อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 7 วันที่ 28 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 7 วันที่ 28 ก.ย. 55 

  สายฟ้า เจ๊เนาว์ สมควร ช่วยกันนับเงินค่าบัตร แล้วเขียนตัวเงินลงไป 200,000
    
       คิวงานบนกระดานครั้งต่อมาเป็นที่ “ด่านขุนทด โคราช”
       เมื่อถึงวันเวลาแสดงคนดูให้การต้อนรับสมหวังอย่างคับคั่งเนืองแน่น และแฟนคลับ พ่อยก แม่ยก ที่จำนวนเพิ่มมากขึ้น ต่างมารุมมาอออยู่หลังเวที เพื่อจะให้ของสมหวัง
       “โทษนะครับ เดี๋ยวรบกวนมาให้หลังการแสดงนะครับ ตอนนี้กำลังจะแสดงแล้ว”
       พ่อยก แม่ยก ต้องจำยอม แล้วกลับไปหน้าเวที
       ภายในห้องแต่งตัวนักร้อง สายฟ้าเอาอาหารที่เตรียมไว้มาให้สมหวังทาน สมหวังยิ้ม
       “ขอบคุณค่ะ”
      
       สมหวังขึ้นเวทีร้องเพลงอย่างมั่นใจมากขึ้น และเปลี่ยนชุดใหม่ตามเพลงที่ร้องพร้อมแด๊นเซอร์ สวยงามตระการตา
       สมหวังทักทายแฟนเพลง “สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้อง แฟนคลับทุกคนนะคะ”
       คนดูกรี๊ดสลบ แม่ยก พ่อยก แย่งกันคล้องพวงมาลัย
       หลังเวที สายฟ้านับเงินค่าบัตร และเขียนตัวเลขลงไป 210,000 บาท
     
       คิวงานครั้งต่อไป เป็นที่ “แก่งคอย สระบุรี”
       คืนนั้น มีพ่อยกแม่ยก แฟนเพลงที่มายืนรอสมหวัง ได้กระทบกระทั่งกัน จนเกิดโมโหและลงไม้ลงมือกัน ทั้งคู่ตาเขียวเป็นหมีแพนด้า สมหวังเข้ามาเคลียร์ด้วยตัวเอง
       “หยุดเถอะนะคะ ชั้นขอร้องล่ะ จับมือกันเป็นพี่น้องกัน ใครจะมาก่อนใครจะมาหลังไม่สำคัญ ชั้นถือว่าทุกคนเท่าเทียมกันนะคะ จับมือกันดีกันดีกว่านะคะ”
       พ่อยกมองหน้ากันแล้วค่อยๆ จับมือกัน สมหวังยิ้มแฉ่งดีใจมาก
     
       สายฟ้าชูนิ้วเป็นเชิงชมว่าเยี่ยมมาก
         ที่แก่งคอย สระบุรีเป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่ทุกคนเตรียมตัวทำการแสดงอย่างเต็มที่
     
       ที่หน้าเวที สมหวังร้องเพลงพร้อมกับแด๊นเซอร์ อย่างพร้อมเพรียงเข้าขา สมหวังยังคงเปลี่ยนชุดไปตามเพลงที่ร้อง แต่ละชุดสวยงามตระการตา เข้ากับอารมณ์เพลงทั้งเพลงช้า และเพลงเร็ว ลีลาของสมหวังแพรวพราวมากขึ้นตามประสบการณ์
       คนดูกรี๊ดสลบ!
       หลังเวทีการแสดงที่จังหวัดสระบุรีคืนนั้น สายฟ้า ชูชนะ และสมควร ช่วยกันนับเงิน แล้วเขียนตัวเลขลงไป 220,000 บาท
     
       อีกคืนต่อมา วงดนตรีวทัญญูมาเปิดการแสดงที่จังหวัดชลบุรี     เมื่อถึงเวลาแสดง ที่หน้าเวที สมหวังร้องเพลงพร้อมกับแด๊นเซอร์อย่างเข้าขาและน่าตื่นตา นอกจากนี้สมหวังยังสร้างความฮือฮาเปลี่ยนชุดการแสดงหลายชุด ตามเพลงที่ร้องหลายๆ เพลง คนดูกรี๊ดสลบ!
       นับวันจำนวนคนดูมากขึ้นๆ ทุกเวทีที่เปิดการแสดง
     
       หลังการแสดงที่จังหวัด ชลบุรี จบลง...สายฟ้ากำลังประชุมทุกคนและบอกข่าวดี
       “หลังจากที่เราได้ออกทัวร์กันมาครึ่งเดือน ผลสรุปมาว่าวงเรามีกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อตอบแทนทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเป็นอย่างดี ชั้นและพ่อได้ปรึกษากันแล้วว่าทุกคนจะได้เงินเดือนเพิ่มอีกคนละ10เปอร์เซ็นต์”
       ทุกคนเฮด้วยความดีใจ
       “และหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สิ้นปีอาจมีโบนัสก็ได้”
       ทุกคนเฮอีก
       สมหวังมองทุกคนที่กำลังดีใจ แล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจที่ทำให้ทุกคนมีความสุข
       “และลุงก็มีข่าวดีอีกข่าวที่เพิ่งจะรู้เมื่อกี้มาบอก” สมควรเอ่ยขึ้น
       ทุกคนสนใจฟังสมควร
       “ข่าวดีอะไรพี่ควร” ชูชนะถาม
       “มีใครรู้จักเอฟเอ็ม 95 ลูกทุ่งมหานคร บ้าง”
       สำลีบอก “คอนเสิร์ตลูกทุ่ง”
       ปอยฝ้ายต่อ “รายการวิทยุ”
       เจ๊เนาว์หงุดหงิด “มันก็ใช่ทั้งสองอันไม่ใช่เหรอ”
       “ทำไมเหรอลุง ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว” สายฟ้ามองกิริยาลุ้น
       “เมื่อกี้เค้าโทร.มา รู้มั้ยว่าเรื่องอะไร”
       ทั้งหมดฮือฮาด้วยอาการลุ้นๆ สมควรยิ้มกริ่มอมภูมิเฉลย
       “ลีลาจริงพี่ควร..ชั้นลุ้นจนฉี่จะแตกอยู่แล้ว!” ชูชนะว่า
       “เมื่อกี้ข้าเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกทุ่งมหานคร เค้าจะให้สมหวังไปออกรายการวิทยุ”
       เสียงทุกคนเฮกว่าเดิม สายฟ้ามองหน้าสมหวังแล้วยิ้มให้อย่างภูมิใจ
       สมหวังกับกุหลาบหน้าซีดๆ เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ข่าวดี ที่จะไปออกวิทยุ
       “คราวนี้ดังแน่ๆ น้องสมหวัง”
       บาสยิ้มร่า สมหวังยิ้มรับหน้าเจื่อนๆ
       “ใช่ ไม่แน่อาจจะต้องออกทีวีด้วยนะ” สมควรบอก
       บาสดีใจ “ออกทีวีด้วย...น้องสมหวังจะเป็นดาราแล้ว”
       สมหวังมองหน้ากับกุหลาบ ทำตัวไม่ถูก
       “ทีวี” สมหวังกะกุหลาบร้องขึ้น
       สมควรพยักหน้า “ใช่ ทีวี”
     
       ภาพจอทีวีถูกเปลี่ยนไปเป็นช่องต่างๆ เรื่อยๆ สมหวังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเหม่อคิดอะไรบางอย่าง สีหน้าเป็นกังวล ไม่มีกะจิตกะใจดูทีวี
       กุหลาบเดินเข้ามา “ไม่สบายใจเหรอ”
       สมหวังพยักหน้า
       “ไม่ต้องกลัว...เอาอย่างงี้เราไปบอกเค้า ว่าขอออกแต่รายการวิทยุก็ได้นี่”
       “แล้วถ้ามันต้องออกทีวีล่ะ”
       “เดี๋ยวพี่บอกเองว่ายังไงก็ไม่ให้ออก หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้ออก”
       กุหลาบไปคว้าบทสัมภาษณ์ที่นั่งเขียนเองขึ้นมา
       “มาลุกขึ้น...มาซ้อมบทสัมภาษณ์กันดีกว่า แก้เครียด”
       “มันจะยิ่งเครียดน่ะสิพี่”
       “ไม่หรอก…มาๆ นี่พี่เขียนเองกับมือเลยนะ”
       สมหวังยังคงสีหน้าไม่ดี
       กุหลาบซ้อมสัมภาษณ์เสียงใส “สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการเอฟเอ็ม 95 ลูกทุ่งมหานครกับดิฉัน กุหลาบ จิตรสำราญ” พร้อมกับทำเสียงดนตรีประกอบด้วยปาก “วันนี้ท่านจะได้พบกับแขกพิเศษ นักร้องสาวน่ารัก เสียงใส ดาวดวงใหม่แห่งวงการเพลงลูกทุ่ง ขอเชิญท่านพบกับ สมหวัง วทัญญู ค่ะ”
       สมหวังไม่เล่นด้วย
       กุหลาบคะยั้นคะยอ “อ้าว...ทำไมไม่สวัสดีล่ะ สมหวัง”
       “พี่กุหลาบ...ชั้นจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
       กุหลาบงง “ทำไมล่ะ”
       “พี่ลองคิดดู ถ้าชั้นไปหมวดก็ต้องรู้แน่ๆ”
       กุหลาบคิดไปคิดมา แล้วบอกออกมา
       “หมวดเค้าไม่รู้หรอก เพราะเค้าไม่ฟังลูกทุ่ง ไม่ต้องกลัว ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวพี่รับผิดชอบเอง”
       “ไม่เอาดีกว่า...ชั้นไปปฏิเสธคุณสายฟ้าดีกว่า”
      
       สมหวังบอกท่าทีจริงจัง
         กลางดึกคืนนั้น ชาวคณะทุกคนกำลังเม้าท์มอย บ้างก็ร้องเพลงเฮฮา ดีใจ ที่วงกำลังจะดัง บรรยากาศชื่นมื่นไปหมด
     
       สำลีคุยฟุ้ง “โอ๊ยยย…จะดังใหญ่โตแล้วโว้ยวงเรา”
       “ใช่…ทีนี้พวกเราก็จะได้สบายกันซะที จริงไหมพวกเรา” ปอยฝ้ายผสมโรง
       ลูกวงร้อง “ใช่” พร้อมเพรียง
       “แบบนี้ชั้นก็จะพลอยดังไปด้วยน่ะสิ…จำไว้นะ สำลี ซุปเปอร์ฮา ต้องเป็นดาราตลกที่อยู่แถวหน้าของเมืองไทย” สำลีฝันเฟื่อง
       “แกดัง ชั้นก็ต้องด้วยสิวะ ก็เราทีมเดียวกัน” ปอยฝ้าย
       สำลีบอก “แน่นอนอยู่แล้วเพื่อน! หม่ำ เท่ง โหน่ง ต้องชิดซ้าย และต้องหลบทางให้ สำลี แอนด์ ปอยฝ้าย ซุปเปอร์ฮา โว๊ยย”
       เจ๊เนาว์ด่าเอา “เพ้อเจ้อนะพวกแก…ปล่อยให้สมหวังเค้าดังไปก่อนเถอะย่ะ พวกแกน่ะอีกนาน”
       สมหวังกำลังเดินมาหาสายฟ้า แอบได้ยิน
       “แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ นี่ถ้าไม่ได้สมหวัง…ป่านนี้ชั้นคงต้องเก็บกระเป๋าย้ายกลับ    ไปอยู่ตะเข็บชายแดนแล้วแน่ๆ” เจ๊เนาว์บอก
       “ชั้นก็คงต้องกลับไปหมักปลาร้าขายที่บ้านอย่างเก่า” เจ๊จุ๊เสริม
       “ดาวมันจรัสแสงอยู่แค่เอื้อม ทำไมตอนแรกเราไม่เห็นนะ จะได้ไม่ต้องไปง้อนังจอมขวัญทุกวันๆ แบบนั้น” เจ๊เนาว์ยิ้มย่อง
       สมหวังได้ยินแล้วอึ้ง
       “หวังว่าสมหวังคงไม่ทำให้พวกเราต้องผิดอีกหวังอีกนะ” เจ๊จุ๊ว่า
       เจ๊เนาว์มั่นใจ “ไม่หรอกย่ะ…สมหวังเค้าช่วยเรามาถึงขนาดนี้ เค้าไม่หนีไปไหนหรอก แล้วนี่ถ้ายิ่งได้ออกทีวีเมื่อไหร่ รับรองดังเป็นพลุระเบิดแน่ๆ”
       สมหวังยืนฟัง อย่างเศร้าใจ
     
       สายฟ้ายืนอยู่ตรงระเบียงบ้านมองไปยัง กลุ่มเจ๊เนาว์ เจ๊จุ๊ ปอยฝ้าย สำลี ที่หัวเราะเฮฮาอย่างมีความสุข สายฟ้าพลอยยิ้มมีความสุขไปด้วย
       สมหวังสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ เดินเข้ามา
       สายฟ้าหันมาเห็นพอดี “อ้าว…สมหวัง…. เธอมาดูนี่สิ”
       สายฟ้าชี้ไปที่กลุ่มเจ๊เนาว์ที่เม้าท์มอยอย่างเฮฮา
       “เห็นมั้ยเธอทำให้คนในวงเค้ายิ้มได้….พวกเค้ากลับมาหัวเราะกันได้เหมือนเมื่อก่อน”
       สมหวังทำตัวไม่ถูก รู้สึกสับสน ไม่รู้จะเอายังไงดี
       “เออ..ว่าแต่มาหาชั้นมีอะไรหรือเปล่า” สายฟ้านิ่วหน้า
       สมหวังอึกอัก “คือ….ชั้นมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะ”  
       ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
       “แป๊ปนึงนะ”
       สายฟ้ากดรับโทรศัพท์ คุยกับลุงสมควร ด้วยท่าทีตื่นเต้น
       “อะไรนะครับลุงสมควร!...ได้ครับ!...เดี๋ยวผมจัดการให้หมดทุกอย่าง ลุงไม่ต้องห่วงนะ ครับ….เจอกันวันสัมภาษณ์ครับ”
       สายฟ้าวางหู ยิ้มร่าออกมาอย่างดีใจ
       “ไหน…เธอมีอะไรจะพูดว่ามาเลยสมหวัง ชั้นก็มีเรื่องที่จะพูดกับเธอเหมือนกัน”
       “งั้นคุณพูดก่อน”
       “เธอนั่นแหละ พูดก่อน”
       สมหวัง น้ำท่วมปากได้แต่อึกอักอยู่นั่น “เอ่อ…คือ….”
       “เป็นอะไรอึกอักอยู่ได้ งั้นชั้นพูดก่อน…คือว่าเมื่อกี้ลุงสมควรโทรมา ทางคลื่น    วิทยุเค้านัดให้เธอไปสัมภาษณ์อังคารนี้! และอาทิตย์หน้าเธอจะได้ออกทีวีด้วย”
       สมหวังอึ้ง นิ่งงันไป
       สายฟ้าบอก “เธอดังใหญ่แล้วนะสมหวัง”
       สมหวังยิ้มเจื่อนๆ
       “ทุกคนคงดีใจ ต่อไปวงเราก็จะได้ลืมตาอ้าปากกับเค้าเสียที” จ้องสมหวังนิ่ง “เพราะเธอแท้ๆ เลยนะ วงเราถึงได้ผ่านวิกฤตมาได้ ไม่งั้นชั้นคงไม่สบายใจ ไปตลอดชีวิต ถ้าวงวทัญญูต้องยุบด้วยมือชั้นจริงๆ ขอบใจเธอมากเลยนะ ชั้นไม่รู้จะตอบแทนเธอยังไงจริงๆ”
       สมหวังอึ้งไป น้ำท่วมปากจะบอกปฏิเสธก็บอกไม่ได้
       สมหวังยิ้มรับเจื่อนจ๋อย หนักใจสุดๆ
     
       ระหว่างทางเดินไปห้องสมหวังกับกุหลาบ    สมหวังเดินเหม่อๆ ออกมา
       “ทำไมต้องออกทีวีด้วยนะ…ทีนี้เราจะทำยังไงดี…แล้วไอ้มือปืนมันจะเห็นเรามั้ย นังสมหวังเอ๊ยยยย”
       จู่ๆ บาสเดินผ่านมา สมหวังไม่ทันระวังเลยชนกับบาส บาสรีบโอบสมหวังไว้
       บาสจ้องสมหวัง สมหวังรีบผละตัวออก
       “น้องสมหวังยังไม่นอนอีกเหรอจ๊ะ”
       “กำลังจะไปนอนแล้วจ้ะ…แล้วพี่บาสล่ะ”
       “ยังจ้ะ…หิวน่ะกะว่าจะไปทำไข่หวานกินสักหน่อย…ไปปาร์ตี้ไข่หวานกันมั้ย”
       “ไม่ดีกว่า…พี่บาสไปเถอะนะจ๊ะ”
       บาสเห็นสีหน้าสมหวังดูไม่ดี
       “น้องสมหวังเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ทำไมสีหน้าดูไม่ดีเลย”
       “ไม่มีอะไรหรอก ชั้นคงง่วงแล้วน่ะ”
       “มีอะไรบอกพี่ได้นะ”
       บาสคิดไปคิดมา ก่อนจะบอกต่อ
       “พี่ขอถามอะไรน้องสมหวังได้หรือเปล่า น้องสมหวังห้ามปิดบังพี่นะ”
       สมหวังหวั่นๆ กลัวคำถามที่บาสจะถาม
       “ที่หมวดวันชาติพาน้องสมหวังมาอยู่ที่นี่ มันมีอะไรมากกว่าคดีที่โดนหลอกมาทำงาน ใช่มั้ย”
       สมหวังตกใจ! ที่บาสถามแบบนี้
       เสียงกุหลาบเรียกขัดจังหวะขึ้น “สมหวัง”
       เห็นกุหลาบเดินเข้ามา
       “อยู่นี่เอง…ทำไมออกมานานจัง ไปนอนกันเถอะ”
       สมหวังขอตัวกับบาส “ชั้นขอตัวไปนอนก่อนนะ”
       “จ้ะ” บาสยิ้ม
       กุหลาบจ้องบาส “นายล่ะไม่หลับไม่นอน ออกมายืนอ่อยยุงหรือไง”
       “ยัง…เดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อน” บาสว่า
       “งั้นชั้นไปนอนก่อนนะ …ราตรีสวัสดิ์”
       กุหลาบกะสมหวังเดินออกไป
       บาสมองตามกุหลาบกับสมหวังเดินออกไป
       “ต้องมีความลับอะไรแน่ๆ….ชั้นจะต้องรู้ให้ได้”
     
       บาสมั่นใจเกินร้อย และมุ่งมั่นจะสืบความจริงให้ได้
       ภายในห้องนอนสมหวังกับกุหลาบค่ำคืนนั้น สมหวังยังอยู่ในอาการเครียดจัด คิดไม่ตกว่าจะจัดการเรื่องโชว์ตัว ให้สัมภาษณ์สื่ออย่างไรดี
     
       “จะทำยังไงดีพี่กุหลาบ….ไม่น่าไปรับปากเค้าเลย”
       “มันต้องมีวิธีสิ”
       “วิธีไหนล่ะพี่กุหลาบ”
       “พี่ก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน”
       สมหวังคราง “โธ่…พี่กุหลาบ”
       กุหลาบพยายามพูดให้กำลังใจสมหวัง
       “เอาน่าสมหวัง มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอกสมหวังลองนึกภาพถึงรอยยิ้มของคนในวงสิ เห็นแล้วมีความสุขจะตาย สมหวังคิดถูกแล้วที่ทำแบบนี้ จะทำอะไรแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด พี่สัญญาว่าจะดูแลน้องของพี่ให้ดีที่สุด จะไม่มีใครมาทำร้ายน้องของพี่ได้ มันต้องมีวิธีที่ทำให้เรารอดทั้งสองฝ่ายสิ”
       สมหวังนึกตามยิ้มให้กุหลาบอย่างอุ่นใจมากขึ้น
       “แต่ตอนนี้พี่ง่วงแล้วอ่า เอาไว้คิดพรุ่งนี้นะ นอนกันเถอะ”
       “พี่กุหลาบนอนก่อนเถอะจ้ะ”
       “โอเค...สมหวังก็รีบๆ นอนล่ะ”
       “จ้ะ”
       กุหลาบล้มลงนอนไป
       สมหวังเปลี่ยนช่องทีวีไปมาแก้กลุ้ม บังเอิญเปิดไปเจอฉากฆ่ากัน ในละครแอคชั่นเรื่องหนึ่ง สมหวังดูฉากที่มีการยิงกันแล้วนึกสะท้อนถึงตัวเอง สมหวังถอนหายใจ ยิ่งรู้สึกหวั่นๆ มากขึ้น
       สมหวังรีบเปลี่ยนช่องทีวี เป็นช่องซึ่งฉายซีรี่ย์อยู่ โดยเป็นฉากงานแฟนซีเต้นรำ ทุกคนใส่หน้ากากเข้ามาในงาน สมหวังมองอย่างสนใจ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง  
       จู่ๆ สมหวังตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
       “พี่กุหลาบ”
       กุหลาบที่ยังคงนอนไม่หลับก็ตกใจลุกพรวดขึ้นมา
       “มีอะไรสมหวัง”
       “ชั้นนึกวิธีออกแล้ว…ว่าจะออกทีวียังไง แล้วคนไม่เห็นหน้าเรา”
       กุหลาบมองสมหวังอย่างสนใจ!
     
       เช้าวันต่อมา ยินเสียงสายฟ้า ชูชนะ เจ๊เนาว์ และบาสร้องออกมาอย่างตกใจ พร้อมๆ กัน
       “จะใส่หน้ากาก”
       สายฟ้าแปลกใจ “อะไรนะ…เธอจะใส่หน้ากากออกคอนเสิร์ต”
       “ค่ะ”
       เจ๊เนาว์ท้วง “นี่มันวงลูกทุ่งนะสมหวัง เค้าขายความหล่อ ความสวยกัน ขืนใส่หน้ากาก    ร้องเพลง แล้วใครเค้าจะไปเห็นความสวย เห็นสเน่ห์ของเธอล่ะ”
       สมหวังโน้มน้าว “แต่ชั้นเป็นนักร้องใหม่นะคะ ยังไม่มีคนรู้จัก ใส่หน้ากากมันจะได้ดูลึกลับ น่าสนใจ เป็นการโปรโมทไปในตัวไงคะ”
       สายฟ้าไม่เห็นด้วย “มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ จะเปิดตัวทั้งทีทำไมต้องใส่หน้ากากด้วย แล้วใครจะเห็นหน้าเธอ”
       ทุกคนอึ้ง นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง สมหวังรอคำตอบอย่างลุ้นๆ
       ชูชนะดันเห็นด้วย “มันก็ไม่เลวนะ คนจะได้สนใจว่านักร้องคนนี้เป็นใคร ทำไมต้องใส่หน้ากาก    ร้องเพลงด้วย”
       สายฟ้าคิดดูอีกที เห็นคล้อยตาม
       “คิดๆ ดูแล้วมันก็น่าสนใจเหมือนที่พ่อพูด ยังไม่มีใครทำด้วย…แต่ทีนี้ถ้าจะทำจริงๆ ก็คงต้องไปปรึกษาทางรายการเค้าก่อนว่าเค้าจะยอมหรือเปล่า”
       สมหวังมองหน้ากุหลาบโล่งใจ บาสมองจับตาสองสาวอย่างสงสัย  
       “แล้วตกลงเค้านัดสัมภาษณ์เมื่อไหร่วะสายฟ้า” ชูชนะถาม
       “วันอังคารนี้” สายฟ้าบอก
       “แล้วเสื้อผ้าที่จะใส่ไปสัมภาษณ์ล่ะ เตรียมหรือยัง”
       “เดี๋ยววันนี้ว่าจะพาสมหวังออกไปซื้อ” สายฟ้าว่า
       ชูชนะกำชับ “ดูให้มันดีๆ…ให้เกียรติคนเชิญเค้าหน่อยละกัน”
       “ครับ” สายฟ้ารับคำ
     
       ตอนสายวันนั้น สมหวัง สายฟ้า และกุหลาบ พากันมาเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า กุหลาบที่ไม่ได้เดินห้างมานาน ก็ตื่นตามองเสื้อผ้าชุดนั้นชุดนี้ แบบว่าอยากได้มาก
       “สมหวังดูชุดนั้นสวยเนอะ”
       “พี่กุหลาบตาถึงเหมือนกันนะเนี่ย” สมหวังชม ก่อนจจะหันมาทางสายฟ้า “คุณสายฟ้า ขอชั้นเข้าไปดูชุดนี้แป๊ปนึงนะ”
       สายฟ้าพยักหน้า กุหลาบ กับสมหวัง เดินเข้าไปดูชุดในร้าน
     
       ยอดชาย กับแดน เดินเข้ามาในห้าง แดนใส่แว่นตาดำติดหนวดพรางตัว ปากบ่นอุบ
       “พาผมมาที่เสี่ยงๆ แบบนี้ทำไม ! เดี๋ยวก็เจอตำรวจจนได้”
       “แกก็อย่ามีพิรุธสิวะ ทำตัวเหมือนคนเดินห้างทั่วไป” ยอดชายว่า
       “แล้วจะพาผมมาทำอะไร”
       “อยากได้เงินหรือเปล่า ถ้าอยากได้ ตามชั้นมา อย่าพูดมาก”
       ยอดชาย กับแดน เดินผ่านไป ในขณะที่สายฟ้า สมหวัง และกุหลาบ ยืนอยู่ร้านตรงข้ามนั่นเอง
     
       สักครู่หนึ่งสายฟ้า สมหวัง และกุหลาบกำลังเดินดูเสื้อผ้าในร้าน
       กุหลาบบอกสมหวัง “เดี๋ยวพี่ขอไปดูเสื้อร้านตรงโน้นแป๊ปนึงนะ”
       “จ้ะ”
       กุหลาบเดินออกไป
     
       ครู่ต่อมาสมหวังกับสายฟ้าช่วยกันเลือกชุด สมหวังเลือกได้ราว 6-7 ชุด จากนั้นสมหวังเข้าไปลองทีละชุด แล้วออกมาให้สายฟ้าดู
       สายฟ้าไม่ชอบ 6 ชุดแรก จนมาชุดสุดท้าย สมหวังก้าวออกมาจากห้องลองชุดในชุดเดรสดูสวยงาม
       สายฟ้ามองอย่างพิจารณา สมหวังถามความเห็นสายฟ้า
       “เป็นไงบ้าง…สวยมั้ย”
       “โอเคเลย”
       สมหวังยังกังวล “นี่…มันดูเป็นทางการไปหน่อยมั้ย”
       “ไม่หรอก เรียบร้อยดี…. แล้วเธอชอบมั้ยล่ะ”
       “ชอบ…งั้นชั้นเอาชุดนี้แหละ”
       สมหวังบอกพลางเหลียวมองหากุหลาบ
       “พี่กุหลาบยังไม่มาอีกเหรอ”
       “ยังเลย…เดี๋ยวก็คงมามั้ง”
     
       ยอดชายกับแดน เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านทอง
       แดนชะงัก “ร้านทอง! จะมาปล้นทองเหรอ”
       “จะบ้าเรอะ”
       ยอดชายเอ็ด พลางหยิบทองเส้นโตออกมาจากกระเป๋า พูดเบาๆ


อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 7 วันที่ 28 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th