นลองร่างแบบมาให้ดู”
           กุหลาบทึ่ง “สวยจังเลยสมหวัง”
           เจ๊เนาว์ดี๊ด๊า ทึ่งเช่นกัน “ไม่คิดว่าเธอจะออกแบบชุดได้สวยขนาดนี้นะเนี่ย”
           สมหวังเขิน “ชั้นก็จำๆ เค้ามาน่ะ”
           สายฟ้าติงว่าโป๊ “ก็สวยดีนะ…แต่มันไม่ดูเซ็กซี่ไปหน่อยเหรอ”
           สมหวังอธิบาย “ไม่หรอก…แบบเนี้ยกำลังดี”
           “แล้วมันจะแพงมั้ยอ่ะ”
           “ก็นิดหน่อย…แต่มันก็ต้องลงทุน! รับรองชั้นจะทำให้ประหยัดที่สุด ไม่แพงอย่างที่คิด ชั้นจะเอาชุดเก่าๆ มารีไซเคิลด้วย” สมหวังบอก
       เจ๊นาว์ซัก “แล้วจะใช้เวลากี่วัน…ไม่เสียเวลาแย่เหรอ?”
           “ไม่ต้องห่วง…เดี๋ยวคอยดูฝีมือชั้นแล้วกัน” สมหวังบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่นมาดหมาย
     
       สมหวัง กะกุหลาบเดินเข้ามาในห้องเก็บและซ่อมชุด สองสาวอารมณ์ดี ร้องเพลงทำนองสนุกสนาน ขณะช่วยกันทำงาน
       สมหวัง กะกุหลาบ เดินไปหยิบเอาชุดเก่าๆ มากองรวมกัน พร้อมด้วยผ้าผืนใหม่หลากสี ด้วยอุปกรณ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น เลื่อม เพชรตกแต่งหลากสี มาเตรียมไว้
       สมหวังเริ่มออกลวดลายในการตัดผ้าอย่างคล่องแคล่ว โดยมีกุหลาบเป็นลูกมือ จังหวะต่อมาสมหวังเอาชุดเก่ามาตัดและต่อเป็นผ้าผืนเดียวกัน ร่างโครงตามแบบที่สเก็ตไว้ แล้วเอาผ้าผืนใหม่มาเย็บรวมเข้ากัน อย่างลงตัว
       จากนั้นสมหวังเอาชุดที่ประกอบเป็นรูปเป็นร่างตามแบบมาสวมไว้กับหุ่น แล้วเอา เลื่อม เพชร โบว์ ต่างๆ มาเย็บเข้ากับชุด
       ในที่สุดก็ออกมาเป็นชุดแด้นเซอร์ ที่ดูเซ็กซี่และทันสมัย เป็นการนำชุดเก่ามารีไซเคิล จนสำเร็จออกมาอย่างสวยงาม เด่นหราอยู่บนตัวหุ่น
       สมหวังกับกุหลาบ มองชุดด้วยความภาคภูมิใจ
           “สมหวังเก่งมากเลยอะ…ดูสวยกว่าในแบบอีกนะ” กุหลาบทึ่งเอามากๆ
     
       ระหว่างนั้น สายฟ้ากับเจ๊เนาว์เดินเข้ามา เห็นชุดที่อยู่ในหุ่น สายฟ้ากับเจ๊เนาว์ถึงกับตะลึง
           เจ๊เนาว์กรี๊ด บิดตูดมาดูใกล้ๆ “ว้าว…ดูสวยเก๋ไม่เหมือนใคร เซ็กซี่นิดๆ แต่ไม่น่าเกลียดจนเกินไป”
       สายฟ้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วยิ้มชื่นชมในฝีมือสมหวัง สายฟ้าเอามือไปจับคลำชุด ปรากฏว่าชุดหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ
       สายฟ้าตกใจ ทำอะไรไม่ถูก พยายามจะเอาไปติดไว้เหมือนเดิมแต่ก็ติดไม่เป็น สายฟ้าหันมายิ้มแหยๆ ให้สมหวัง
           “นี่คุณ ไม่ต้องตกใจ ชุดมันยังไม่ได้เย็บ ไปจับมันก็หลุดออกมาน่ะสิ” สมหวังปลอบ
       สายฟ้ายื่นชิ้นส่วนชุดให้สมหวัง
           “แล้วก็ไม่บอก ตกใจหมด!”
       สมหวังหัวเราะขำๆ
       สายฟ้าเพ่งพินิจชุดครู่หนึ่ง “ฝีมือ….ใช้ได้!”
       สมหวังยิ้มอย่างภูมิใจ “ของมันแน่นอนอยู่แล้ว!...คราวนี้ก็เหลือแต่ตัดเย็บให้สมบูรณ์ แล้วก็เตรียมไปโลดแล่นบนเวทีได้เลย!”
     
       ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ยอดชายนั่งเหมือนรอใครที่นัดไว้ อย่างกระวนกระวาย สักครู่หนึ่งหมวดวันชาติก็เดินเข้ามา
           “สวัสดีครับ” วันชาติทัก นั่งลงฝั่งตรงข้าม
           “สวัสดีครับหมวด เชิญนั่งก่อนครับ ชาหรือกาแฟดีครับ”
           “ขอบคุณครับ ไม่ดีกว่าครับ…คุณยอดชายมีธุระอะไรเหรอครับ”
           “ก็เรื่องเดิมนั่นแหละครับ ที่ผมขอหมวดไว้ ผมอยากจะเจอพยานด้วยตัวเอง”
           วันชาติปฏิเสธ “ผมคงช่วยคุณไม่ได้หรอกครับเรื่องนี้”
       ยอดชายอ้อน “ผมรู้ครับ…แต่ผมอยากตอบแทนอะไรเค้าบ้าง ทำไมไม่ได้ล่ะครับ มันเป็นความหวังดีของผมนะครับ”
           “ถ้างั้น…คุณอยากจะให้อะไรพยานก็ให้ผ่านทางผมก็ได้ครับ”
           “ผมแค่อยากให้กับมือเค้าเองไม่ได้เหรอครับ”
           “ได้ครับ! แต่ต่อเมื่อเสร็จสิ้นคดีครับ” วันชาติยืนกราน
           ยอดชายเซ็งๆ “ก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
       “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
       หมวดวันชาติเดินออกไป
           ยอดชายพึมพำ “คิดว่าแน่เหรอ…เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าใครแน่กว่าใคร!”
     
       หมวดวันชาติขึ้นรถตรงที่จอดรถบริเวณร้านกาแฟ และขับรถออกไป แดน แอบซุ่มอยู่ห่างออกไป พอเห็นรถหมวดวันชาติขับออกไป แดนรีบขี่ตามไปทันที!
     
       รถหมวดวันชาติแล่นมาตามถนนสายหนึ่ง วันชาติมองจากกระจกข้าง เห็นมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ขับตาม วันชาติตกใจ! จึงรีบมองกระจกหลังอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่กลับไม่เห็นแล้ว
       วันชาติพยายามมองอีกหลายรอบแต่ก็ไม่มี วันชาติส่ายหัว คิดว่าตัวเองคิดมากไป
       ครู่ต่อมา รถหมวดวันชาติแล่นอยู่บนถนน โดยมีแดนขี่รถตาไปติดๆ แต่แดนพยายามขี่หลบอยู่ข้างรถบรรทุก ทำให้วันชาติไม่เห็นแดน!
     
       หมวดวันชาติเลี้ยวรถเข้าโรงพัก แดนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านเลยไป ห่างออกมาหน่อยแดนจอดรถ ถอดหมวก สีหน้าหงุดหงิดที่หมวดวันชาติไม่ไปหาเป้าหมายสักที
           “ไอ้หมวดบ้าเอ๊ย!!...มันจะไม่ไปหาอีนังพยานนั่นเลยหรือไงวะ”
     
       ค่ำนั้นทุกคนรวมตัวกินข้าวด้วยกันอยู่ที่โรงครัว สายฟ้าเอ่ยขึ้น
       “วันนี้ชั้นได้เห็นความตั้งใจของทุกคนที่ร่วมกันพัฒนาวงเราให้ดียิ่งขึ้น ชั้นอยากจะขอบคุณทุกคนจริงๆ”
       ทุกคนเฮ

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 5 วันที่ 23 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th