อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6/2 วันที่ 27 ก.ย. 55

อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6/2 วันที่ 27 ก.ย. 55 

 สายฟ้าหันมามอง ยังคงเห็นสมหวังยืนอยู่
      “เธอช่วยชั้นมาตั้งเยอะแล้ว จนชั้นไม่รู้จะขอบใจเธอยังไงดี เธอไม่สมควรที่จะมารับรู้เรื่องเดือดร้อนพวกนี้ด้วยซ้ำ ชั้นขอโทษที่พูดแรงๆ กับเธอ ตอนนี้ชั้นเครียดไปหมด ไม่มีทางเลือก ถ้ามีหนทางไหนที่จะเอาเงินมาจ่ายให้ทุกคนได้ชั้นก็จะยอมทำ ชั้นไม่ได้ตั้งใจให้เธอลำบากใจนะ แต่ชั้นต้องทำเพื่อส่วนรวม ทุกคนจะได้มีเงินไปเริ่มต้นประกอบอาชีพใหม่ มันเป็นปัญหาของชั้น เดี๋ยวชั้นจัดการเอง เธอไม่ต้องคิดมากหรอก เธอเอาเวลานี้ไปคิดหาที่อยู่ใหม่ดีกว่า เราคงอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกันได้อีกไม่กี่วัน เดี๋ยวธนาคารก็ต้องมายึดแล้ว”
      
       สมหวังฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจหนัก ตัดสินใจพูดโพล่งขึ้นมา
       “ตกลง…ชั้นจะยอมเป็นนักร้องให้”
       สายฟ้าอึ้ง ชะงัก หันมามองสมหวังแบบงงๆ
       “เธอว่ายังไงนะ”
       “ถ้าการที่ชั้นเป็นนักร้องจะช่วยทุกคนที่นี่ได้ ชั้นก็จะช่วย!”
       สายฟ้าดีใจมาก “เธอแน่ใจนะ”
       สมหวังพยักหน้า
       “เธอเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ”
       สมหวังยืนยัน “ค่ะ”
       สายฟ้ายิ้มออก “ขอบใจมากสมหวัง….ชั้นขอบใจเธอจริงๆ”
       สายฟ้าดีใจเผลอไปจับมือสมหวัง สมหวังอึ้งๆ
       สมหวังมองไปยังมือสายฟ้าที่กำลังจับมือตัวเองอยู่ สายฟ้ารู้ตัว จึงค่อยๆ ปล่อยมือสมหวัง
       สายฟ้ายิ้มให้สมหวัง เป็นเชิงขอบคุณ แววตาสายฟ้าดูมีความสุขมาก
     
       สมหวังกับกุหลาบกำลังช่วยขนชุดแดนซ์เซอร์มาเก็บไว้ที่ห้องเหมือนเดิม
       “ในที่สุดวงก็ไม่ต้องโดนยุบ…สมหวังนี่เป็นนารีขี่ม้าขาวมาช่วยวงสองครั้งแล้วนะเนี่ย”
       สมหวังยังคงหนักใจ “พี่กุหลาบชั้นทำถูกแล้วใช่มั้ย”
       “สมหวังทำถูกต้องที่สุด ดูสิคนอีกกว่าสิบชีวิตเค้ามีรอยยิ้มแห่งความสุขเพราะสมหวังนะ…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะอยู่ข้างสมหวังเสมอ”
       “แล้วถ้าหมวดวันชาติรู้จะทำยังไง”
       “พี่คิดว่าเราควรจะบอกผู้หมวดก่อน…เดี๋ยวพี่จะรับรองความปลอดภัยของสมหวังกับหมวดให้เอง พี่ยอมแลกด้วยตำแหน่งของพี่”
       “ถ้าเกิดหมวดไม่ยอมล่ะ”
       กุหลาบคิดหนัก
       “ถ้าไม่ยอมก็…”
       กุหลาบพูดยังพูดไม่ทันจบคำ สายฟ้าก็เดินเข้ามาพอดี
       “คุยอะไรกันสองคน”
       “เปล่าค่ะ….ไม่มีอะไร”
       “มีธุระอะไรจะใช้เราสองคนหรือเปล่า” สมหวังถาม
       “ใครจะกล้าไปใช้เธอ ตอนนี้เธอเป็นนักร้องของวงเราแล้วนะ เธอเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับวงเรา”
       สมหวังออกตัว “ทุกคนสำคัญเท่ากันหมดค่ะ ถ้าไม่มีทุกคนชั้นคนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้”
       สายฟ้ายิ้มปลาบปลื้มในคำตอบของสมหวัง
       “ชั้นหวังว่าเธอจะคิดอย่างนี้ตลอดไปนะ”
       สมหวังยิ้มแทนคำตอบ
       “เออ….ชั้นมาบอกให้เธอเก็บข้าวของ”
       “เก็บทำไมคะ” สมหวังงง
       “ชั้นจะให้เธอย้ายไปอยู่บนเรือนใหญ่ ชั้นให้เจ๊เนาว์เตรียมห้องไว้แล้ว”
       “แล้วชั้นล่ะคุณสายฟ้า” กุหลาบถามทันที
       สายฟ้าบอก “ก็ย้ายไปกันทั้งสองคนนั่นแหละ”
     
       ประตูห้องเปิดออก สายฟ้าเดินนำสองสาวเข้ามา
       “ห้องนี้แหละ”
       สมหวังกับกุหลาบเข้ามาเห็นห้องถึงกับตะลึง
       “โห…”
       สายฟ้าถาม “เป็นไงชอบมั้ย!”
       กุหลาบยิ้มแป้น “ชอบค่ะ”
       สมหวังท้วง “มันดีเกินไปหรือเปล่า”
       “ไม่หรอก ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากชั้นก็แล้วกัน”
     
       เวลาเดียวกันที่โรงพัก ภายในห้องทำงานหมวดวันชาติ ในขณะที่หมวดวันชาตินั่งทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่เข้ามาหา
       “ขออนุญาตครับ ….ผมเอาเบี้ยเลี้ยงมาให้จ่ากุหลาบน่ะครับ”
       “ขอบใจมาก….เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกนะ ถ้าสารวัตรถามก็บอกว่าเอาเบี้ยเลี้ยงไปให้จ่ากุหลาบนะ แล้วจะแวะไปหาสมหวังด้วย”  
       “ครับ”
     
       หมวดวันชาติเดินลงมาจากโรงพักไปขึ้นรถ แล้วขับรถออกไป
       แดนที่แอบซุ่มอยู่ รีบขี่มอเตอร์ไซค์ขับตามไป!
     
       ด้านชูชนะกำลังเปิดคอร์สสอนร้องเพลงสมหวังอยู่
       “ไอ้การที่จะเป็นนักร้องที่ดีได้นั้น มันต้องเริ่มจากการรู้จักวิธีไล่เสียงให้ถูกต้อง เอ็งดูข้า…โด…เร…มี…ฟา…ซอล…รา…ที….โด” ถึงโน้ตตัวสุดท้ายต้องสะดุดเพราะเสียงชูชนะโหนไม่ถึง จนไอแค่กๆ ออกมา
       “พ่อๆ..ไหวมั้ยๆ…น้ำชาหน่อยดีกว่า” บาสว่า
       ชูชนะรับไปดื่ม “ขอบใจๆ” หันมาพูดกับสมหวัง “ไหนเอ็งลองดูสิ”
       สมหวังเริ่มร้องไล่เสียง…เสียงเพราะเสนาะจับใจ สายฟ้ายิ้มปลื้ม
       “เสียงน้องสมหวังนี่จะทำให้หัวใจพี่บาสจะละลาย” บาสยิ้มจนตาเยิ้ม
       ชูชนะอึ้งในน้ำเสียงสมหวัง
       “ข้าว่าข้ามขั้นไปเลยดีกว่า….ข้ามีอะไรจะมาเซอร์ไพร้ส์เอ็งด้วยสมหวัง”
       ทุกคนมองอย่างลุ้นๆ
       ชูชนะหยิบเนื้อเพลงขึ้นมา เป็นบทเพลงที่แต่งใหม่ชื่อ "สมหวังนะจ๊ะ" ยื่นให้สมหวัง
       “นี่เพลงใหม่ที่ข้าแต่งให้เอ็งโดยเฉพาะ ชื่อเพลงสมหวังนะจ๊ะ!”
       ชูชนะร้องให้ฟังท่อนหนึ่งก่อน…แล้วให้สมหวังร้องต่อ
       “ไหน…เอ็งลองดูสิ”
       ชูชนะให้สัญญาณ บาสเปิดเครื่องเล่นแบ็คกิ้งแทร็ค เสียงดนตรีขึ้น
       สมหวังเริ่มร้องเพลง….ด้วยไพเราะจับใจเช่นเคย
     
       ทุกคนนั่งฟังอย่างสนใจ
          เวลาเดียวกันรถหมวดหมวดวันชาติแล่นไปตามท้องถนน มอเตอร์ไซค์แดนขี่ตามติดไม่ลดละ
     
       ที่สี่แยกสัญญาณไฟจราจรยังคงเป็นสีเขียวอยู่ รถหมวดวันชาติแล่นมาใกล้ถึงสี่แยก แล้วแล่นผ่านไฟเขียวไปได้ แดนจะขับตาม แต่ไม่ทันดันติดสัญญาณไฟแดง! แดนหงุดหงิดหัวเสียมาก!
       ครั้นพอไฟเขียวแดนรีบบิดคันเร่งตามไป
     
       ด้านสมหวังร้องเพลงสมหวังนะจ๊ะคล่องขึ้น สายฟ้ามองอย่างชื่นชม
       บาสกะกุหลาบ เต้นตามสมหวัง ชอบใจสุดๆ ชูชนะเห็นสมหวังเต้นแล้วไม่ถูกใจ ยังดูเขินๆ
       “เดี๋ยวๆ สมหวัง เต้นแบบนี้ไม่ได้”
       สมหวังหันมามองอย่างสนใจ
       “เพลงมันสนุกขนาดนี้ เอ็งต้องเต้นให้โจ๊ะๆ กว่านี้หน่อย ดูข้านี่…”
       ชูชนะโชว์ลีลาการเต้น ทุกคนหัวเราะ เห็นแล้วอเนจอนาถ ห่วงโสร่งที่นุ่งจะหลุดเอา สมหวังหัวเราะ และส่ายหัวบอกว่าทำไม่ได้
       “ลองดูใหม่” ชูชนะว่า
       สมหวังลองเต้นใหม่
       บาสเอ่ยขึ้นกับกุหลาบ
       “หิวน้ำ….เฮ้อออ!....หิวน้ำ….หิวน้ำ”
       “ก็ไปกินสิมาบ่นอยู่ได้”
       “ชั้นอยากกินน้ำแดงง่ะ”
       “ก็ออกไปซื้อสิ” กุหลาบบอก
       “ออกไปได้ยังไง ชั้นต้องอยู่สอนน้องสมหวังเต้น” บาสอ้าง
       กุหลาบจ้องหน้า “จะใช้ชั้นใช่มั้ย”
       บาสอ้อน ทำท่าน่าสงสาร “แล้วแต่จะเมตตา”
       “เออๆ…เดี๋ยวไปซื้อให้….เอาตังค์มา”
       บาสยิ้มๆ แล้วหยิบเงินให้ กุหลาบเดินออกไป
     
       หมวดวันชาติเลี้ยวรถเข้าซอยบ้านชูชนะ โดยมีแด๊นเซอร์สาว 2-3 คนเดินสวนออกมา
       สักครู่หนึ่ง เห็นรถแดนขี่ผ่านเลยซอยบ้านชูชนะไป เพราะไม่ทันเห็นรถหมวดวันชาติ
     
       แดนขี่เลยซอยบ้านชูชนะมาได้สักพัก และไม่เห็นมีวี่แววรถของหมวดวันชาติ จึงจอดเลียบข้างทาง แดนถอดหมวกออก แล้วพยายามชะเง้อและมองรอบๆ หารถหมวดวันชาติ
       “ทำไมมันเร็วนักว๊ะ!...พลาดอีกจนได้”
       บรรดาแด๊นเซอร์สาวๆ เดินสวนมามองๆ แดน แดนรีบขี่รถออกไป
     
       รถหมวดวันชาติแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน กุหลาบปั่นจักรยานมาหน้าบ้าน สวนกับหมวดวันชาติพอดี
       กุหลาบตกใจที่หมวดวันชาติมา รีบจอดจักรยาน
       “หวัดดีค่ะหมวด”
       “หวัดดี”
       “มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมาไม่โทร.มาบอกก่อนล่ะคะ”
       “เอาเบี้ยเลี้ยงมาให้”
       “ขอบคุณค่ะ”
       “แล้วสมหวังล่ะ”
       “กำลังซ้อมร้องเพลงอยู่…” กุหลาบหลุดปาก แล้วนึกขึ้นได้ “เอ้ย!! ดูเค้าซ้อมร้องเพลงอยู่”
       “งั้นเดี๋ยวขอผมไปหาสมหวังหน่อย จะไปถามว่าเป็นยังไงบ้าง”
       “ค่ะ”
       หมวดวันชาติกำลังเดินเข้าไป กุหลาบคิดได้ ร้องขึ้น “เอ๊ย! ไม่ได้ค่ะ”
       “อะไรจ่า”
       “หมวดรอตรงนี้ดีกว่านะ…เดี๋ยวชั้นไปตามให้”
       วันชาติแปลกใจ “ก็แค่นี้เองเดินไปก็ได้”
       กุหลาบแถ “ไม่ได้ค่ะ คนอื่นเค้ากำลังซ้อมกันอยู่ เดี๋ยวเสียสมาธิ”
       “ก็ได้งั้นผมรออยู่ตรงนี้นะ”
     
       สมหวังยังฝึกร้องเพลงอยู่ที่ลานซ้อมเต้น กุหลาบเข้ามา
       บาสทวง “น้ำแดงชั้นล่ะ”
       กุหลาบบอก “แป๊ปนึง เดี๋ยวออกไปซื้อให้”
       กุหลาบเข้าไปหาสมหวังกระซิบ “หมวดมา”
       สมหวังตกใจ “เอาไงดีล่ะ”
       สายฟ้ามองเขม็ง “มีอะไรกันหรือเปล่า”
       “คือ….หมวดมาค่ะ” สมหวังบอก
       “ไปหาสิ…เดี๋ยวค่อยมาซ้อมต่อก็ได้”
       สมหวัง กะกุหลาบ ยังลังเล เหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง บาสมองอย่างสงสัย
       สายฟ้า “ทำไม…มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
       “คือ…เราไม่อยากให้หมวดรู้ว่าสมหวังร้องเพลงน่ะค่ะ” กุหลาบว่า
       “ทำไมล่ะ” สายฟ้าแปลกใจ
       “ก็เรื่องคดีนายจ้างที่หลอกเรามาทำงาน มันยังไม่คืบหน้า หมวดเลยไม่อยากให้เราออกไปไหน…แล้วยิ่งถ้าเป็นนักร้องมันต้องอยู่ในที่โล่งแจ้ง หมวดยิ่งไม่ยอมแน่ๆ” สมหวังว่า
       สายฟ้ามองสมหวังแล้วคิดตาม บาสฟังแล้วสงสัย
       “ได้ๆ…ชั้นจะไม่ให้พี่ชาติรู้เรื่องนี้”
       “คนอื่นๆ ด้วยนะคะ…เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ” กุหลาบกำชับ
       บาสสวนขึ้น “ทำไมต้องเป็นความลับด้วย!”
       “บอกว่าเป็นความลับก็เป็นความลับสิ”
       “แค่เรื่องคดีนายจ้างหลอกมาทำงาน ไม่เห็นต้องเป็นความลับเลย”
       “ก็หมวดเค้าบอกมาให้มันเป็นความลับนี่” กุหลาบแถ
       “หรือว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น มันถึงเป็นความลับ” บาสบอกอย่างไม่วางใจ
       เจ๊เนาว์โวย “โอ๊ย!!! พอได้แล้ว...นี่ไอ้บาสแกจะไปซักอะไรเค้านักหนา”
       กุหลาบมีพิรุธ ออกอาการเลิกลั่ก
       “ใช่! นายจะมาจับผิดอะไรเนี่ย!...ทำตามที่บอกเถอะ หรือไม่อยากให้สมหวังร้องเพลง”
       “ชั้นก็แค่ถามดู….ทำไมต้องเสียงดังด้วย” บาสฉุน
       “เอาเป็นว่าอย่าให้หมวดรู้ก็แล้วกัน”
     
       พูดจบกุหลาบก็พาสมหวังเดินออกไป บาสมองกุหลาบอย่างคาใจ และสงสัยมากขึ้น!!!
         สมหวังกะกุหลาบ เดินมาหาหมวดวันชาติที่หน้าบ้าน
     
       สมหวังไหว้ทักทาย “สวัสดีค่ะหมวด”
       “สวัสดีสมหวัง…เป็นยังไงบ้าง”
       “สบายดีค่ะ….ชั้นต้องขอบคุณหมวดด้วยนะคะที่ช่วยไปดูแลป้าชวนแทนชั้น”
       “ไม่เป็นไร…ไม่ได้รบกวนอะไรมากเลย…วันก่อนผมไปคุยกับคุณป้า คุณป้าเขาจะขอมาพบคุณ แต่ผมคิดว่าให้คดีมันคลี่คลายมากกว่านี้ก่อนนะ คุณถึงจะเจอป้าคุณได้ คงไม่ว่าอะไรนะ”
       สมหวังเสียงเศร้า “ค่ะ..ชั้นเข้าใจ”
       “อดทนอีกนิดนึงนะสมหวัง…อีกไม่นานผมก็คงจะปิดคดีได้ แล้วคงจะจับตัวร้ายได้เร็วๆ นี้ แต่ต้องขอเก็บหลักฐานให้ได้มากกว่านี้ก่อน”
       “ถ้ายังไงระหว่างนี้ก็รบกวนหมวดช่วยไปดูป้าให้ชั้นด้วยนะคะ”
       “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง….อยู่ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย” วันชาติถามสารทุกข์
       “ไม่เลยค่ะ…สบายมาก”
       วันชาติหันมาทางกุหลาบ “อย่าลืมที่ผมบอกนะ ช่วงนี้ระวังตัวให้มากขึ้นหน่อย ไม่จำเป็นอย่าออกไปไหน!”
       สมหวังกับกุหลาบมองหน้ากัน กุหลาบหลุดอีก
       “ถ้าไม่มีอะไรแล้วชั้นขอตัวพาสมหวังไปซ้อมร้องเพลง”
       สมหวังสะกิด กุหลาบนึกได้ “ไปดูเค้าซ้อมร้องเพลงต่อนะคะ”
       หมวดวันชาติมองงงๆ ดูกุหลาบแปลกๆ แล้วขับรถออกไป
       “เกือบไปแล้วมั้ยละ…บอกคนอื่นซะอย่างดิบดี..แต่จะหลุดซะเอง” กุหลาบว่าตัวเอง
       “วันนึงหมวดวันชาติต้องรู้แน่ๆ เลยว่าชั้นเป็นนักร้อง”
       “รอให้วันนั้นมันมาถึงก่อน...อย่าเพิ่งไปคิดมาก” กุหลาบปลอบ
     
       ที่โรงครัว ชูชนะกำลังพูดก่อนชนแก้วทุกคน
       “เอาทุกคน ดื่มให้กับสมหวัง วทัญญู นักร้องคนใหม่ของวงเราหน่อย”
       ทุกคนพร้อมใจกันยกแก้ว สายฟ้านั่งร่วมโต๊ะอยู่กับสมหวัง
       ทุกคนตะโกน “เชียร์ส”
       “กินกันให้เต็มที่เลยนะ มื้อนี่บุฟเฟ่ต์” ชูชนะว่า
       “หวังว่าคราวนี้ คงหมดเคราะห์หมดโศกกันซะทีนะพ่อ ต่อไปวงเราจะได้เจอแต่เรื่องดีๆ” สำลีปากดี
       “เออซิวะ...เอ็งคอยดูนะ ข้าจะปั้นให้นังสมหวังมันดังกว่าอีนังจอมขวัญอีก อ้าว ลงมือกินกันได้”
       ทุกคนพากันไปตักอาหาร สายฟ้าเหลียวไปมองเป็นเชิงขอบคุณสมหวัง
     
       สมหวังตักกับข้าวมานั่งที่โต๊ะ บาสเห็นสมหวังนั่งอยู่รีบปรี่ลงมานั่งข้างๆ
       “น้องสมหวังพี่ตักมาเผื่อจ้ะ”
       “ขอบใจจ้ะ...ชั้นตักมาแล้ว”
       บาสเขยิบตัวเข้าไปหาสมหวังอีก เหลียวมองไปรอบๆ ยังไม่เห็นมีใครเดินมา พยายามหลอกถามสมหวังในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
       “เอ่อ…น้องสมหวังจ๊ะ”
       สมหวังมองบาส “จ๊ะ”
       “ก่อนที่น้องสมหวังจะถูกหลอกมาทำงานที่กรุงเทพฯ…น้องสมหวังอยู่ที่ไหนจ๊ะ”
       “ก็…ทำงานที่บ้านน่ะจ้ะ”
       “แล้วบ้านน้องสมหวังอยู่ไหนเหรอจ๊ะ” บาสซัก
       สมหวังอึกอัก “เอ่อ...”
       กุหลาบเดินเข้ามาพอดี วางจานข้าวกระแทกกับโต๊ะ กุหลาบนั่งแทรกกลางระหว่างบาสกับสมหวัง
       “อยู่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของนาย!...จะถามทำไมห๊ะ”
       บาสฉุน “อะไรของเธอเนี่ย!!..…ทำไมชั้นจะถามไม่ได้ ก็แค่อยากรู้ว่าบ้านสมหวังเค้าอยู่ที่ไหน”
       “อยู่ภาคอีสาน…”
       บาสไม่เชื่อ ทักท้วง “อีสาน!...แต่ดูสำเนียงมันคล้ายๆ…”
       กุหลาบตาเหลือก ตกใจ ที่บอกจังหวัดไม่ตรงกับสำเนียงของสมหวัง จึงสวนขึ้นมา แถตามนิสัย
       “คล้ายคนสุพรรณใช่มั้ยล่ะ! ชั้นกับสมหวังเป็นคนอีสาน …แต่พอย้ายมาทำงานที่สุพรรณ มีแต่เพื่อนเป็นคนสุพรรณ ก็เลยพาเหน่อไปด้วย …พอใจรึยัง!”
       สมหวังรีบเสริม “ใช่ๆ เมื่อก่อนชั้นพูดกลางชัดมาก แต่พออยู่สุพรรณนานๆ มันก็เลยเหน่อ...”
       กุหลาบถอนหายใจโล่งอก
       บาสกหันมาทางสมหวัง “แล้วยัยเนี่ยเป็นญาติฝ่ายไหนของน้องสมหวังเหรอจ๊ะ”
       กุหลาบตอบแทน “ลูกพี่ลูกน้อง!...พอแล้วถามเซ้าซี้อยู่ได้”
       สายฟ้ามองมาที่สมหวัง เดินเข้ามา
       “เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว ชั้นขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะ”
       สมหวังทำท่าจะลุก
       สายฟ้าแปลกใจ “แล้วจะไปไหนเหรอ”
       “ก็ชั้นไม่ค่อยหิว ไปคุยกันตอนนี้เลยก็ได้” สมหวังว่า
       บาสเซ็ง โวยวายที่ถูกขัดคอ “โธ่...พี่สายฟ้าอ่า...มาขัดจังหวะอยู่เรื่อยเลย” หันมาพาลใส่กุหลาบ “เธอก็
       เหมือนกัน ชั้นคุยกับน้องสมหวังอยู่ดีๆ เข้ามาทำไมก็ไม่รู้”
       สายฟ้าบอกกับสมหวัง “เธอนั่งกินให้เสร็จก่อนก็ได้”  
       “ชั้นกินเสร็จแล้ว” สมหวังบอก
       “น้องสมหวังนั่งกินอะไรเป็นเพื่อนพี่อีกสักแป๊ปสิจ๊ะ”
       “ก็ชั้นนี่ไง…เดี๋ยวชั้นนั่งเป็นเพื่อนเอง” กุหลาบว่า
       บาสยัวะ “ชั้นบอกหรือยัง ว่าชั้นอยากนั่งกับเธอ”
       “หวังดีนะเนี่ย..ก็เห็นว่าอยากมีเพื่อน”
       สายฟ้ากับสมหวังเดินออกไป
       บาสครวญคราง “โธ่..น้องสมหวังไปจริงๆ ด้วย” พาลใส่กุหลาบอีก “เพราะเธอนั่นแหละ”
       “เอ้า...มาโทษชั้นได้ไง”
       “ก็เธอมานั่งทับที่น้องสมหวัง น้องสมหวังเค้าอยากนั่งใกล้ชั้น ดูสิน้องสมหวังเค้าเดินไปเลย”
       กุหลาบยัวะ “เพ้อเจ้อ”
     
       สมหวังเดินตามสายฟ้ามา สองคนหยุดยืนอยู่ที่อีกมุมในครัว
       “มีอะไรจะคุยกับชั้นเหรอ”
       สายฟ้า อึกอัก เพราะที่จริงไม่มีอะไรจะพูด
       “เออ..คือ..อ๋อ ชั้นจะถามว่าเธอพร้อมจะออกแสดงหรือยัง”
       “ก็น่าจะพร้อมแล้วนะ”
       “ก็ดี งั้นเราจะได้เริ่มออกเดินสายซะที”
       “แล้วเราจะไปแสดงที่ไหนกันบ้างคะ..ก็งานเก่าเค้ายกเลิกหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”
       “ไม่ต้องห่วง...ชั้นวางแผนไว้หมดแล้ว”
       สมหวังหันมามองหน้าสายฟ้า เหมือนไม่เชื่อ
       สายฟ้าพยักหน้า ยิ้มยืนยัน
       สายฟ้ายกแก้วที่ถืออยู่ในมือทำท่าจะชนแก้วกับสมหวัง
       “เพื่อเป็นการขอบคุณเธออีกครั้งที่ช่วยชั้น...และยินดีกับนักร้องคนใหม่”
       ทว่าน้ำในแก้วสมหวังหมดพอดี สายฟ้ารินแบ่งน้ำในแก้วของตน ให้กับสมหวัง
       สมหวังมองอย่างอึ้งๆ งงๆ สายฟ้ายิ้มกริ่ม แล้วยกแก้วชวนสมหวังชนอีกครั้ง
     
       ทั้งคู่ชนแก้วกัน สายฟ้ามองจ้องตา สมหวังทำตัวไม่ถูกรีบหลบสายตาวุ่นวาย
          เช้าวันต่อมา สมควรซึ่งมาช่วยเรื่องแผนโปรโมทวง กำลังอธิบายแผนการโปรโมทให้ สายฟ้า สมหวัง ชูชนะ และเจ๊เนาว์ ฟังร่วมกัน
     
       “จากที่คุยกันวันนั้น ลุงก็กลับไปลองทำแผนมา ลองดูกันแล้วกันว่าใช้ได้หรือเปล่า ลุงว่าเราคงต้องทำเหมือนเดิมก่อนในช่วงแรก คือออกไปหาเช่าที่เปิดวิกปิดการแสดง ลุงเลยลองไล่ที่ๆ พอจะได้มา ลองดูแล้วกัน”
       สมควรแจกกระดาษที่มีรายชื่อสถานที่ ที่คาดว่าจะไปเปิดการแสดงให้ทุกคน
       “ถ้าเรามีที่แล้ว เราก็คงต้องโปรโมทเอง ผมว่าเราน่าจะโปรโมทเหมือนคราวที่แล้ว ออกวิทยุ ติดป้าย ก่อนหน้าวันแสดงสักหนึ่งอาทิตย์”
       ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
       “แล้วจะมีรถแห่ประกาศเหมือนคราวที่แล้วหรือเปล่า” เจ๊เนาว์ถาม
       สายฟ้าบอก “เรื่องนั้นมันต้องทำอยู่แล้ว”
       “เรื่องป้ายเดี๋ยวพ่อจัดการเอง” ชูชนะว่า
       “เรื่องโปรโมทตามคลื่นวิทยุก็ไม่ต้องห่วง ปล่อยเป็นหน้าที่ลุง” สมควรบอก
       “เหลือก็แต่เรื่องบนเวที เธอทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” สายฟ้าหีนมาทางสมหวัง
       “ไม่ต้องห่วง...ชั้นจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”
       ทุกคนยิ้มอย่างมั่นใจ
     
       ในวันต่อมา เสียงเพลง “สมหวังนะจ๊ะ” ดังกระหึ่มขึ้น ลูกวงทุกส่วนเตรียมการโปรโมท และเตรียมวงเพื่อทัวร์คอนเสิร์ต
       สมหวังกำลังฝึกร้องพร้อมกับแด๊นเซอร์ที่ลานซ้อมเต้น โดยมีบาสเป็นคนนำเต้น
       เจ๊เนาว์กับกุหลาบ ช่วยกันดูโชว์ และคอมเม้นท์อยู่ข้างๆ
     
       สายฟ้า เจ๊เนาว์ และสมควร ช่วยกันโทรศัพท์ติดต่อหาสถานที่เปิดการแสดง จังหวะหนึ่งสมควรวางหูโทรศัพท์ บอกว่ามีคนตกลงแล้ว
       ทุกคนยิ้มดีใจ
       สมควรเขียนคิวงานขึ้นบนกระดานเป็นอันดับแรก
     
       อีกวันต่อมาที่โรงซ้อมเต้น     สำลี กะปอยฝ้าย และตลกร่วมคณะ กำลังซ้อมมายากลกันอยู่ เป็นมายากลที่เล่นกับไฟ แต่ทั้งคู่ทำพลาด ไฟไปติดแขนเสื้อสำลี ปอยฝ้ายเซ็ง ทุกคนหัวเราะขำ บรรยากาศครื้นเครง
     
       ส่วนที่กระดานคิวงานในบ้าน เริ่มมีงานมากขึ้น ชูชนะ สมควร และเจ๊เนาว์ยังคงติดต่อสถานที่อยู่
     
       ด้านสมหวังซ้อมเต้น กับชุดที่จะโชว์จริงบนเวที ดูสวยงามแม้จะยังไม่จัดเต็ม แด๊นเซอร์เต้นเป็นระเบียบพร้อมเพียง บาสยิ้มร่าทุกอย่างเพอร์เฟคท์ พร้อมแล้ว
     
       คิวงานแสดงบนกระดานขึ้นชื่อ ‘อำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี’ เป็นงานแรก
       คณะวงดนตรีวทัญญู เดินทางมาถึงเวทีหน้าอำเภอสองพี่น้องทุกคนเตรียมตัวทำการแสดง
       เมื่อถึงเวลา ที่หน้าเวที ถึงคิวสมหวังขึ้นร้องเพลงพร้อมกับแด๊นเซอร์ สายฟ้ายืนให้กำลังใจอยู่ข้างเวที
       สมหวังเปลี่ยนชุด ทุกเพลงที่ร้อง คนดูปลื้มปริ่ม กรี๊ดสลบ!
     
       หลังเวที บรรดาแม่ยก ต่างขนเอาอาหาร ของฝากมาให้สมหวังเนืองแน่น สายฟ้ายืนดูแล้วรู้สึกภาคภูมิใจ สมหวังหันไปสบตาสายฟ้า สายฟ้ายิ้มให้
       สายฟ้า เจ๊เนาว์ สมควร ช่วยกันนับเงินค่าบัตร แล้วเขียนตัวเงินลงไป 200,000
     
       คิวงานบนกระดานครั้งต่อมาเป็นที่ “ด่านขุนทด โคราช”


อ่านละคร สายฟ้ากับสมหวัง ตอนที่ 6/2 วันที่ 27 ก.ย. 55

ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง จากเค้าโครงเรื่อง : กษิดินทร์ แสงวงศ์ และสุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง บทโทรทัศน์ดั้งเดิม : สุรินทร์ รุ่งสว่าง
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ดัดแปลงบทประพันธ์ : พัณณิฎานันทณ์ ศิริเลิศ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ. 5
ที่มา manager.co.th